Skip to content

Free standard shipping on orders over 10,000 THB

Blog

7 เทคนิคการเลือกไวน์สำหรับมือใหม่

by Ahead Shopify 14 Nov 2024

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

7 เทคนิคการเลือกไวน์สำหรับมือใหม่

ไวน์
ไวน์” เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้รับความนิยมจากสายดื่มทั่วโลก เพราะว่าไวน์นั้นมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งไวน์แดง ไวน์ขาว ไวน์โลกเก่า ไวน์โลกใหม่ และยังมีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นให้เลือกหลากหลายสไตล์ ที่สามารถตอบโจทย์การดื่มของนักดื่มได้อย่างดีเยี่ยมมากขึ้น แต่ด้วยความที่ไวน์นั้นมีความหลากหลาย ทั้งในเรื่องของรสชาติ รสสัมผัส กลิ่น แหล่งผลิต สายพันธุ์องุ่นที่ใช้ในการผลิต และเรื่องอื่นๆ ที่อาจทำให้นักดื่มหลายๆ คนเลือกซื้อไม่ถูกว่าควรเลือกซื้อไวน์แบบไหนดี เพื่อให้ถูกใจการดื่มของตัวเองมากที่สุด ดังนั้น ในบทความนี้ทาง Wine Cellar BKK จึงจะมาแชร์เทคนิคในการเลือกไวน์สำหรับมือใหม่ ที่จะช่วยให้การเลือกไวน์เป็นเรื่องง่าย และไม่ว่าจะหยิบขวดไหนขึ้นมาก็จะต้องพรีเมียมถูกใจสายดื่มอย่างแน่นอน โดยในแต่ละเทคนิคจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง สามารถติดตามกันได้เลย!

1. ทำความรู้จักก่อนว่าไวน์แดงกับไวน์ขาว มีความแตกต่างกันยังไง

ก่อนที่จะทำการเลือกซื้อไวน์ควรทำความรู้จักกับไวน์ก่อนว่ามีให้เลือกกี่ประเภท โดยไวน์ที่เป็นที่นิยมของนักดื่มนั้นจะมีอยู่ 2 ประเภทหลัก ได้แก่ ไวน์แดง และไวน์ขาว ที่จะมีความแตกต่างกันในหลากหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสี รสชาติ รสสัมผัส และกลิ่น รวมถึงสายพันธุ์องุ่นที่ใช้ในการผลิตด้วย ดังนั้น ในหัวข้อนี้จึงจะพานักดื่มไปดูกันว่าไวน์แดง และไวน์ขาวแตกต่างกันยังไง เพื่อที่นักดื่มมือใหม่จะได้เลือกซื้อให้ถูกใจสไตล์การดื่มของตัวเอง ดังนี้

1.1 ไวน์แดง

ไวน์แดง เป็นไวน์ที่ผลิตมาจากองุ่นแดง หรือที่หลายๆ คนเรียกว่าองุ่นดำ และผ่านการหมักบ่มพร้อมกับเปลือก จนได้ไวน์แดงที่มีสีแดงหลากหลายเฉด เช่น สีแดงทับทิม สีแดงเข้ม สีแดงอมม่วง หรือสีแดงเข้มจนเกือบดำ เป็นต้น มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่มีความหอมหวาน เข้มข้น หนักแน่น มีความฝาดปานกลางถึงมาก มีรายละเอียดต่างๆ ที่ค่อนข้างซับซ้อน และส่วนใหญ่จะมี Body แบบ Medium Body และ Full Body

1.2 ไวน์ขาว

ไวน์ขาว เป็นไวน์ที่ผลิตมาจากองุ่นเขียว หรือที่หลายๆ คนเรียกว่าองุ่นขาว และผ่านการหมักบ่มทั้งแบบมีเปลือก และไม่มีเปลือก จนได้ไวน์ขาวที่มีเฉดสีอ่อนหลากหลายสี เช่น สีเหลืองอ่อน สีเหลืองทอง สีเหลืองประกายเขียว สีเหลืองเข้ม หรือสีเหลืองอมน้ำตาล เป็นต้น มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่มีความหอม หวานอมเปรี้ยว และสดชื่น ที่จะมีความบางเบากว่า และฝาดน้อยกว่าไวน์แดง มีรายละเอียดต่างๆ ที่ไม่ค่อยซับซ้อนมากนัก และส่วนใหญ่จะมี Body แบบ Medium Body ดังนั้น นักดื่มมือใหม่ที่ไม่มั่นใจว่าจะดื่มไวน์แดงได้หรือไม่ ก็สามารถเลือกดื่มไวน์ขาวแทนก่อนได้ และเมื่อคุ้นชินแล้วก็ค่อยเลือกซื้อไวน์แดงลิ้มลอง

2. เลือกไวน์โลกเก่ากับไวน์โลกใหม่ว่าชื่นชอบแบบไหนมากกว่ากัน

ไวน์
นอกจากทำความรู้จักกับไวน์แดง และไวน์ขาวแล้ว ก่อนเลือกซื้อไวน์สำหรับมือใหม่นั้นก็ควรทำความรู้จักกับไวน์โลกเก่า และไวน์โลกใหม่ด้วย เพราะว่าไวน์ทั้ง 2 แบบนั้นจะมีความแตกต่างกันทั้งวิธีการผลิต แหล่งผลิต และสายพันธุ์องุ่นที่ใช้ ที่เป็นปัจจัยที่สามารถส่งผลให้มีรสชาติ รสสัมผัส กลิ่น ระดับแอลกอฮอล์ และเอกลักษณ์ของไวน์ที่แตกต่างกันตามไปด้วย ดังนั้น ในหัวข้อนี้จะพานักดื่มไปดูกันว่าระหว่างไวน์โลกเก่า และไวน์โลกใหม่นั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร เพื่อให้นักดื่มเปรียบเทียบว่าชอบไวน์แบบไหนมากกว่ากัน และจะได้เลือกซื้อไวน์ที่ตอบโจทย์สไตล์การดื่มของตัวเองได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ดังนี้

2.1 ไวน์โลกเก่า

ไวน์โลกเก่า (Old World Wine) คือ ไวน์ที่มีแหล่งผลิต หรือถูกผลิตขึ้นในประเทศแถบยุโรป อย่างเช่น ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมนี สเปน โปรตุเกส ออสเตรีย โรมาเนีย หรือฮังการี เป็นต้น โดยไวน์โลกเก่าจะเป็นไวน์ที่มีการผลิตมานานกว่า 5 ทศวรรษ และมีการใช้กระบวนการผลิตที่มีความดั้งเดิม ตามหลักการที่ยึดมั่นในประเพณี และวัฒนธรรม และมีความเคร่งครัดในการเลือกใช้องุ่นตั้งแต่การเพาะปลูก สายพันธุ์องุ่น ไปจนถึงการเก็บเกี่ยว เพื่อให้ไวน์โลกเก่ามีกลิ่นอายที่สะท้อนถึงแหล่งเพาะปลูกองุ่น และแหล่งผลิตได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ไวน์โลกเก่านั้นมีสไตล์ และเอกลักษณ์ของไวน์ที่มีความดั้งเดิม มีกลิ่นอายของความคลาสสิก มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่มีความเข้มข้น หอมหวาน ซับซ้อน หนักแน่น แต่ว่าจะมีระดับของแอลกอฮอล์น้อยกว่าไวน์โลกใหม่ ซึ่งในปัจจุบันนั้นก็ยังมีไวน์โลกเก่าให้นักดื่มได้เลือกสรรกันอย่างมากมาย เพราะว่ามีการส่งต่อกระบวนการผลิตที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของไวน์โลกเก่าให้กับรุ่นลูก รุ่นหลาน เพื่อสืบทอดเอกลักษณ์ในการผลิตไวน์โลกเก่าของแต่ละแหล่งผลิตให้ยังคงอยู่สืบไป

2.2 ไวน์โลกใหม่

ไวน์โลกใหม่ (New World Wine) คือ ไวน์ที่มีแหล่งผลิต หรือถูกผลิตขึ้นในประเทศที่ไม่ได้อยู่ในแถบยุโรป เช่น สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อาร์เจนตินา ชิลี จีน หรือญี่ปุ่น เป็นต้น โดยไวน์โลกใหม่จะเป็นไวน์ที่มีการผลิตมาน้อยกว่า 5 ทศวรรษ และมีการใช้กระบวนการผลิตแบบร่วมสมัย ที่มีการนำเทคโนโลยีสมันใหม่มาใช้ในการผลิตด้วย และมีการเลือกใช้องุ่นทั้งสายพันธุ์องุ่นที่มาจากแถบยุโรป และผสมสายพันธุ์องุ่นในพื้นที่ใหม่ เพื่อให้ได้องุ่นที่สามารถปลูกได้ในสภาพดิน น้ำ อากาศ ในแต่ละแหล่งผลิตได้ และเมื่อการผลิต และการใช้องุ่นมีการปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา จึงทำให้รสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของไวน์มีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย แต่ก็ยังคงความหอมหวาน และความเข้มข้นไว้ได้ดี มีระดับปริมาณแอลกอฮอล์สูงกว่าไวน์โลกเก่า แต่จะมีความซับซ้อน และความหนักแน่นน้อยกว่า ดังนั้น นักดื่มคนไหนที่อยากดื่มไวน์ที่ดื่มง่าย และเข้าถึงรายละเอียดต่างๆ ได้ง่าย ก็สามารถเลือกดื่มไวน์โลกใหม่ก่อน และเมื่อคุ้นชินก็ค่อยขยับไปดื่มไวน์โลกเก่าได้

3. เลือกจากสายพันธุ์องุ่นที่ใช้ในการผลิตไวน์

ไวน์
นอกจากการเลือกไวน์โลกเก่า และไวน์โลกใหม่แล้ว อีกเทคนิคในการเลือกไวน์สำหรับมือใหม่ที่ควรรู้ นั่นก็คือ การเลือกจากสายพันธุ์องุ่นที่ใช้ในการผลิตไวน์ เพราะสายพันธุ์องุ่นแต่ละสายพันธุ์นั้นเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้รสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของไวน์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น และแต่ละแหล่งผลิตที่แตกต่างกัน ดังนั้น ในหัวข้อนี้ก็จะพานักดื่มไปดูกันว่าถ้าหากอยากดื่มไวน์แดง หรือไวน์ขาวควรเลือกไวน์ที่ผลิตมาจากองุ่นสายพันธุ์ไหนบ้าง ซึ่งสายพันธุ์องุ่นที่นิยมนำมาหมักบ่มไวน์ มีดังนี้

3.1 ไวน์แดง

สายพันธุ์องุ่นที่ใช้ในการหมักบ่มไวน์แดงจะนิยมใช้องุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon, สายพันธุ์ Cabernet Franc, สายพันธุ์ Merlot, สายพันธุ์ Pinot Noir, สายพันธุ์ Malbec สายพันธุ์ Camenere และสายพันธุ์ Syrah โดยหลังจากการหมักบ่มนั้นแต่ละสายพันธุ์นั้นก็จะให้รสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่มีความแตกต่างกันเล็กน้อย แต่ว่าก็จะยังคงเอกลักษณ์ขององุ่นดำที่จะมีความหอมหวาน และมีความเข้มข้น ถ้าหากนักดื่มมือใหม่คนไหนที่อยากจะลิ้มลองไวน์แดง ก็อาจจะลองเลือกไวน์แดงที่ผลิตมาจากองุ่นสายพันธุ์ที่กล่าวมาข้างต้นได้ เพราะมีความดื่มง่าย หอมหวาน ไม่ฝาดเกินไป สามารถดื่มได้เรื่อยๆ อย่างเพลิดเพลิน

3.2 ไวน์ขาว

สายพันธุ์องุ่นที่ใช้ในการหมักบ่มไวน์ขาวจะนิยมใช้องุ่นสายพันธุ์ Chardonnay, สายพันธุ์ Pinot Grigio, สายพันธุ์ Sauvignon Blanc, สายพันธุ์ Reiesling, สายพันธุ์ Moscato และสายพันธุ์ Pinot Blanc โดยหลังจากการหมักบ่มนั้นแต่ละสายพันธุ์ก็จะให้รสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่มีความหอมหวานผลไม้ ฟรุ๊ตตี้ และมีความสดชื่น ที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของไวน์ขาวเกือบทุกตัว รวมถึงยังมีความโปร่ง เบา นุ่ม ที่ดื่มง่าย ดังนั้น นักดื่มคนไหนที่อยากจะเริ่มลองดื่มไวน์ หรืออยากได้ไวน์แบบเบาๆ มาดื่มในวันชิลๆ ก็สามารถเลือกซื้อไวน์ขาวมาลิ้มลองได้

4. เลือกจากปีที่บ่ม หรือวินเทจของไวน์

สำหรับปีที่บ่มไวน์ หรือวินเทจของไวน์ เป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อการเลือกซื้อไวน์เป็นอย่างมาก เพราะเป็นสิ่งที่สามารถบ่งบอกได้ถึงอายุของไวน์ และบ่งบอกได้ถึงรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่นักดื่มได้จะได้สัมผัสด้วย โดยหลายๆ คนอาจจะมีความเชื่อ หรือความคิดที่ว่าไวน์ยิ่งเก่ายิ่งดี ยิ่งหมักบ่มนานยิ่งอร่อย แต่ความเป็นจริงนั้นยิ่งไวน์เก่าเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีความความซับซ้อนมากขึ้น และเลือกให้ถูกใจได้ยาก เพราะไวน์ที่มีวินเทจเก่า หรือหมักบ่มมานานจะผ่านการเก็บรักษาในสภาพแวดล้อม และสภาพอากาศในแต่ละปีที่แตกต่างกัน ซึ่งจะส่งผลให้ไวน์มีรายละเอียดต่างๆ เปลี่ยนไป และอาจไม่ถูกใจสายดื่มได้ ดังนั้น ถ้าหากไม่ใช่สายดื่มที่ชื่นชอบไวน์เป็นพิเศษ หรือชอบการสะสมไวน์วินเทจเก่าแก่ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเลือกซื้อไวน์ที่มีอายุหลายปี หรือวินเทจเก่าแก่มากนัก แค่เลือกไวน์ที่มีอายุย้อนหลังแค่ 2-3 ปี ก็จะได้ไวน์ที่มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่ใกล้เคียงกับสไตล์การดื่มของนักดื่มมากที่สุด และสำหรับนักดื่มคนไหนที่อยากได้ไวน์ที่มีวินเทจกำลังดี รสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นพรีเมียมได้มาตรฐาน ที่ซื้อไปแล้วไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน ก็สามารถแวะมาซื้อได้ที่ Line Official : @winecellar24 ที่มีแอดมินคอยให้คำแนะนำสินค้าอย่างดี ตลอด 24 ชั่วโมง ตอบแชทไวไม่ต้องรอนาน มีบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงหน้าบ้าน

5. เลือกจากการจับคู่ไวน์กับอาหาร

ไวน์
การเลือกไวน์จากการจับคู่กับอาหารที่จะนำมารับประทานคู่กับไวน์ ก็เป็นอีกเทคนิคที่สายดื่มมือใหม่นิยมใช้กันเป็นอย่างมาก เพราะว่าทุกคนรู้อยู่แล้วว่าตัวเองชอบรับประทานอาหารแบบไหน แต่ไม่รู้ว่าไวน์แต่ละยี่ห้อ แต่ละแบบนั้นมีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นเป็นอย่างไร ดังนั้น นักดื่มก็เริ่มต้นการดื่มไวน์ด้วยการเลือกเมนูจานโปรดไว้ก่อน แล้วจึงค่อยเลือกไวน์ที่เหมาะสมตาม เช่น ไวน์ที่มีความเข้มข้น หรือมีความหนักแน่น หรือไวน์ที่ผลิตมาจากองุ่นสายพันธุ์ Cabernet Sauvignon ก็จะเหมาะกับอาหารที่มีส่วนประกอบหลักเป็นเนื้อสัตว์ หรือชีส อย่างเมนูสเต็ก บาร์บีคิว หรือเมนูชีสต่างๆ หรือถ้าหากเป็นไวน์ที่มีความโปร่ง เบาบาง มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบอ่อนๆ หรือไวน์ที่ผลิตมาจากองุ่นสายพันธุ์ Chardonnay ก็จะเหมาะกับอาหารที่มีส่วนประกอบหลักเป็นเนื้อปลา เนื้อไก่ อาหารทะเล หรืออาหารที่มีครีมซอส เป็นต้น และสำหรับนักดื่มคนไหนที่ไม่รู้ว่าอาหารที่ตัวเองชอบนั้นควรจับคู่กับอาหารแบบไหนดี ก็สามารถแวะมาให้แอดมินช่วยเลือกไวน์ที่ Matching กับอาหารจานโปรดได้ผ่าน Line Official : @winecellar24 ตลอด 24 ชั่วโมง

6. เลือกจากราคาไวน์ที่มีความสมเหตุสมผล

ไวน์
“ราคา” เป็นเทคนิคในการเลือกซื้อไวน์ที่สายดื่มมือใหม่ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะว่าไวน์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น และแต่ละวินเทจนั้นจะมีราคาที่แตกต่างกัน โดยจะมีให้นักดื่มเลือกซื้อกันเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักแสน และนักดื่มหลายๆ คนก็อาจจะคิดว่าไวน์ที่ดี และพรีเมียมนั้นจะต้องมีราคาสูง แต่ว่าก็มีไวน์ที่ถูก และดีก็มีให้นักดื่มได้เลือกซื้อเช่นกัน ซึ่งนักดื่มควรจะดูไวน์ที่มีราคาสมเหตุสมผลกับยี่ห้อ รุ่น และวินเทจหรือไม่ อย่างเช่น ไวน์ยี่ห้อดัง รุ่นหาซื้อได้ยาก และวินเทจเก่าแก่ ก็มักจะมีราคาสูง หรือไวน์ยี่ห้อดัง รุ่นหาซื้อได้ง่าย วินเทจไม่กี่ปี ก็จะมีราคาที่ไม่แพง เป็นต้น ดังนั้น ทุกครั้งที่นักดื่มเลือกซื้อไวน์นั้นเพียงแค่เลือกซื้อไวน์ที่มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของไวน์ตามสไตล์ที่ตัวเองชอบ หรือตามเทคนิคอื่นๆ ที่อยู่ในบทความนี้ก็เพียงพอแล้ว เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการเลือกซื้อไวน์ที่มีราคาสูงเกินความจำเป็นที่เป็นส่วนหนึ่งของการตลาดที่ทำให้ภาพจำของการซื้อไวน์ว่าไวน์ที่แพงเท่ากับไวน์ที่ดี และสำหรับนักดื่มคนไหนที่อยากจะซื้อไวน์ในราคาย่อมเยา สมเหตุสมผล ไม่โดนหลอก หรือโดนโก่งราคา ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Line Official : @winecellar24 ที่มีแอดมินคอยแนะนำอย่างจริงใจ เพื่อให้นักดื่มได้เครื่องดื่มคุณภาพดี มีมาตรฐาน ในราคาย่อมเยามากที่สุด

7. เลือกจากประสบการณ์ในการดื่มไวน์ของตัวเอง

ไวน์
การเลือกซื้อไวน์จากประสบการณ์ในการดื่มไวน์ของตัวเอง เป็นเทคนิคที่จะช่วยให้นักดื่มสามารถเลือกซื้อไวน์ได้ง่ายมากขึ้น เพราะว่าประสบการณ์ ความชอบ และสไตล์การดื่มไวน์ของนักดื่มแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะสายดื่มมือใหม่ที่ยังไม่เคยดื่มไวน์มาก่อน หรือมีประสบการณ์ในการดื่มไวน์น้อย ก็อาจจะยังไม่คุ้นชินกับความหลากหลายของไวน์มากนัก ดังนั้น จึงควรเลือกไวน์ที่มีความหอมหวาน สดชื่น ความเข้มข้นน้อยถึงปานกลาง เพื่อให้สามารถดื่มได้ง่าย และเมื่อเริ่มชินกับ Texture ต่างๆ ของไวน์แล้วก็อาจจะค่อยปรับมาดื่มไวน์ที่มีความเข้มข้นมากขึ้น เพราะถ้าหากเริ่มต้นดื่มไวน์ด้วยไวน์ที่มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่มีความเข้มข้น หนักแน่น หรือฝาดจนเกินไป อาจทำให้รู้สึกว่าการดื่มไวน์เป็นเรื่องยาก และจะไม่อยากลิ้มลองไวน์อีกเลยก็เป็นได้ ซึ่งนักดื่มที่อยากจะเลือกซื้อไวน์ด้วยเทคนิคนี้ แต่ไม่รู้ว่าควรจะเลือกยังไง เพราะไม่รู้ว่าไวน์แต่ละตัวที่อยากดื่มนั้นเหมาะกับตัวเองหรือไม่ ก็สามารถแวะมาขอคำแนะนำจากแอดมินของ Wine Cellar BKK ได้ เพียงแค่แอดไลน์มาที่ Line Official : @winecellar24 และบอกแอดมินได้เลยว่าอยากได้ไวน์ที่มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน เพื่อให้แอดมินแนะนำไวน์ที่ตอบโจทย์การดื่มของนักดื่มได้เป็นอย่างดี และช่วยเปิดประสบการณ์ในการดื่มไวน์ให้ดีเยี่ยมมากยิ่งขึ้น

8. หาซื้อไวน์แดง ไวน์ขาว ไวน์โลกเก่า ไวน์โลกใหม่ ได้เลยที่ Wine Cellar BKK มีสินค้าพร้อมส่ง ราคาดีที่สุด ของแท้ 100%

ถ้าหากนักดื่มคนไหนกำลังหาซื้อไวน์แดง ไวน์ขาว ไวน์โลกเก่า หรือไวน์โลกใหม่ในราคาสบายกระเป๋า ต้องห้ามพลาดที่แวะมาหาซื้อที่ Wine Cellar BKK แหล่งนำเข้า และแหล่งจำหน่ายเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีเครื่องดื่มให้นักดื่มได้เลือกสรรกันหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นไวน์แดง ไวน์ขาว แชมเปญ สปาร์คกลิ้งไวน์ คอนญัก วิสกี้ หรือเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ก็มีให้นักดื่มได้เลือกซื้อกันอย่างครบครัน การันตีสินค้าทุกขวดเป็นของแท้ 100% ผ่านการคัดสรรเครื่องดื่มทุกขวดด้วยความใส่ใจ เพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่มีคุณภาพ และมาตรฐาน และการันตีว่าจำหน่ายในราคาดีที่สุดในตลาด เพื่อจำหน่ายเครื่องดื่มพรีเมียมในราคาสบายกระเป๋า และให้นักดื่มเข้าถึงเครื่องดื่มขวดโปรดได้ในราคาย่อมเยา มาพร้อมกับบริการต่างๆ ที่สามารถตอบโจทย์นักดื่มได้เป็นอย่างดี อย่างบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงหน้าบ้าน ที่มีให้นักดื่มได้เลือกใช้ทั้งบริการจัดส่งสินค้าด่วนภายในกทม. ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ถูกใจสายดื่มที่อยู่ในกทม. และอยากได้เครื่องดื่มแบบรวดเร็วทันใจ และบริการจัดส่งสินค้าทั่วประเทศ ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 1-2 วัน ไม่ว่าจะอยู่จังหวัดไหน หรืออยู่มุมไหนของประเทศก็สามารถสั่งซื้อเครื่องดื่มกับ Wine Cellar BKK ได้ แพ็คสินค้าทุกออเดอร์เป็นอย่างดี มีการรับประกันสินค้าระหว่างการจัดส่ง หากสินค้าได้รับความเสียหาย แตก หัก หรืออยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ที่เกิดจากการจัดส่ง ทางร้านยินดีเปลี่ยนเครื่องดื่มเป็นขวดใหม่ให้ทันที แบบไม่มีเงื่อนไขใดๆ ให้ยุ่งยาก และยังมีบริการแอดมินให้คำแนะนำสินค้า อยากได้ไวน์แดง หรือไวน์ขาวที่มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน อยากได้เครื่องดื่มประเภทอื่นๆ อยากได้ยี่ห้อไหนเป็นพิเศษ มีงบประมาณเท่าไหร่ ซื้อดื่มเอง หรือซื้อเป็นของขวัญ ก็สามารถแจ้งแอดมินได้ เพื่อให้แอดมินแนะนำเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์กับความต้องการของนักดื่มมากที่สุด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้เลยที่ Line : @wincellar24 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง แอดมินตอบแชทไว ไม่ต้องรอนาน หรือถ้าหากอยากดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมด้วยตัวเอง ก็สามารถแวะเข้ามาดูได้เลยที่ www.winecellarbkk.com หรือ คลิก ที่นี่

Prev Post
Next Post

Thanks for subscribing!

This email has been registered!

Shop the look

Choose Options

winecellarbkk.shop
Please verify your age

Recently Viewed

Edit Option
Back In Stock Notification
Terms & Conditions
What is Lorem Ipsum? Lorem Ipsum is simply dummy text of the printing and typesetting industry. Lorem Ipsum has been the industry's standard dummy text ever since the 1500s, when an unknown printer took a galley of type and scrambled it to make a type specimen book. It has survived not only five centuries, but also the leap into electronic typesetting, remaining essentially unchanged. It was popularised in the 1960s with the release of Letraset sheets containing Lorem Ipsum passages, and more recently with desktop publishing software like Aldus PageMaker including versions of Lorem Ipsum. Why do we use it? It is a long established fact that a reader will be distracted by the readable content of a page when looking at its layout. The point of using Lorem Ipsum is that it has a more-or-less normal distribution of letters, as opposed to using 'Content here, content here', making it look like readable English. Many desktop publishing packages and web page editors now use Lorem Ipsum as their default model text, and a search for 'lorem ipsum' will uncover many web sites still in their infancy. Various versions have evolved over the years, sometimes by accident, sometimes on purpose (injected humour and the like).
this is just a warning
Login
Shopping Cart
0 items