Couldn't load pickup availability
- Free standard shipping on orders over 10,000 THB
You may return most new, unopened items within 30 days of delivery for a full refund. We'll also pay the return shipping costs if the return is a result of our error (you received an incorrect or defective item, etc.).
You should expect to receive your refund within four weeks of giving your package to the return shipper, however, in many cases you will receive a refund more quickly. This time period includes the transit time for us to receive your return from the shipper (5 to 10 business days), the time it takes us to process your return once we receive it (3 to 5 business days), and the time it takes your bank to process our refund request (5 to 10 business days).
If you need to return an item, simply login to your account, view the order using the "Complete Orders" link under the My Account menu and click the Return Item(s) button. We'll notify you via e-mail of your refund once we've received and processed the returned item.
Robert Mondavi Maestro คือ ไวน์แดงบอร์กโดซ์สไตล์จาก Napa Valley ที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปีของโรงผลิตไวน์ Robert Mondavi Winery ในปี 2016 และชื่อ “Maestro” สื่อถึงบทบาทของ Robert Mondavi ผู้ก่อตั้งในฐานะผู้นำแห่งวงการไวน์ Napa Valley ที่สามารถผสมผสาน “ไวน์โลกเก่า” และ “ไวน์โลกใหม่” ได้อย่างกลมกลืน และจุดเด่นของไวน์รุ่นนี้อยู่ที่การผสมสายพันธุ์องุ่นหลากหลายอย่างมีศิลปะ ได้แก่ Cabernet Sauvignon, Cabernet Franc, Merlot, Petit Verdot และ Malbec เพื่อให้ได้รสชาติซับซ้อน ลุ่มลึก และมีมิติ
โดยสิ่งที่ทำให้ Robert Mondavi Maestro มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร คือ แนวคิด “sense of place” หรือการถ่ายทอดตัวตนของดินแดน Oakville Bench ซึ่งมีดินตะกอนลึก อุดมด้วยแร่ธาตุ และสภาพภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนที่เหมาะอย่างยิ่งต่อการปลูกองุ่นตระกูลบอร์กโดซ์ นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคนิคการบ่มในถังโอ๊กฝรั่งเศสคุณภาพสูง เพื่อเพิ่มโครงสร้าง กลิ่น และเนื้อสัมผัส
ดังนั้น Maestro จึงไม่เพียงเป็นไวน์ที่บ่งบอกถึงคุณภาพของ Napa Valley เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการปฏิวัติวงการไวน์ในอเมริกา ที่ Robert Mondavi เป็นผู้ผลักดันให้ไวน์สหรัฐก้าวขึ้นมาบนเวทีโลก และเป็นไวน์ที่ทั้งนักสะสม และนักดื่มไวน์ตัวจริงมองว่า “ดื่มได้ตอนนี้ หรือเก็บบ่มต่อก็ได้คุณภาพ” และทุกขวดเป็นเรื่องราวของความตั้งใจ ความคิดสร้างสรรค์ และการเดินทางยาวนานกว่าครึ่งศตวรรษของแบรนด์ระดับตำนานนี้ และในบทความนี้ทาง Wine Cellar BKK ก็จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ Robert Mondavi Maestro ว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน ทำไมถึงเป็นที่นิยมของเหล่านักดื่มมาอย่างยาวนาน พร้อมแชร์เทคนิคในการดื่มแบบง่ายๆ ที่ช่วยให้สัมผัสถึงกลิ่นอายของไวน์โลกใหม่ได้อย่างเต็มที่ โดยจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง สามารถติดตามกันได้เลย!
Robert Mondavi Maestro ถือกำเนิดขึ้นในปี 2016 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของ Robert Mondavi Winery ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดย Robert Mondavi ในปี 1966 ที่ Napa Valley แห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย และ Robert Mondavi ก็เป็นผู้บุกเบิกแนวคิดว่าดินแดน Napa Valley สามารถผลิตไวน์คุณภาพเทียบเท่าฝรั่งเศสได้ และยังเป็นผู้ผลักดันให้ไวน์สหรัฐก้าวสู่ตลาดโลก
โดย Robert Mondavi Maestro นั้นได้รับแรงบันดาลใจจากปรัชญาของ Robert Mondavi ที่เชื่อใน “การผสมผสานศิลปะกับวิทยาศาสตร์” ทำให้การผลิตไวน์รุ่นนี้จึงเป็นการนำความรู้แบบโลกเก่า (Old World) จากบอร์กโดซ์มาผสมกับเทคโนโลยี และสไตล์โลกใหม่ (New World) ของแคลิฟอร์เนีย ทำให้ได้ผลลัพธ์เป็นไวน์แดงบอร์กโดซ์สไตล์ที่มีกลิ่นหอมซับซ้อน รสชาติเข้มข้น แต่ยังคงความสมดุล และความนุ่มนวล
ซึ่งจุดเด่นสำคัญของ Robert Mondavi Maestro อยู่ที่การใช้ องุ่นจาก To Kalon Vineyard ซึ่งเป็นหนึ่งในไร่องุ่นที่ดีที่สุดของ Napa Valley เพราะดินที่นี่เป็นแบบตะกอนน้ำพัดพามีโครงสร้างระบายน้ำดี และได้รับแสงแดดเต็มที่ในตอนกลางวัน พร้อมลมเย็นจากอ่าวซานฟรานซิสโกที่ช่วยรักษาความเป็นกรดของผล ทำให้ได้องุ่นที่มีความเข้มข้นทางรสชาติสูง และไวน์รุ่นนี้ประกอบด้วยองุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon, Cabernet Franc, Merlot, Petit Verdot และ Malbec ทำให้การผสมนี้เปรียบเสมือนวงดนตรีซิมโฟนีที่แต่ละเครื่องดนตรีมีบทบาทชัดเจน แต่รวมกันแล้วเกิดความไพเราะให้นักดื่มได้ดื่มด่ำกันอย่างเต็มที่
และจุดเปลี่ยนสำคัญอีกอย่างของ Robert Mondavi Maestro คือ การนำ Maestro มาวางตลาดในฐานะ “ไวน์เฉลิมฉลอง” เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้ Robert Mondavi Winery ในยุคปัจจุบัน ว่าพร้อมทั้งรักษามรดกเดิม และสร้างสรรค์สิ่งใหม่อย่างต่อเนื่อง และความสำเร็จของรุ่นนี้ยังช่วยย้ำว่า Napa Valley ไม่ได้เป็นเพียงภูมิภาคผลิตไวน์เชิงพาณิชย์ แต่เป็นแหล่งที่สามารถสร้างไวน์ระดับโลกได้อย่างแท้จริง
สำหรับกระบวนการผลิต Robert Mondavi Maestro เป็นการผสมผสานศิลปะ และวิทยาศาสตร์ โดยอ้างอิงทั้งเทคนิคการทำไวน์แบบดั้งเดิมจากฝรั่งเศส และนวัตกรรมของ Napa Valley เพื่อให้ได้ไวน์ที่มีความซับซ้อน ลุ่มลึก และสามารถบ่มต่อได้หลายปี ซึ่งในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการผลิต Robert Mondavi Maestro นั้นมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
การคัดเลือกองุ่น สำหรับองุ่นที่ใช้ในการผลิต Robert Mondavi Maestro มาจากไร่ To Kalon และไร่องุ่นพรีเมียมใน Oakville โดยจะทำการเก็บเกี่ยวในช่วงที่ผลสุกเต็มที่ เพื่อให้ได้สมดุลของน้ำตาล ความเป็นกรด และสารประกอบทางกลิ่น และจะทำการคัดเลือกด้วยมือ เพื่อให้ได้เฉพาะผลที่สมบูรณ์
การแยกช่อ และบดเบา ๆ สำหรับองุ่นที่ผ่านการเก็บเกี่ยว และคัดเลือกแล้วนั้นจะถูกแยกออกจากก้าน เพื่อหลีกเลี่ยงรสฝาดที่ไม่พึงประสงค์ จากนั้นก็จะทำการบดอย่างนุ่มนวล เพื่อไม่ทำลายเมล็ด ซึ่งจะช่วยควบคุมระดับแทนนินในไวน์ได้ดี
การหมักครั้งแรก สำหรับองุ่นแต่ละพันธุ์จะถูกหมักแยกกันในถังสแตนเลสควบคุมอุณหภูมิที่ 26-30 องศาเซลเซียส เพื่อดึงสี และกลิ่นหอมให้ออกมาได้มากที่สุด และระหว่างหมักจะมีการ punch-down และ pump-over เพื่อให้ผิวองุ่นสัมผัสน้ำองุ่นอย่างทั่วถึง
การแช่เปลือก หลังจากการหมัก องุ่นบางส่วนจะถูกแช่เปลือกต่อ เพื่อสกัดแทนนิน และรสชาติที่ซับซ้อนมากขึ้น และเทคนิคนี้จะช่วยให้ไวน์มีโครงสร้างแน่น และบ่มได้นาน
การเบลนด์ เป็นขั้นตอนสำคัญของการผลิต Robert Mondavi Maestro โดยในขั้นตอนนี้ไวน์เมกเกอร์ จะชิม และคัดเลือกไวน์จากแต่ละพันธุ์ และแปลงปลูก เพื่อนำมาผสมกันในสัดส่วนที่ลงตัว และสร้างรสชาติ และกลิ่นที่สอดคล้องกับสไตล์ของรุ่นนี้
การบ่มในถังโอ๊ก สำหรับ Robert Mondavi Maestro นั้นจะบ่มในถังโอ๊กฝรั่งเศสใหม่ 70-100% เป็นเวลา 18-22 เดือน เพื่อให้ถังโอ๊กช่วยเพิ่มกลิ่นวานิลลา เครื่องเทศ และคาราเมล พร้อมทำให้แทนนินนุ่มลง การเลือกถังจากโรงโอ๊กชั้นนำในฝรั่งเศสยังช่วยเพิ่มความซับซ้อนด้านกลิ่นอีกด้วย
การบรรจุ และการบ่มขวด หลังจากบ่มในถังโอ๊กเรียบร้อยแล้ว ไวน์จะถูกกรองอย่างนุ่มนวล และบรรจุลงขวด จากนั้นบ่มต่อในขวดอีกหลายเดือน เพื่อให้รสชาติ และกลิ่นผสานกันอย่างกลมกลืน ก่อนจะวางจำหน่ายสู่ตลาดให้นักดื่มทั่วโลกได้ลิ้มลองกัน
สำหรับ Robert Mondavi Maestro ที่ผ่านกระบวนการผลิตมาอย่างพิถีพิถันนั้นก็จะมีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร และสามารถบ่งบอกถึงความเป็นไวน์โลกใหม่ที่ผสมผสานกลิ่นอายของไวน์โลกเก่าได้เป็นอย่างดี ทำให้เวลาที่นักดื่มดื่มนั้นจะสามารถสัมผัสได้ถึงรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
รสชาติ (Flavor) สำหรับรสชาติของ Robert Mondavi Maestro นั้นจะมีความโดดเด่นด้วยรสชาติของผลไม้สีเข้ม เช่น แบล็กเชอร์รี แบล็กเบอร์รี และพลัมสุก ผสมผสานเข้ากันกับเครื่องเทศจากถังโอ๊ก เช่น วานิลลา อบเชย และจันทน์เทศ มีความเข้มข้นของดาร์คช็อกโกแลต และเอสเพรสโซบางๆ และในแต่ละชั้นรสนั้นจะค่อยๆ เผยความซับซ้อนจนถึงตอนจบที่จะทิ้งท้ายไว้ภายในปากอย่างยาวนาน
รสสัมผัส (Mouthfeel) สำหรับรสสัมผัาของ Robert Mondavi Maestro นั้นจะเป็นแบบ Full Body ทำให้ไวน์รุ่นนี้มีโครงสร้างแน่น แทนนินละเอียด แต่ยังคงความเข้มข้น เนื้อไวน์หนาแน่น มีความเป็นกรดสมดุล ช่วยให้ไวน์มีความสดชื่นแม้จะมีรสเข้มข้น และยังมีความนุ่มนวลของ Merlot ช่วยทำให้แทนนินกลมกล่อมมากขึ้น
กลิ่น (Aroma) สำหรับกลิ่นของ Robert Mondavi Maestro นั้นเมื่อเปิดขวดมาจะได้กลิ่นหอมเข้มของผลไม้สีเข้มสุก ตามด้วยโทนดอกไวโอเลต และกลิ่นสมุนไพรสดแบบ Cabernet Franc เมื่อหมุนแก้วเบาๆ ก็จะมีกลิ่นรองของไม้โอ๊กคั่ว วานิลลา กานพลู และควันไม้จางๆ เผยออกมา ซึ่งเป็นกลิ่นที่เกิดจากการบ่มอย่างยาวนาน อีกทั้งยังให้โทนหนังแท้ และยาสูบซิการ์ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของไวน์คุณภาพสูงที่พร้อมบ่มต่อได้อีกหลายปี
ด้วยองค์ประกอบของรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของ Robert Mondavi Maestro ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร และสะท้อนถึงกลิ่นอายของไวน์แดงจากประเทศสหรัฐอเมริกาได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ Robert Mondavi Maestro เป็นอีกหนึ่งไวน์แดงที่เป็นที่นิยมของนักดื่มไวน์แดงทั่วโลก ดังนั้น ถ้าหากนักดื่มคนไหนอยากจะสัมผัสถึงความพรีเมียม และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Robert Mondavi Maestro ในราคาสบายกระเป๋า ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Celler BKK ที่มี Robert Mondavi Maestro พร้อมส่งทันที ไม่ต้องรอพรีออเดอร์ ของแท้ 100% ราคาดีที่สุด จัดส่งไวให้ถึงหน้าบ้าน สั่งซื้อได้ที่ Line Official : @winecellar24 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ถึงแม้ว่า Robert Mondavi Maestro จะมีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่นักดื่มสามารถสัมผัสความพรีเมียมได้ตั้งแต่จิบแรก แต่ว่าก็ยังมีวิธีการเสิร์ฟ การดื่ม การจับคู่อาหาร และการเก็บรักษา ที่จะช่วยให้นักดื่มสามารถสัมผัสกลิ่นอายของไวน์โลกใหม่อย่าง Robert Mondavi Maestro ได้ชัดเจนทุกจิบ ซึ่งในแต่ละวิธีนั้นก็จะมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
วิธีการเสิร์ฟ ควรทำการเสิร์ฟ Robert Mondavi Maestro ที่อุณหภูมิประมาณ 16-18 องศาเซลเซียส ถ้าหากเสิร์ฟไวน์อุ่นเกินไปจะรู้สึกถึงแอลกอฮอล์ชัดเจนเกินไป และถ้าหากเสิร์ฟเย็นเกินไปแทนนินจะฝาด และกลิ่นหอมจะไม่ฟุ้ง โดยก่อนเสิร์ฟนั้นให้ทำการแช่น้ำในถังน้ำแข็งประมาณ 15-20 นาที หรือนำออกมาพักในอุณหภูมิห้องประมาณ 10 นาที พร้อมกับเลือกใช้แก้วไวน์แดงบอร์กโดซ์ที่มีปากกว้าง เพื่อช่วยให้กลิ่นหอมฟุ้งกระจาย และไวน์สัมผัสกับอากาศได้อย่างทั่วถึง
วิธีการดื่ม ควรทำการดื่ม Robert Mondavi Maestro ที่เริ่มจากการสูดกลิ่นเบาๆ โดยยังไม่หมุนแก้ว เพื่อรับกลิ่นหอมของผลไม้เข้มชั้นแรก หลังจากนั้นให้หมุนแก้วเบาๆ เพื่อให้ไวน์สัมผัสอากาศ แล้วสูดดมอีกครั้ง ก็จะเจอกลิ่นหอมของวานิลลา กาแฟคั่ว ดอกไวโอเลต และสมุนไพรจาก Cabernet Franc แล้วจึงค่อยๆ จิบทีละเล็กน้อย และกลั้วในปากเบาๆ เพื่อสัมผัสได้ถึงความนุ่มละมุน หอมหวาน และเข้มข้นกำลังดี และค่อยๆ กลืน เพื่อสัมผัสกับฟินิชที่จะทิ้งท้ายไว้อย่างยาวนาน
วิธีการจับคู่อาหาร ควรทำการจับคู่ Robert Mondavi Maestro กับเมนูอาหารประเภทเนื้อแดงย่าง หรือสเต็ก เช่น ริบอาย เนื้อแองกัส หรือทีโบนระดับ medium-rare และ medium หรือเมนูเนื้อแกะ และเกมมีต เช่น แกะย่างโรสแมรี หรือโอสโซบูโค รวมถึงเมนูอาหารจานตุ๋น เช่น ชอร์ตริบตุ๋นไวน์แดง, Beef Bourguignon, เห็ดพอร์ชินี หรือทรัฟเฟิล หรือเมนูอาหารเอเชียที่มีความเผ็ดปานกลาง เช่น บาร์บีคิวซอสโฮมเมด, หมูย่างซอสถั่วดำ, เนื้อย่างซอสเทริยากิ, ผัดไทย หรือผัดซีอิ๊วดำ เป็นต้น
วิธีการเก็บรักษา ควรทำการเก็บรักษา Robert Mondavi Maestro ในที่มืด และมีอุณหภูมิคงที่ประมาณ 12-14 องศาเซลเซียส มีความชื้นประมาณ 65-75% หลีกเลี่ยงแสง และแรงสั่นสะเทือน พร้อมวางขวดไว้ในแนวนอนเสมอ เพื่อให้จุกคอร์กสัมผัสกับไวน์ตลอดเวลา ป้องกันไม่ให้จุกคอร์กแห้ง และเกิดการรั่วซึมของอากาศที่อาจทำให้ไวน์เสื่อมสภาพได้ และถ้าหากเปิดแล้ว ควรใช้จุกสูญญากาศปิดให้สนิทแล้วเก็บในตู้เย็นไวน์ หรือตู้เย็นช่องธรรมดา และควรดื่มให้หมดภายใน 3 วัน เพื่อรสชาติที่ดีที่สุด
สำหรับนักดื่มที่กำลังอยากจะซื้อ Robert Mondavi Maestro ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Cellar BKK แหล่งนำเข้า และแหล่งจำหน่ายเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีบริการแอดมินให้คำแนะนำสินค้าอย่างมืออาชีพ อยากได้ไวน์ที่มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน หรืออยากได้เครื่องดื่มประเภทอื่นๆ อยากได้ยี่ห้อไหนเป็นพิเศษ มีงบประมาณเท่าไหร่ ซื้อดื่มเอง หรือซื้อเป็นของขวัญ ก็สามารถแจ้งแอดมินได้ เพื่อให้แอดมินแนะนำเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์กับความต้องการของนักดื่มมากที่สุด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้เลยที่
Website : www.winecellarbkk.com หรือ คลิก ที่นี่
โดยที่ Wine Cellar BKK มีเครื่องดื่มให้นักดื่มได้เลือกสรรกันหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นไวน์แดง ไวน์ขาว แชมเปญ สปาร์คกลิ้งไวน์ คอนญัก วิสกี้ หรือเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีให้เลือกซื้อกันอย่างครบครัน การันตีสินค้าทุกขวดเป็นของแท้ 100% ผ่านการคัดสรรเครื่องดื่มทุกขวดด้วยความใส่ใจ เพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่มีคุณภาพ และมาตรฐาน และการันตีว่าจำหน่ายในราคาดีที่สุดในตลาด เพื่อจำหน่ายเครื่องดื่มพรีเมียมในราคาสบายกระเป๋า และให้นักดื่มเข้าถึงเครื่องดื่มขวดโปรดได้ในราคาย่อมเยา มาพร้อมกับบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงหน้าบ้าน ที่มีให้นักดื่มได้เลือกใช้ทั้งบริการจัดส่งสินค้าด่วนภายในกทม. ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง และบริการจัดส่งสินค้าทั่วประเทศ ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 1-2 วัน สามารถสั่งซื้อเครื่องดื่มกับ Wine Cellar BKK ได้ง่ายๆ ทุกที่ ทุกเวลา แพ็คสินค้าทุกออเดอร์เป็นอย่างดี มีการรับประกันสินค้าระหว่างการจัดส่ง หากสินค้าได้รับความเสียหาย แตก หัก หรืออยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ที่เกิดจากการจัดส่ง ทางร้านยินดีเปลี่ยนเครื่องดื่มเป็นขวดใหม่ให้ทันที แบบไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อสร้างความประทับใจในการเลือกซื้อไวน์กับเราตลอดการบริการ
Thanks for subscribing!
This email has been registered!