Couldn't load pickup availability
- Free standard shipping on orders over 10,000 THB
You may return most new, unopened items within 30 days of delivery for a full refund. We'll also pay the return shipping costs if the return is a result of our error (you received an incorrect or defective item, etc.).
You should expect to receive your refund within four weeks of giving your package to the return shipper, however, in many cases you will receive a refund more quickly. This time period includes the transit time for us to receive your return from the shipper (5 to 10 business days), the time it takes us to process your return once we receive it (3 to 5 business days), and the time it takes your bank to process our refund request (5 to 10 business days).
If you need to return an item, simply login to your account, view the order using the "Complete Orders" link under the My Account menu and click the Return Item(s) button. We'll notify you via e-mail of your refund once we've received and processed the returned item.
Smith Haut Lafitte คือ หนึ่งในอัญมณีแห่ง Pessac-Léognan ใจกลางเขต Graves ของบอร์กโดซ์ และเป็นไร่องุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องกราเวล หรือก้อนกรวด ซึ่งมอบเอกลักษณ์ควันกราไฟต์ แร่ธาตุ และความละเมียดอันเป็นซิกเนเจอร์ และโดดเด่นด้วยการผสมผสานศิลปะดั้งเดิมกับนวัตกรรมร่วมสมัยอย่างลงตัว ตั้งแต่การคัดเลือกพันธุ์องุ่นแบบ massal selection การทำไร่แบบยั่งยืน ไปจนถึงการมี โรงทำถังไม้โอ๊คของตนเอง เพื่อควบคุมโทนไม้ได้ละเอียดตามที่ต้องการ และนอกจากชื่อเสียงในฐานะ Graves Grand Cru Classé แล้ว Smith Haut Lafitte ยังเป็นภาพสะท้อนของ “ความเป็นบอร์กโดซ์สมัยใหม่” ที่ให้ความสำคัญกับ terroir ไม่แพ้เทคโนโลยี ทำให้ Smith Haut Lafitte เป็นไวน์แดงที่นักดื่มทั้งสายคลาสสิกและร่วมสมัยต่างยกให้เป็น “ไวน์แห่งความสมดุล” ระหว่างความเข้มข้น ความประณีต และกลิ่นอายเฉพาะตัวที่หาได้ยาก
ดังนั้น ในบทความนี้ทาง Wine Cellar BKK ก็จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ Smith Haut Lafitte ว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน ทำไมถึงเป็นที่นิยมของเหล่านักดื่มมาอย่างยาวนาน พร้อมแชร์เทคนิคในการดื่มแบบง่ายๆ ที่ช่วยให้สัมผัสถึงกลิ่นอายของไวน์โลกเก่าได้อย่างเต็มที่ โดยจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง สามารถติดตามกันได้เลย
Smith Haut Lafitte มีจุดต้นกำเนิดมานานหลายศตวรรษในดินแดน Graves ที่ชื่อว่า “Lafitte หรือ La Petite Fitte” ที่หมายถึง “เนินเขา” ที่เป็นหัวใจของ terroir ส่วนคำว่า “Smith” มาจาก George Smith พ่อค้าเรือชาวสก็อตซึ่งได้ครอบครองที่ดิน และสร้างคฤหาสน์ในศตวรรษที่ 18 และก็สั่งสมชื่อเสียงจากไวน์ที่มีกลิ่นควันหินไฟ และโครงสร้างอันงดงามที่เป็นเอกลักษณ์ของ Graves มาจนถึงทุกวันนี้
โดยในศตวรรษที่ 20 พื้นที่แห่งนี้ได้รับการบรรจุอยู่ในรายชื่อ Graves Grand Cru Classé ซึ่งตอกย้ำศักยภาพของไร่องุ่น และจุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นใน ปี 1990 เมื่อ Daniel และ Florence Cathiard นักกีฬาสกีทีมชาติฝรั่งเศส และผู้ประกอบการเข้ามาซื้อกิจการ และวางยุทธศาสตร์พลิกโฉมทั้งไร่องุ่น และโรงบ่ม และพวกเขาลงทุนยกเครื่องทั้งระบบ ตั้งแต่ฟื้นฟูเถาองุ่น สร้างห้องหมักแบบแรงโน้มถ่วง ปรับปรุงห้องบ่ม ไปจนถึงก่อตั้ง โรงทำถังไม้โอ๊คของตนเอง เป็นต้น
สำหรับจุดเด่นสำคัญ ของ Smith Haut Lafitte คือ ผลิตภายใต้แนวคิด “bio-precision” ที่ผสานเกษตรแบบยั่งยืน หรืออินทรีย์ ที่อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ไถด้วยม้าในบางแปลง ใช้ยีสต์ประจำถิ่นในบางส่วน และการคัดองุ่นเป็นรายแปลงอย่างพิถีพิถัน นอกจากนี้ยังมี Les Sources de Caudalie โรงแรมสปาวิโนเทอราพี ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน ก็ได้สะท้อนวิถีชีวิตที่หลอมรวมไวน์ ศิลปะ และธรรมชาติเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
จุดเปลี่ยนที่สำคัญของ Smith Haut Lafitte นั้นเกิดขึ้นหลังยุค Cathiard ได้แก่ การยกระดับคุณภาพอย่างต่อเนื่องจนคะแนนนักวิจารณ์เพิ่มสูงสม่ำเสมอ การยึดแนวทาง ลดการพึ่งพาเทคนิคก้าวร้าว เช่น สกัดหนักเกินไป และหันมาให้เวลา และความนุ่มนวลในการสกัดแทนนิน ทำให้มีความละเอียด และกลมกล่อมมากขึ้น และทุกองค์ประกอบนี้ทำให้ Smith Haut Lafitte ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในชาโตว์ที่สะท้อน “ความลุ่มลึกแบบ Graves” ได้อย่างเด่นชัดที่สุดในยุคใหม่
ดังนั้น นักดื่มคนไหนที่อยากจะสัมผัสกลิ่นอายของไวน์แดงฝรั่งเศสแบบพรีเมียมในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ก็สามารถแวะมาหาซื้อ Smith Haut Lafitte ได้เลยที่ Wine Celler BKK ที่มี Smith Haut Lafitte พร้อมส่งทันที ไม่ต้องรอพรีออเดอร์ ของแท้ 100% ราคาดีที่สุด จัดส่งไวให้ถึงหน้าบ้าน สั่งซื้อได้ที่ Line Official : @winecellar24 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับกระบวนการผลิต Smith Haut Lafitte นั้นมีความพิถีพิถัน ละเอียด และใส่ใจในทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้ Smith Haut Lafitte ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสะท้อนกลิ่นอายของแหล่งผลิตได้เป็นอย่างดี ซึ่งในแต่ละขั้นตอนการผลิตนั้นก็จะมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
การจัดการไร่ และคัดเลือกแปลง สำหรับการผลิต Smith Haut Lafitte นั้นเริ่มจากการทำไร่แบบยั่งยืน หรือแบบอินทรีย์ ที่เน้นความหลากหลายทางชีวภาพ ปลูกพืชคลุมดิน เพิ่มจุลินทรีย์ในดิน และใช้การคัดเลือกพันธุ์แบบ massal selection เพื่อรักษายีน และลักษณะเฉพาะของเถาเก่า และแต่ละแปลงจะได้รับการดูแลตามจุลภูมิอากาศ และความลึกของชั้นกราเวล หรือหินปูน เพื่อให้ผลไม้สุกสมบูรณ์ มีกรด และความเข้มที่สมดุล
การเก็บเกี่ยวแบบรายแปลง สำหรับองุ่นที่ใช้ในการผลิต Smith Haut Lafitte นั้นจะเก็บด้วยมือ และจะไล่เก็บตามลำดับแปลง และตามระดับความสุก ซึ่งจะเก็บในเวลากลางคืน เพื่อรักษาความสด และหอมหวานขององุ่นแต่ละสายพันธุ์ไว้ให้มากที่สุด
การคัดแยก และการเตรียมองุ่น สำหรับองุ่นที่เก็บเกี่ยวมานั้นจะผ่านสายพานคัดแยกสองชั้น ที่มีการคัดแยกด้วยมืออีกครั้งด้วย และเมื่อคัดแยกแล้วองุ่นที่ได้ก็จะถูกส่งเข้าถังด้วยแรงโน้มถ่วง เพื่อลดการช้ำ รวมถึงอัดแบบนุ่มนวล และควบคุมอุณหภูมิอย่างดี เพื่อป้องกันออกซิเดชัน และทำให้กลิ่นหอมผลไม้ชัดเจน
การหมัก สำหรับการหมัก Smith Haut Lafitte นั้นจะหมักแบบควบคุมอุณหภูมิในถังคอนกรีต และสแตนเลสขนาดพอเหมาะตามรายแปลง และจะใช้วิธี remontage หรือรินกลับ และ pigeage หรือจุ่มกาก เลี่ยงการสกัดหนัก เพื่อให้ได้แทนนินละเอียด และเนียนนุ่ม และจะแยกน้ำไวน์ แล้วพักให้ตะกอนตกตามสมควรก่อนเข้าสู่การบ่ม
การบ่มในถังไม้โอ๊ค สำหรับจุดเด่นของการผลิต Smith Haut Lafitte คือ มีโรงทำถังของตัวเอง ทำให้สามารถปรับเม็ดไม้ แหล่งไม้ และระดับการคั่วได้ละเอียด และในขั้นตอนนี้จะใช้ระยะเวลาประมาณประมาณ 16-18 เดือน เพื่อให้ได้เอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Smith Haut Lafitte เท่านั้น
การเบลนด์ และบรรจุขวด สำหรับขั้นตอนนี้ทางไวน์เมกเกอร์จะชิม และเบลนด์ไวน์ที่ได้เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างคาแรกเตอร์ของ Smith Haut Lafitte ในแต่ละวินเทจ หลังจากนั้นจะทำการกรองอย่างละเอียด และบรรจุขวดภายใต้ก๊าซเฉื่อย เพื่อคงความหอมหวาน กลมกล่อม และศักยภาพการพัฒนาในระยะยาว
ดังนั้น กระบวนการผลิต Smith Haut Lafitte ในแต่ละขั้นตอนทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพิถีพิถัน และมาตรฐานสูงสุดที่ Smith Haut Lafitte ยึดถือมาตลอด ทำให้ไวน์ทุกขวดมีคุณภาพที่สม่ำเสมอ และโดดเด่นอย่างแท้จริง และถ้าหากนักดื่มคนไหนอยากจะสัมผัสถึงความพรีเมียม และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Smith Haut Lafitte ในราคาสบายกระเป๋า ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Cellar BKK ที่มี Smith Haut Lafitte พร้อมส่งทันที ไม่ต้องรอพรีออเดอร์ การันตีของแท้ 100% และราคาดีที่สุดในตลาด พร้อมจัดส่งไวให้ถึงหน้าบ้าน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อได้เลยที่ Line Official : @winecellar24 ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับ Smith Haut Lafitte ถือเป็นหนึ่งในไวน์แดงระดับ Grand Cru Classé จาก Graves ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นไวน์ที่มีความสง่างาม และพลังในขวดเดียว ทำให้นักดื่มสามารถสัมผัสถึงรสชาติที่หลากหลาย รสสัมผัสที่กลมกล่อม และกลิ่นที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัว ซึ่งมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
รสชาติ (Flavou) สำหรับรสชาติของ Smith Haut Lafitte มักมีรสชาติที่ซับซ้อน และชัดเจน เริ่มต้นด้วยผลไม้สีเข้ม เช่น แบล็กเคอร์แรนท์ แบล็กเบอร์รี และเชอร์รี ตามมาด้วยลูกพลัมแห้ง และลูกพรุน นอกจากนี้ยังมีชั้นรสชาติที่เกิดจากการบ่มในถังไม้โอ๊ค เช่น วานิลลา ดาร์กช็อกโกแลต กาแฟคั่ว และเครื่องเทศแห้งอย่างกานพลู และอบเชย เมื่อไวน์มีอายุมากขึ้นจะพัฒนาความลึกซึ้งเป็นกลิ่นดินแร่ ใบยาสูบ หนังแท้ และทรัฟเฟิล ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ทำให้วินเทจเก่าๆ ของ Smith Haut Lafitte มีความซับซ้อนมากขึ้น
รสสัมผัส (Mouthfeel) สำหรับรสสัมผัสของ Smith Haut Lafitte อยู่ในแบบ Full Body ที่มีความเต็มปากเต็มคำ มีโครงสร้างที่แข็งแรงจากแทนนินที่เข้มข้น และละเอียด เนื้อสัมผัสมีความหนาแน่น แต่ยังคงความนุ่มนวล ไม่ฝาด หรือหยาบเกินไป มีความเป็นกรด หรือ Acidity อยู่ในระดับปานกลาง ช่วยสร้างความสมดุล และความสดชื่น ทำให้ไวน์ดื่มง่ายในขณะยังอายุน้อย และเมื่อเก็บบ่มต่อไป โครงสร้างทั้งหมดจะพัฒนาไปสู่ความกลมกล่อมที่หรูหรา และยาวนาน
กลิ่น (Aroma) สำหรับกลิ่นของ Smith Haut Lafitte มีความหลากหลาย และเปลี่ยนแปลงตามอายุ โดยช่วง 1-5 ปีนั้นจะมีความสดชื่นของผลไม้สีเข้มสดใหม่ เช่น เชอร์รี แบล็กเบอร์รี และลูกเกดดำ ผสมกับกลิ่นดอกไวโอเลต และดอกกุหลาบแห้ง และในช่วง 5-10 ปี จะมีกลิ่นไม้โอ๊ค เครื่องเทศ และเอสเปรสโซจะโดดเด่นมากขึ้น ส่วนในช่วงที่บ่มเต็มที่ หรือประมาณ 10-20 ปีขึ้นไป จะพัฒนาไปสู่กลิ่นที่มีความหรูหรา เช่น เห็ดทรัฟเฟิล ดินป่า ใบยาสูบ และหนังแท้ ทำให้แต่ละวินเทจของ Smith Haut Lafitte นั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สามารถพัฒนาได้อย่างยาวนาน
ด้วยองค์ประกอบของรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของ Smith Haut Lafitte ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร และสะท้อนถึงกลิ่นอายของไวน์แดงจากประเทศฝรั่งเศสได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ Smith Haut Lafitte เป็นอีกหนึ่งไวน์แดงที่เป็นที่นิยมของนักดื่มไวน์แดงทั่วโลก ดังนั้น ถ้าหากนักดื่มคนไหนอยากจะสัมผัสถึงความพรีเมียม และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Smith Haut Lafitte ในราคาสบายกระเป๋า ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Celler BKK ที่มี Smith Haut Lafitte พร้อมส่งทันที ไม่ต้องรอพรีออเดอร์ ของแท้ 100% ราคาดีที่สุด จัดส่งไวให้ถึงหน้าบ้าน สั่งซื้อได้ที่ Line Official : @winecellar24 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ถ้าหากนักดื่มอยากสัมผัสกับความหรูหรา และรายละเอียดอันซับซ้อนของ Smith Haut Lafitte อย่างเต็มที่ นักดื่มควรให้ความสำคัญกับวิธีการเสิร์ฟ การดื่ม การจับคู่อาหาร และการเก็บรักษา เพราะว่าแต่ละขั้นตอนล้วนส่งผลโดยตรงต่อประสบการณ์ในการดื่มไวน์ ซึ่งมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
วิธีการเสิร์ฟ ควรเสิร์ฟ Smith Haut Lafitte ที่อุณหภูมิประมาณ 16-18 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเปิดเผยรสชาติ และกลิ่นได้อย่างเต็มที่ ก่อนเสิร์ฟควรทำการดีแคนต์ไวน์ ประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้ไวน์สัมผัสกับอากาศ ช่วยให้แทนนินนุ่มลง และกลิ่นหอมซับซ้อนถูกปลดปล่อยออกมามากขึ้น พร้อมกับเลือกใช้แก้วทรง Bordeaux Glass หรือแก้วไวน์ที่มีปากกว้างเล็กน้อย เพื่อช่วยกระจายกลิ่นได้ดียิ่งขึ้น
วิธีการดื่ม ควรทำการดื่ม Smith Haut Lafitte ที่เริ่มต้นด้วยการหมุนแก้วเบาๆ เพื่อให้กลิ่นหอมฟุ้งกระจาย จากนั้นสูดดมกลิ่นอย่างช้าๆ เพื่อซึมซับชั้นกลิ่นที่หลากหลาย เมื่อจิบไวน์ควรปล่อยให้สัมผัสกับทุกส่วนในปาก แล้วค่อยๆ กลืนลงไป เพื่อรับรู้ถึงรสชาติที่พัฒนา และความยาวนานของ Aftertaste เทคนิคนี้ช่วยให้สัมผัสถึงโครงสร้างอันซับซ้อนของ Smith Haut Lafitte ได้อย่างแท้จริง
วิธีการจับคู่อาหาร ควรทำการจับคู่ Smith Haut Lafitte กับอาหารที่ใช้เนื้อแดงเป็นหลัก เช่น สเต็กเนื้อวัว เนื้อแกะย่างโรสแมรี เนื้อกวางตุ๋นไวน์แดง หรืออาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิมอย่างกาสูเลต์ และฟัวกราส์ รวมถึงอาหารไทยก็สามารถจับคู่กับแกงเผ็ดอ่อนๆ หรือแกงมัสมั่นเนื้อได้เช่นกัน หรือชีสเนื้อแข็งอย่างคอมเต้ และพาร์เมซาน ก็สามารถเข้ากันได้อย่างลงตัว
วิธีการเก็บรักษา ควรเก็บ Smith Haut Lafitte ไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิคงที่ระหว่าง 12-15 องศาเซลเซียส และมีความชื้น 70-75% เพื่อรักษาความสมบูรณ์ของจุกคอร์ก ควรวางขวดในแนวนอน เพื่อป้องกันจุกแห้ง หากเก็บในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ไวน์สามารถพัฒนาได้ยาวนานถึง 20-30 ปี หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับวินเทจ และหากเปิดแล้วควรดื่มให้หมดภายใน 1–2 วัน โดยเก็บไว้ในตู้แช่ไวน์ และใช้จุกคอร์กแบบสุญญากาศ เพื่อรักษาคุณภาพที่ดีที่สุด
สำหรับนักดื่มที่กำลังอยากจะซื้อ Smith Haut Lafitte ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Cellar BKK แหล่งนำเข้า และแหล่งจำหน่ายเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีบริการแอดมินให้คำแนะนำสินค้าอย่างมืออาชีพ อยากได้ไวน์ที่มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน หรืออยากได้เครื่องดื่มประเภทอื่นๆ อยากได้ยี่ห้อไหนเป็นพิเศษ มีงบประมาณเท่าไหร่ ซื้อดื่มเอง หรือซื้อเป็นของขวัญ ก็สามารถแจ้งแอดมินได้ เพื่อให้แอดมินแนะนำเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์กับความต้องการของนักดื่มมากที่สุด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้เลยที่
Website : www.winecellarbkk.com หรือ คลิก ที่นี่
โดยที่ Wine Cellar BKK มีเครื่องดื่มให้นักดื่มได้เลือกสรรกันหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นไวน์แดง ไวน์ขาว แชมเปญ สปาร์คกลิ้งไวน์ คอนญัก วิสกี้ หรือเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีให้เลือกซื้อกันอย่างครบครัน การันตีสินค้าทุกขวดเป็นของแท้ 100% ผ่านการคัดสรรเครื่องดื่มทุกขวดด้วยความใส่ใจ เพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่มีคุณภาพ และมาตรฐาน และการันตีว่าจำหน่ายในราคาดีที่สุดในตลาด เพื่อจำหน่ายเครื่องดื่มพรีเมียมในราคาสบายกระเป๋า และให้นักดื่มเข้าถึงเครื่องดื่มขวดโปรดได้ในราคาย่อมเยา มาพร้อมกับบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงหน้าบ้าน ที่มีให้นักดื่มได้เลือกใช้ทั้งบริการจัดส่งสินค้าด่วนภายในกทม. ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง และบริการจัดส่งสินค้าทั่วประเทศ ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 1-2 วัน สามารถสั่งซื้อเครื่องดื่มกับ Wine Cellar BKK ได้ง่ายๆ ทุกที่ ทุกเวลา แพ็คสินค้าทุกออเดอร์เป็นอย่างดี มีการรับประกันสินค้าระหว่างการจัดส่ง หากสินค้าได้รับความเสียหาย แตก หัก หรืออยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ที่เกิดจากการจัดส่ง ทางร้านยินดีเปลี่ยนเครื่องดื่มเป็นขวดใหม่ให้ทันที แบบไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อสร้างความประทับใจในการเลือกซื้อไวน์กับเราตลอดการบริการ
Thanks for subscribing!
This email has been registered!