Robert Mondavi Pinot Grigio ไวน์ขาวดื่มง่ายจาก Napa Valley แห่งศตวรรษที่ 20

Robert Mondavi Pinot Grigio คือ หนึ่งในไวน์ขาวที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ของ Robert Mondavi Winery ได้อย่างชัดเจน ด้วยความสดชื่น สดใส และดื่มง่าย ทำให้ไวน์ชนิดนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงจากทั้งผู้ที่เริ่มต้นดื่มไวน์ และนักดื่มไวน์ที่มีประสบการณ์ เนื่องจากให้สัมผัสที่เบา สดชื่น และแฝงด้วยเสน่ห์ของผลไม้หลากหลายชนิด เช่น แอปเปิ้ลเขียว ลูกแพร์ และเลม่อน ทำให้ดื่มง่ายในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นการดื่มคู่กับอาหารทะเล อาหารอิตาเลียน หรือแม้แต่จิบเพลินๆ ในวันพักผ่อน

โดยจุดเด่นของ Robert Mondavi Pinot Grigio ที่ผลิตโดย Robert Mondavi อยู่ที่การผสมผสานระหว่างความเชี่ยวชาญของผู้ผลิตไวน์ใน Napa Valley กับการคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์แบบดั้งเดิมของสายพันธุ์องุ่นนี้ รวมถึงความใส่ใจในกระบวนการผลิตตั้งแต่การคัดเลือกองุ่นคุณภาพ ไปจนถึงการหมักบ่มที่ใช้เทคนิคอันทันสมัย ทำให้ได้ไวน์ที่สมดุล สดใส และมีกลิ่นหอมที่น่าประทับใจ

ทำให้ Robert Mondavi Pinot Grigio ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องดื่มเพื่อความเพลิดเพลิน แต่ยังสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของ Robert Mondavi ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ที่ต้องการทำให้ไวน์แคลิฟอร์เนียเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และสามารถเข้าถึงผู้คนได้อย่างกว้างขวาง และการเปิดตัว Robert Mondavi Pinot Grigio จึงเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ทำให้แบรนด์นี้ยังคงเป็นผู้นำในวงการไวน์ระดับโลก

ดังนั้น ในบทความนี้ทาง Wine Cellar BKK ก็จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ Robert Mondavi Pinot Grigio ว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน ทำไมถึงเป็นที่นิยมของเหล่านักดื่มมาอย่างยาวนาน พร้อมแชร์เทคนิคในการดื่มแบบง่ายๆ ที่ช่วยให้สัมผัสถึงกลิ่นอายของไวน์ขาวโลกใหม่ได้อย่างเต็มที่ โดยจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง สามารถติดตามกันได้เลย

1. แนะนำ Robert Mondavi Pinot Grigio ไวน์ขาวที่สะท้อนถึง Terrior และเอกลักษณ์ของ Winery ได้ในทุกสัมผัส

Robert Mondavi Pinot Grigio ถือเป็นไวน์ขาวอีกหนึ่งชนิดที่ช่วยสะท้อนตัวตนของ Robert Mondavi Winery ได้อย่างชัดเจน โดยแบรนด์นี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1966 โดย Robert Mondavi ชายผู้มีบทบาทสำคัญในการปฏิวัติวงการไวน์แคลิฟอร์เนีย ที่เขามีความเชื่อมั่นว่า Napa Valley สามารถผลิตไวน์ที่มีคุณภาพสูง และสามารถแข่งขันกับไวน์ยุโรปได้ และด้วยวิสัยทัศน์นี้ เขาจึงก่อตั้งโรงบ่มไวน์แห่งแรกใน Oakville ที่ตั้งอยู่ใน Napa Valley และสร้างชื่อเสียงให้กับไวน์แคลิฟอร์เนียจนได้รับการยอมรับในระดับโลก

สำหรับองุ่นสายพันธุ์ Pinot Grigio ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในอิตาลี และฝรั่งเศสนั้น Robert Mondavi มองเห็นว่าเป็นพันธุ์องุ่นที่เหมาะกับผู้ดื่มไวน์รุ่นใหม่ เพราะให้ไวน์ที่เบา สดชื่น และดื่มง่าย แตกต่างจากไวน์ขาวที่มีโครงสร้างเข้มข้นกว่าอย่าง Chardonnay และการนำ Pinot Grigio เข้ามาอยู่ในไลน์การผลิตของ Robert Mondavi จึงถือเป็นการตอบโจทย์ตลาดในช่วงที่ความนิยมไวน์ขาวสดใสกำลังเติบโต โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา และยุโรป

โดย Robert Mondavi Pinot Grigio ถูกผลิตขึ้นครั้งแรกในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 หลังจากที่แบรนด์ประสบความสำเร็จกับไวน์แดง และไวน์ขาวจาก Chardonnay ซึ่งจุดเด่นของการผลิตไวน์ชนิดนี้ คือ การใช้เทคนิคการบ่มแบบทันสมัย ที่ช่วยคงความสดของผลไม้ เช่น แอปเปิ้ลเขียว เลม่อน และลูกแพร์ รวมถึงความสมดุลระหว่างความเปรี้ยว และความหวาน ทำให้เป็นไวน์ที่ทั้งดื่มง่าย และจับคู่กับอาหารได้หลากหลาย

และจุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อ Robert Mondavi Winery ขยายตลาดไปสู่ระดับสากล โดย Robert Mondavi Pinot Grigio ได้กลายเป็นไวน์ที่ช่วยสร้างการยอมรับในวงกว้าง เนื่องจากเข้าถึงได้ง่าย และเป็นไวน์ขาวที่เหมาะสำหรับทั้งนักดื่มมือใหม่ และนักดื่มที่มีประสบการณ์ นอกจากนี้การที่นำสายพันธุ์องุ่นจากยุโรปมาผลิตใน Napa Valley ยังสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของเขาในการผสมผสาน “ความเป็น Old World และ New World” เข้าด้วยกัน

ด้วยเหตุนี้ Robert Mondavi Pinot Grigio จึงไม่ใช่เพียงไวน์ขาวที่สดชื่นสำหรับการดื่มในชีวิตประจำวัน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการปรับตัว และการสร้างสรรค์ของ Robert Mondavi Winery ที่ต้องการให้ไวน์คุณภาพเข้าถึงผู้คนทั่วโลกได้ง่ายขึ้น และยังคงเป็นหนึ่งในไวน์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดมาจนถึงปัจจุบัน

2. กระบวนการผลิต Robert Mondavi Pinot Grigio มีขั้นตอนอะไรบ้าง?

สำหรับ Robert Mondavi Pinot Grigio เป็นไวน์ขาวที่มีจุดเด่นอยู่ตรงที่ความสดชื่น และดื่มง่าย ที่ทั้งหมดนี้เกิดจากกระบวนการผลิตที่พิถีพิถัน ควบคุมตั้งแต่ไร่องุ่นจนถึงการบรรจุขวด โดยในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการผลิต Robert Mondavi Pinot Grigio นั้นมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้

1. การเก็บเกี่ยวองุ่น สำหรับการผลิต Robert Mondavi Pinot Grigio นั้นจะใช้องุ่นสายพันธุ์ Pinot Grigio โดยจะถูกเก็บเกี่ยวในช่วงเวลาเช้ามืด หรือตอนกลางคืน เพื่อหลีกเลี่ยงความร้อนจากแสงแดด ซึ่งจะช่วยรักษาความกรอบ ความสดของกรดธรรมชาติ และกลิ่นผลไม้ ซึ่งในการเก็บเกี่ยวนั้นจะใช้เครื่องจักร เพื่อลดระยะเวลาการสัมผัสออกซิเจน และรักษาคุณภาพขององุ่นให้สูงสุดก่อนเข้าสู่โรงไวน์

2. การคัดแยก และการบดเบา สำหรับองุ่นที่เก็บมานั้นจะถูกคัดแยกด้วยระบบสายพาน เพื่อแยกผลที่สมบูรณ์จากผลที่มีตำหนิ ก่อนส่งเข้าสู่การบดอย่างเบามือโดยไม่ทำลายเปลือก หรือเมล็ดจนเกินไป เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความฝาด และกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกมาจากโครงสร้างขององุ่น

3. การกดแยกน้ำองุ่น สำหรับน้ำองุ่นที่ได้จากการบดนั้นจะถูกแยกออกจากเนื้อ เปลือก และเมล็ดด้วยการใช้แรงกดต่ำ ซึ่งช่วยให้ได้น้ำองุ่นที่ใส บริสุทธิ์ และมีรสชาติที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด และน้ำองุ่นที่ได้ในขั้นตอนนี้จะมีความหอม และสดใหม่ พร้อมสำหรับการหมักในขั้นตอนต่อไป

4. การตกตะกอนเย็น สำหรับน้ำองุ่นจะถูกนำมาทำให้ตกตะกอนด้วยการแช่เย็นในถังสแตนเลสที่ควบคุมอุณหภูมิประมาณ 5-10 องศาเซลเซียส เพื่อให้เกิดการตกตะกอนของสิ่งแปลกปลอม เช่น เศษเปลือก หรือโปรตีนส่วนเกิน ให้ตกลงไปก้นถัง และการตกตะกอนนี้ช่วยให้ไวน์มีโครงสร้างที่ใส สะอาด และคงรสชาติที่บริสุทธิ์

5. การหมักแอลกอฮอล์ สำหรับขั้นตอนนี้น้ำองุ่นใสจะถูกย้ายเข้าสู่ถังหมักสแตนเลส และเติมยีสต์สายพันธุ์เฉพาะที่ช่วยเสริมความหอมของกลิ่นผลไม้ตระกูลซิตรัส ลูกแพร์ และผลไม้นานาชนิด และกระบวนการหมักจะใช้ระยะเวลาประมาณ 10-14 วัน ที่อุณหภูมิประมาณ 12-16 องศาเซลเซียส เพื่อคงกลิ่นหอม และโครงสร้างที่เบาของไวน์ขาว

6. การพัก และบ่มไวน์ หลังจากหมักเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไวน์จะถูกปล่อยให้พักบนตะกอนยีสต์เป็นระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งช่วยให้ไวน์มีเนื้อสัมผัสกลมกล่อม และเพิ่มมิติรสสัมผัสโดยไม่สูญเสียความสดของผลไม้ และการบ่มนี้ทำในถังสแตนเลสทั้งหมด เพื่อรักษาความบริสุทธิ์ และความสดใหม่ของไวน์ขาว

7. การกรอง และบรรจุขวด ก่อนการบรรจุขวด ไวน์จะถูกกรองอย่างละเอียด เพื่อกำจัดตะกอน และเชื้อจุลินทรีย์ที่อาจก่อให้เกิดความขุ่น หรือเปลี่ยนแปลงรสชาติในระยะยาว จากนั้นจึงบรรจุขวดอย่างสะอาด ปลอดภัย ปลอดเชื้อ และพิถีพิถัน พร้อมส่งมอบความสดใหม่ให้นักดื่มทั่วโลก

3. รสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของ Robert Mondavi Pinot Grigio เป็นยังไงบ้าง?

Robert Mondavi Pinot Grigio ถือเป็นหนึ่งในไวน์ขาวที่สะท้อนเอกลักษณ์ของ “ไวน์โลกใหม่” ได้อย่างโดดเด่น ด้วยการเลือกใช้องุ่นพันธุ์ Pinot Grigio ที่ผ่านการเพาะปลูกมาเป็นอย่างดี และผ่านกระบวนการผลิตมาอย่างพิถีพิถัน ทำให้เวลาดื่มนั้นนักดื่มสามารถสัมผัสได้ถึงรายละเอียดต่างๆ ดังนี้

• รสชาติ (Flavor) สำหรับรสชาติของ Robert Mondavi Pinot Grigio นั้นจะมีความกลมกล่อม และสดชื่น ด้วยความเปรี้ยวตามธรรมชาติขององุ่น Pinot Grigio ที่มีรสชาติของเลมอน องุ่นขาว แอปเปิ้ลเขียว พีช และผลไม้เมืองร้อนบางชนิด เช่น มะม่วง เสาวรส และกีวี เป็นต้น อีกทั้งยังมีรสชาติของผลไม้ตระกูลซิตรัส เกรปฟรุ๊ต และแร่ธาตุต่างๆ แบบจางๆ ที่เข้ากันได้อย่างลงตัว

• รสสัมผัส (Mouthfeel) สำหรับรสสัมผัสของ Robert Mondavi Pinot Grigio นั้นจะเป็นแบบ Light Body ที่มีเนื้อสัมผัสที่บางเบา แต่มีความสดชื่น และกระปรี้กระเปร่าอย่างชัดเจน มาพร้อมกับความเป็นกรด หรือ Acidity ค่อนข้างสูง ทำให้ไวน์สด สะอาด และใหม่ อีกทั้งยังมีความแห้ง หรือ Dryness อยู่ในระดับแห้งถึงแห้งปานกลาง และความเข้มข้นของแทนนินแทบไม่มี จึงทำให้ดื่มง่าย และเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น

• กลิ่น (Aroma) สำหรับกลิ่นของ Robert Mondavi Pinot Grigio นั้นจะเปิดมาด้วยความหอมของผลไม้รสเปรี้ยว เช่น มะนาว แอปเปิ้ลเขียว และลูกแพร์ ผสมผสานเข้ากันกับกลิ่นของดอกไม้ขาว เช่น ดอกมะลิ และดอกส้ม ที่ให้ความรู้สึกบางเบา และสดชื่น อีกทั้งยังมีกลิ่นของผลไม้ตระกูลซิตรัส และสมุนไพรอ่อนๆ อย่างสะระแหน่ หรือหญ้าสด ที่ทำให้มีความสดใส และเป็นธรรมชาติ

ด้วยองค์ประกอบของรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของ Robert Mondavi Pinot Grigio ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร และสะท้อนถึงกลิ่นอายของไวน์ขาวโลกใหม่ได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ Robert Mondavi Pinot Grigio เป็นอีกหนึ่งไวน์ขาวที่เป็นที่นิยมของนักดื่มไวน์ทั่วโลก ดังนั้น ถ้าหากนักดื่มคนไหนอยากจะสัมผัสถึงความพรีเมียม และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Robert Mondavi Pinot Grigio ในราคาสบายกระเป๋า ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Celler BKK ที่มี Robert Mondavi Pinot Grigio พร้อมส่งทันที ไม่ต้องรอพรีออเดอร์ ของแท้ 100% ราคาดีที่สุด จัดส่งไวให้ถึงหน้าบ้าน สั่งซื้อได้ที่ Line Official : @winecellar24 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

4. Robert Mondavi Pinot Grigio ควรดื่มยังไง? ถึงจะสัมผัสกลิ่นอายเฉพาะตัวของไวน์รุ่นนี้ได้อย่างชัดเจน

สำหรับ Robert Mondavi Pinot Grigio เป็นไวน์ขาวที่มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่มีความสดชื่น สะอาด และบริสุทธิ์ และถ้าหากอยากจะสัมผัสกลิ่นอายเฉพาะตัวได้อย่างชัดเจนนั้นจะต้องให้ความสำคัญกับการเสิร์ฟ การดื่ม การจับคู่อาหาร และการเก็บรักษา ซึ่งในแต่ละวิธีนั้นก็จะมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้

• วิธีการเสิร์ฟ ควรทำการเสิร์ฟ Robert Mondavi Pinot Grigio ที่อุณหภูมิระหว่าง 8-10 องศาเซลเซียส ถ้าหากเสิร์ฟไวน์เย็นเกินไป กลิ่นผลไม้ และกลิ่นหอมต่างๆ จะถูกบดบัง และถ้าหากเสิร์ฟไวน์ร้อนเกินไป จะทำให้มิติของไวน์แบน และขาดความสดชื่น โดยก่อนเสิร์ฟควรแช่ในตู้เย็นประมาณ 2 ชั่วโมง หรือแช่ในถังน้ำแข็งผสมน้ำประมาณ 20-30 นาที พร้อมกับเลือกใช้แก้วทรงทิวลิป หรือแก้วสำหรับไวน์ขาวโดยเฉพาะ เพราะว่ามีปากแคบ เพื่อช่วยกักเก็บกลิ่น และช่วยให้กลิ่นหอมของผลไม้ และดอกไม้กระจายตัวได้ดี และเวลารินไวน์นั้นควรรินประมาณ ⅓ ของแก้ว เพื่อให้ไวน์มีพื้นที่ในการสัมผัสกับอากาศ ซึ่งจะช่วยปลดปล่อยกลิ่นหอมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ควรรินจนเต็มแก้ว เพราะจะทำให้ไวน์อุ่นเร็ว และกลิ่นจางลงได้

• วิธีการดื่ม ควรทำการดื่ม Robert Mondavi Pinot Grigio ที่เริ่มจากการยกแก้วขึ้นแล้วสูดดมกลิ่น หลังจากนั้นให้หมุนไวน์ในแก้วเบาๆ เพื่อให้ไวน์สัมผัสอากาศ ทำให้กลิ่นจะค่อยๆ เปิดออกทีละชั้น แล้วจึงค่อยทำการจิบไวน์ทีละเล็กน้อย และกลั้วในปากเบาๆ เพื่อให้นักดื่มพบกับความสดชื่นของผลไม้ กรดที่สมดุล และความบางเบาที่ทิ้งท้ายไว้ภายในปากอย่างยาวนาน

• วิธีการจับคู่อาหาร ควรทำการจับคู่ Robert Mondavi Pinot Grigio กับอาหารที่มีส่วนประกอบของอาหารทะเล เช่น หอยนางรม กุ้งลวก ปลาย่าง หรือปลานึ่งสมุนไพร เป็นต้น หรือจะเป็นเมนูอาหารอิตาเลียน เช่น พาสต้าซอสไวน์ขาว พาสต้าซอสเห็ด พาสต้าทรัฟเฟิล หรือพาสต้าผักโขม ก็เข้ากันได้ดี รวมถึงเมนูอาหารที่มีส่วนประกอบของชีส เช่น บรี มอสเซอเรลล่า หรือเบอร์ราต้า หรือเมนูสลัดผัก และผลไม้สด ก็สามารถเข้ากันได้อย่างลงตัว

• วิธีการเก็บรักษา ควรทำการเก็บรักษา Robert Mondavi Pinot Grigio ไว้ในที่ที่มีความเย็น มืด และมีอุณหภูมิคงที่ประมาณ 15 องศาเซลเซียส และควรวางไว้ในแนวนอน เพื่อให้จุกคอร์กชุ่มชื้น ไม่แห้ง และไม่หดตัว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการรั่วซึมของอากาศ และหลังจากเปิดขวดไวน์แล้ว ควรปิดด้วยจุกสุญญากาศ และเก็บไว้ในตู้เย็นทันที หากใช้จุกสุญญากาศจะสามารถเก็บได้นานถึง 3 วัน โดยรสชาติยังคงเดิม แต่ถ้าไม่มี ควรบริโภคภายใน 1-2 วัน เพื่อรสชาติ และกลิ่นหอมที่ดีที่สุด และถ้าหากสังเกตเห็นว่าไวน์มีกลิ่นเปรี้ยวผิดปกติ หรือมีสีขุ่นคล้ายตะกอนมากผิดปกติ แสดงว่าไวน์อาจเริ่มเสื่อมคุณภาพแล้ว และไม่ควรดื่มต่อ

5. หาซื้อ Robert Mondavi Pinot Grigio ของแท้ในราคาสบายกระเป๋า พร้อมส่งทันที ได้ที่ Wine Cellar BKK

สำหรับนักดื่มที่กำลังอยากจะซื้อ Robert Mondavi Pinot Grigio ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Cellar BKK แหล่งนำเข้า และแหล่งจำหน่ายเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีบริการแอดมินให้คำแนะนำสินค้าอย่างมืออาชีพ อยากได้ไวน์ที่มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน หรืออยากได้เครื่องดื่มประเภทอื่นๆ อยากได้ยี่ห้อไหนเป็นพิเศษ มีงบประมาณเท่าไหร่ ซื้อดื่มเอง หรือซื้อเป็นของขวัญ ก็สามารถแจ้งแอดมินได้ เพื่อให้แอดมินแนะนำเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์กับความต้องการของนักดื่มมากที่สุด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้เลยที่ 

• Line Official : @wincellar24 

• Website : www.winecellarbkk.com หรือ คลิก ที่นี่

โดยที่ Wine Cellar BKK มีเครื่องดื่มให้นักดื่มได้เลือกสรรกันหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นไวน์แดง ไวน์ขาว แชมเปญ สปาร์คกลิ้งไวน์ คอนญัก วิสกี้ หรือเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีให้เลือกซื้อกันอย่างครบครัน การันตีสินค้าทุกขวดเป็นของแท้ 100% ผ่านการคัดสรรเครื่องดื่มทุกขวดด้วยความใส่ใจ เพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่มีคุณภาพ และมาตรฐาน และการันตีว่าจำหน่ายในราคาดีที่สุดในตลาด เพื่อจำหน่ายเครื่องดื่มพรีเมียมในราคาสบายกระเป๋า และให้นักดื่มเข้าถึงเครื่องดื่มขวดโปรดได้ในราคาย่อมเยา มาพร้อมกับบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงหน้าบ้าน ที่มีให้นักดื่มได้เลือกใช้ทั้งบริการจัดส่งสินค้าด่วนภายในกทม. ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง และบริการจัดส่งสินค้าทั่วประเทศ ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 1-2 วัน สามารถสั่งซื้อเครื่องดื่มกับ Wine Cellar BKK ได้ง่ายๆ ทุกที่ ทุกเวลา แพ็คสินค้าทุกออเดอร์เป็นอย่างดี มีการรับประกันสินค้าระหว่างการจัดส่ง หากสินค้าได้รับความเสียหาย แตก หัก หรืออยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ที่เกิดจากการจัดส่ง ทางร้านยินดีเปลี่ยนเครื่องดื่มเป็นขวดใหม่ให้ทันที แบบไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อสร้างความประทับใจในการเลือกซื้อไวน์กับเราตลอดการบริการ

6. สนใจรับ Robert Mondavi Pinot Grigio ของแท้ในราคาสบายกระเป๋า พร้อมส่งทันที สั่งได้เลย > ที่นี่

7. ดูสินค้าไวน์ขาวรุ่นอื่นๆ ที่ Wine Cellar BKK มีจำหน่าย คลิก > ที่นี่