Couldn't load pickup availability
- Free standard shipping on orders over 10,000 THB
You may return most new, unopened items within 30 days of delivery for a full refund. We'll also pay the return shipping costs if the return is a result of our error (you received an incorrect or defective item, etc.).
You should expect to receive your refund within four weeks of giving your package to the return shipper, however, in many cases you will receive a refund more quickly. This time period includes the transit time for us to receive your return from the shipper (5 to 10 business days), the time it takes us to process your return once we receive it (3 to 5 business days), and the time it takes your bank to process our refund request (5 to 10 business days).
If you need to return an item, simply login to your account, view the order using the "Complete Orders" link under the My Account menu and click the Return Item(s) button. We'll notify you via e-mail of your refund once we've received and processed the returned item.
เมื่อพูดถึงแบรนด์ไวน์สัญชาติสหรัฐอเมริกา หนึ่งในชื่อที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้น Robert Mondavi แบรนด์ที่ถือเป็นตำนานของ Napa Valley และยังเป็นผู้บุกเบิกให้ไวน์อเมริกันก้าวสู่เวทีระดับโลก และหนึ่งในไวน์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในไลน์ผลิตของแบรนด์ คือ Robert Mondavi Pinot Noir ไวน์แดงที่สะท้อนทั้งความพิถีพิถัน ความสมดุล และความเป็นเอกลักษณ์ขององุ่นพันธุ์ Pinot Noir
โดยเอกลักษณ์ของ Robert Mondavi Pinot Noir คือ ความซับซ้อนที่แตกต่างจากองุ่นสายพันธุ์อื่นๆ ทำให้การปลูก และการผลิตนั้นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญสูง และ Robert Mondavi ก็ได้เลือกใช้องุ่นสายพันธุ์นี้ที่ปลูกในเขตชายฝั่ง Central Coast ของแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีอากาศเย็นสบายจากลมทะเล และหมอกยามเช้า ทำให้ได้องุ่นที่มีโครงสร้างสมดุล และกลิ่นหอมซับซ้อน ทั้งผลไม้ป่า ดอกไม้ และเครื่องเทศอ่อนๆ ที่ผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
ดังนั้น ในบทความนี้ทาง Wine Cellar BKK ก็จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ Robert Mondavi Pinot Noir ว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน ทำไมถึงเป็นที่นิยมของเหล่านักดื่มมาอย่างยาวนาน พร้อมแชร์เทคนิคในการดื่มแบบง่ายๆ ที่ช่วยให้สัมผัสถึงกลิ่นอายของไวน์โลกใหม่ได้อย่างเต็มที่ โดยจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง สามารถติดตามกันได้เลย
Robert Mondavi Winery ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1966 โดย Robert Mondavi ผู้เป็นตำนานแห่งวงการไวน์อเมริกัน ด้วยความเชื่อมั่นว่า Napa Valley สามารถผลิตไวน์ที่ทัดเทียมกับยุโรปได้ และเขาเป็นคนแรกๆ ที่นำเทคนิคแบบฝรั่งเศสมาประยุกต์ใช้กับการทำไวน์ในสหรัฐอเมริกา และวางรากฐานให้อุตสาหกรรมไวน์แคลิฟอร์เนียก้าวสู่ความสำเร็จในระดับโลกจนถึงในปัจจุบัน
โดยในบรรดาไวน์หลายซีรีส์ของแบรนด์นั้นไลน์ Private Selection ถือกำเนิดขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1990 ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างไวน์คุณภาพสูงในราคาที่จับต้องได้ อีกทั้งเลือกใช้องุ่นจากเขตชายฝั่ง Central Coast ซึ่งได้รับอิทธิพลจากมหาสมุทรแปซิฟิก ลมทะเล และหมอก ที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิ ทำให้องุ่นสุกช้า ได้รสชาติที่เข้มข้น และซับซ้อน
ซึ่ง Robert Mondavi Pinot Noir คือ หนึ่งในไวน์ที่โดดเด่นที่สุดของไลน์นี้ ด้วยการผลิตจากองุ่นสายพันธุ์ Pinot Noir ที่ขึ้นชื่อว่าปลูกยาก และต้องการสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบ ทำให้ผู้ผลิตเลือกใช้องุ่นจากไร่ที่มีดินหลากหลาย ทั้งดินทราย ดินดินเหนียว และดินหิน ทำให้ไวน์ที่ได้มีมิติทางรสชาติครบถ้วน ทั้งความสดชื่นของผลไม้แดง กลิ่นดอกไม้ และสัมผัสเครื่องเทศบางเบา
สิ่งที่ทำให้ไวน์รุ่นนี้แตกต่างจากไวน์แดงทั่วไป คือ การผสมผสานระหว่างวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม และเทคนิคสมัยใหม่ อีกทั้งหลังการหมักองุ่นจะถูกบ่มในถังไม้โอ๊กบางส่วน เพื่อเพิ่มโครงสร้าง และกลิ่นที่ซับซ้อน แต่ไม่ทำให้รสชาติหนักจนเกินไป ทำให้ไวน์ออกมาในสไตล์ที่ดื่มง่ายแต่ยังคงความหรูหรา
จุดที่เปลี่ยนสำคัญของ Robert Mondavi Pinot Noir เป็นช่วงเวลาที่แบรนด์ Robert Mondavi ถูกจับตามองในระดับโลก โดยเฉพาะหลังการร่วมมือกับบริษัท Constellation Brands ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 ทำให้ Private Selection Pinot Noir สามารถขยายตลาดไปทั่วโลก และกลายเป็นไวน์ที่นักดื่มทั้งมือใหม่ และมืออาชีพเข้าถึงได้ง่าย
ดังนั้น Robert Mondavi Pinot Noir ไม่ได้เป็นเพียงไวน์ที่สื่อถึงความนุ่มนวล และความซับซ้อนของ Pinot Noir เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความตั้งใจในการทำไวน์ของ Robert Mondavi ที่ต้องการให้ผู้คนทั่วโลกสัมผัสเสน่ห์ของไวน์คุณภาพจากแคลิฟอร์เนียในราคาที่เป็นมิตรด้วย
สำหรับการผลิตไวน์ Robert Mondavi Pinot Noir นั้นจะต้องมีความพิถีพิถัน และละเอียดอ่อน ตั้งแต่การเพาะปลูกองุ่นจนถึงการบรรจุขวด เพื่อให้ Robert Mondavi Pinot Noir มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสามารถคงกลิ่นอายขององุ่นสายพันธุ์ Pinot Noir ได้อย่างชัดเจน ทำให้ในแต่ละขั้นตอนการผลิต Robert Mondavi Pinot Noir นั้นมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
การเพาะปลูกองุ่น สำหรับองุ่นสายพันธุ์ Pinot Noir ที่ใช้ในการผลิต Robert Mondavi Pinot Noir นั้นจะถูกเพาะปลูกในภูมิภาค Central Coast ของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยในพื้นที่นี้มีสภาพอากาศเย็นสบายจากลมทะเล ส่งผลให้องุ่นสุกพอดี และดินในพื้นที่นี้มีความหลากหลาย ที่ช่วยเสริมสร้างลักษณะเฉพาะขององุ่น และมีการดูแลไร่องุ่นอย่างเข้มงวด รวมถึงการตัดแต่งกิ่ง การควบคุมศัตรูพืช และการจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ ที่เป็นสิ่งสำคัญในการผลิตองุ่นคุณภาพสูง
การเก็บเกี่ยว เมื่อองุ่นสุกเต็มที่ ทีมงานจะเก็บเกี่ยวองุ่นในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อรักษาความสด และคุณภาพของผลผลิต และขั้นตอนในการเก็บเกี่ยวนั้นจะทำด้วยทั้งมือ และเครื่องจักร ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม หลังจากนั้นองุ่นจะถูกนำส่งโรงกลั่นไวน์อย่างรวดเร็ว เพื่อรักษาความสดใหม่ และป้องกันไม่ให้ผลองุ่นได้รับความเสียหาย
การคัดแยก และบด สำหรับองุ่นที่มาถึงโรงกลั่นจะถูกคัดแยกอีกครั้ง เพื่อกำจัดผลที่ไม่สมบูรณ์ หลังจากนั้นจะถูกบดเบาๆ เพื่อให้ได้น้ำองุ่น และเนื้อองุ่น และในกระบวนการนี้จะมีความละเอียด และเข้มงวดเป็นอย่างมาก เพื่อไม่ให้เมล็ดองุ่นแตก เพราะว่าอาจทำให้เกิดรสขมในไวน์ได้
การหมัก สำหรับน้ำองุ่น และเนื้อองุ่นที่ได้จากการบดนั้นจะถูกย้ายไปยังถังหมัก โดยจะใช้เป็นถังสแตนเลส หรือถังไม้โอ๊ก พร้อมกับใช้ยีสต์ธรรมชาติ เพื่อเปลี่ยนน้ำตาลในน้ำองุ่นให้เป็นแอลกอฮอล์ และกระบวนการนี้ใช้เวลาหลายวันถึงหลายสัปดาห์ และในระหว่างการหมักนั้นก็จะมีการควบคุมอุณหภูมิอย่างเข้มงวด เพื่อรักษากลิ่น และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์
การบ่ม หลังการหมักเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้นทำการแยกกาก และย้ายไปบ่มในถังไม้โอ๊ก และระยะเวลาการบ่มขึ้นอยู่กับสไตล์ของไวน์แต่ละวินเทจ และการบ่มในถังไม้โอ๊กช่วยเพิ่มความซับซ้อน เพิ่มกลิ่นหอมของวานิลลา และเครื่องเทศ และช่วยให้โครงสร้างของไวน์นุ่มนวลขึ้น
การกรอง และการปรับปรุง เมื่อทำการบ่มเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไวน์ที่ได้จะถูกกรอง เพื่อกำจัดตะกอน ที่จะช่วยให้ไวน์มีความใสสะอาดมากขึ้น และในกระบวนการนี้จะต้องทำอย่างระมัดระวัง และพิถีพิถันเป็นอย่างมาก เพื่อไม่ให้สูญเสียลักษณะเฉพาะของ Robert Mondavi Pinot Noir
การบรรจุขวด สำหรับไวน์ที่ผ่านการกรอง และปรับปรุงจะถูกบรรจุลงในขวดที่ผ่านการฆ่าเชื้อ จากนั้นปิดผนึกด้วยจุกคอร์ก หรือฝาเกลียว และติดฉลากพร้อมสำหรับการจัดจำหน่าย และในกระบวนการบรรจุขวดต้องทำในสภาพแวดล้อมที่สะอาด และผ่านควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อรักษาคุณภาพของไวน์ไว้ให้ดีที่สุด ก่อนส่งมอบให้นักดื่มทั่วโลก
สำหรับรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของ Robert Mondavi Pinot Noir นั้นจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เกิดจากการเลือกใช้องุ่นสายพันธุ์ Pinot Noir และผ่านกระบวนการผลิตที่ไม่เหมือนใคร ที่ทำให้เวลานักดื่มดื่มนั้นสามารถสัมผัสได้ถึงรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่มีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
รสชาติ (Flavor) สำหรับรสชาติ Robert Mondavi Pinot Noir จะเปิดมาด้วยความหอมหวานของผลไม้สีแดง เช่น เชอร์รี ราสป์เบอร์รี และสตรอเบอร์รี ที่ผสมผสานเข้ากันกับผลไม้สีดำ เช่น ลูกพลัม และแครนเบอร์รี รวมถึงทับทิมที่ช่วยเพิ่มความสดชื่น ตามมาด้วยความหอมของเครื่องเทศต่างๆ เช่น กานพลู จันทน์เทศ พริกไทยขาว และปิดท้ายด้วยความโอ๊คกี้ที่มีความหอมของวานิลลา โอ๊ก และช็อคโกแลต ที่เข้าด้วยกันอย่างลงตัว
รสสัมผัส (Mouthfeel) สำหรับรสสัมผัสของ Robert Mondavi Pinot Noir จะเป็นแบบ Medium Body มีความเข้มข้นของแทนนินปานกลาง และมี Acidity หรือความเป็นกรดปานกลาง ที่ทำให้เวลาดื่มนั้นจะสัมผัสได้ถึงความนุ่มละมุน มีความเข้มข้นกำลังดี แต่ยังมีความสดชื่น ทำให้ดื่มง่าย และสามารถดื่มคู่กับอาหารได้อย่างหลากหลาย
กลิ่น (Aroma) สำหรับ Robert Mondavi Pinot Noir จะมีความหอมหวานของผลไม้สีแดงนานาชนิด เช่น เชอร์รี ราสป์เบอร์รี และสตรอเบอร์รี ผสมผสานกับความหอมหวานจากพลัม และแครนเบอร์รี ปิดท้ายด้วยความโอ๊คกี้ เช่น วานิลลา คาราเมล รวมถึงเครื่องเทศต่างๆ เช่น อบเชย และกานพลู พร้อมกับเจือจางด้วยกลิ่นใบชาแห้ง และดอกไม้แห้ง
ด้วยองค์ประกอบของรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของ Robert Mondavi Pinot Noir ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร และสะท้อนถึงกลิ่นอายของไวน์แดงโลกใหม่ได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ Robert Mondavi Pinot Noir เป็นอีกหนึ่งไวน์แดงที่เป็นที่นิยมของนักดื่มไวน์แดงทั่วโลก ดังนั้น ถ้าหากนักดื่มคนไหนอยากจะสัมผัสถึงความพรีเมียม และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Robert Mondavi Pinot Noir ในราคาสบายกระเป๋า ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Celler BKK ที่มี Robert Mondavi Pinot Noir พร้อมส่งทันที ไม่ต้องรอพรีออเดอร์ ของแท้ 100% ราคาดีที่สุด จัดส่งไวให้ถึงหน้าบ้าน สั่งซื้อได้ที่ Line Official : @winecellar24 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับการดื่ม Robert Mondavi Pinot Noir ให้สามารถสัมผัสถึงกลิ่นอายของไวน์ Napa Valley ได้ชัดเจนในทุกจิบนั้นจะต้องให้ความสำคัญกับวิธีการเสิร์ฟ การดื่ม การจับคู่อาหาร และการเก็บรักษา เพราะว่าในแต่ละวิธีสามารถส่งผลต่อรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นได้ ซึ่งในแต่ละวิธีนั้นก็จะมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
วิธีเสิร์ฟ ควรทำการเสิร์ฟ Robert Mondavi Pinot Noir ที่อุณหภูมิประมาณ 12-14 องศาเซลเซียส เพราะเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมที่ช่วยให้ออกซิเจนทำปฏิกิริยากับไวน์ได้ดี ส่งผลให้มีกลิ่นหอมชัดเจน และรสชาติของไวน์ปรากฏออกมาอย่างเต็มที่ พร้อมกับเสิร์ฟด้วยแก้วไวน์ที่มีรูปทรงกว้าง เช่น แก้วไวน์บอร์กโดซ์ เพื่อช่วยให้ไวน์สัมผัสกับอากาศได้ดีมากขึ้น และช่วยให้เผยรายละเอียดต่างๆ ออกมาได้ดี
วิธีการดื่ม ควรทำการดื่ม Robert Mondavi Pinot Noir ที่เริ่มจากการหมุนแก้วไวน์เบาๆ เพื่อให้ไว้สัมผัสกับอากาศมากขึ้น แล้วทำการสูดดมกลิ่น พร้อมกับค่อยๆ จิบไวน์ทีละเล็กน้อยอย่างช้าๆ และกลั้วไวน์ในปากเบาๆ เพื่อให้ไวน์สัมผัสทั่วทั้งช่องปาก หลังจากนั้นจึงค่อยๆ กลืน เพื่อให้สัมผัสถึงรายละเอียดต่างๆ ที่ทิ้งท้ายไว้ภายในปากอย่างยาวนาน
วิธีการจับคู่อาหาร ควรทำการจับคู่ Robert Mondavi Pinot Noir กับอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อไก่ เช่น ไก่อบ ไก่ย่าง หรือไก่ในซอสครีม หรืออาหารที่มีส่วนประกอบของแซลมอน รวมถึงเมนูอาหารญี่ปุ่น เช่น ซูชิ ซาชิมิ หรือเทมปุระ และเมนูพาสต้าต่างๆ เช่น พาสต้าซอสครีม หรือพาสต้าซอสเห็ด เป็นต้น
วิธีการเก็บรักษา ควรทำการเก็บรักษา Robert Mondavi Pinot Noir ไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิคงที่ประมาณ 12-18 องศาเซลเซียส และควรเก็บไว้ในที่มืด และไม่มีการสั่นสะเทือน พร้อมกับวางขวดไว้ในแนวนอน เพื่อให้จุกคอร์กสัมผัสกับไวน์ ป้องกันไม่ให้จุกคอร์กแห้ง และเกิดการรั่วซึมของอากาศ ที่อาจทำให้ไวน์เสื่อมสภาพได้ และถ้าหากเปิดขวดแล้วให้ใช้จุกปิดสูญญากาศ เพื่อลดปริมาณออกซิเจนในขวด ควรเก็บในตู้เย็น และดื่มให้หมดให้เร็วที่สุด
สำหรับนักดื่มที่กำลังอยากจะซื้อ Robert Mondavi Pinot Noir ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Cellar BKK แหล่งนำเข้า และแหล่งจำหน่ายเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีบริการแอดมินให้คำแนะนำสินค้าอย่างมืออาชีพ อยากได้ไวน์ที่มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน หรืออยากได้เครื่องดื่มประเภทอื่นๆ อยากได้ยี่ห้อไหนเป็นพิเศษ มีงบประมาณเท่าไหร่ ซื้อดื่มเอง หรือซื้อเป็นของขวัญ ก็สามารถแจ้งแอดมินได้ เพื่อให้แอดมินแนะนำเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์กับความต้องการของนักดื่มมากที่สุด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้เลยที่
Website : www.winecellarbkk.com หรือ คลิก ที่นี่
โดยที่ Wine Cellar BKK มีเครื่องดื่มให้นักดื่มได้เลือกสรรกันหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นไวน์แดง ไวน์ขาว แชมเปญ สปาร์คกลิ้งไวน์ คอนญัก วิสกี้ หรือเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีให้เลือกซื้อกันอย่างครบครัน การันตีสินค้าทุกขวดเป็นของแท้ 100% ผ่านการคัดสรรเครื่องดื่มทุกขวดด้วยความใส่ใจ เพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่มีคุณภาพ และมาตรฐาน และการันตีว่าจำหน่ายในราคาดีที่สุดในตลาด เพื่อจำหน่ายเครื่องดื่มพรีเมียมในราคาสบายกระเป๋า และให้นักดื่มเข้าถึงเครื่องดื่มขวดโปรดได้ในราคาย่อมเยา มาพร้อมกับบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงหน้าบ้าน ที่มีให้นักดื่มได้เลือกใช้ทั้งบริการจัดส่งสินค้าด่วนภายในกทม. ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง และบริการจัดส่งสินค้าทั่วประเทศ ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 1-2 วัน สามารถสั่งซื้อเครื่องดื่มกับ Wine Cellar BKK ได้ง่ายๆ ทุกที่ ทุกเวลา แพ็คสินค้าทุกออเดอร์เป็นอย่างดี มีการรับประกันสินค้าระหว่างการจัดส่ง หากสินค้าได้รับความเสียหาย แตก หัก หรืออยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ที่เกิดจากการจัดส่ง ทางร้านยินดีเปลี่ยนเครื่องดื่มเป็นขวดใหม่ให้ทันที แบบไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อสร้างความประทับใจในการเลือกซื้อไวน์กับเราตลอดการบริการ
Thanks for subscribing!
This email has been registered!