La Croix De Beaucaillou ไวน์แดง Second Label แห่ง St. Julien จากศตวรรษที่ 20

La Croix De Beaucaillou คือ หนึ่งในไวน์ระดับ Second Label ที่ทรงอิทธิพลที่สุดจากแคว้นบอร์กโดซ์ ประเทศฝรั่งเศส โดยมีต้นกำเนิดจาก Château Ducru-Beaucaillou ซึ่งเป็นไวน์ชั้นนำระดับ Grand Cru Classé แห่ง Saint-Julien AOC และความพิเศษของ La Croix De Beaucaillou คือ ถึงแม้จะไม่ใช่ไวน์ “First Label” แต่กลับได้รับการยอมรับว่าเป็นไวน์ที่มีเอกลักษณ์ กลิ่นอาย และคุณภาพใกล้เคียงกับรุ่นพี่ในระดับหัวแถว ทำให้เป็นหนึ่งใน Second Label ที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในตลาดโลก และสิ่งที่ทำให้ La Croix De Beaucaillou แตกต่างจากไวน์ Second Label อื่นๆ คือ ความพิถีพิถันในกระบวนการผลิตที่ยังคงยึดตามมาตรฐานเดียวกับ Château Ducru-Beaucaillou ทั้งการคัดเลือกองุ่นจากไร่ที่ดีที่สุด การใช้เทคนิคการหมัก และบ่มในถังไม้โอ๊กคุณภาพสูง และการควบคุมรสชาติให้ออกมาได้อย่างสมดุลลงตัว ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความใส่ใจที่ผู้ผลิตต้องการมอบประสบการณ์การดื่มไวน์ที่หรูหรา แต่สามารถเข้าถึงได้มากกว่าไวน์ระดับ Grand Cru Classé

ดังนั้น La Croix De Beaucaillou จึงไม่ใช่เพียงไวน์รอง แต่เป็นการสร้างสรรค์ไวน์ที่ยังคงกลิ่นอายแห่งความเป็น Saint-Julien อย่างแท้จริง ที่นักดื่มที่ได้ลิ้มลองต่างยกย่องว่ามีทั้งความเข้มข้น ความซับซ้อน และความหอมละมุนที่เหมาะสำหรับการเก็บบ่มต่อไปอีกหลายปี และสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสเสน่ห์ของ Château Ducru-Beaucaillou ในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า La Croix De Beaucaillou ก็ถือเป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบ และในบทความนี้ทาง Wine Cellar BKK ก็จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ La Croix De Beaucaillou ว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน ทำไมถึงเป็นที่นิยมของเหล่านักดื่มมาอย่างยาวนาน พร้อมแชร์เทคนิคในการดื่มแบบง่ายๆ ที่ช่วยให้สัมผัสถึงกลิ่นอายของไวน์รุ่นนี้ได้อย่างเต็มที่ โดยจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง สามารถติดตามกันได้เลย

1. แนะนำ La Croix De Beaucaillou ไวน์แดงที่ผลิตจากไร่องุ่นเก่าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Saint Julien

La Croix De Beaucaillou มีจุดเริ่มต้นจาก Château Ducru-Beaucaillou หนึ่งในไวน์ Grand Cru Classé ชั้นนำของเขต Saint-Julien ที่ได้รับการจัดอันดับไว้ตั้งแต่ปี 1855 และผู้ผลิตไวน์รุ่นนี้ คือ ครอบครัว Borie ซึ่งเข้ามาดูแล และพัฒนาไวน์แห่งนี้อย่างต่อเนื่อง และ Château Ducru-Beaucaillou ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 แต่ La Croix De Beaucaillou ถูกสร้างขึ้นในภายหลัง เพื่อเป็น Second Label โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้คนรักไวน์ได้สัมผัสความงดงามของไวน์ Grand Cru แต่ในระดับราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า

โดย La Croix De Beaucaillou ผลิตครั้งแรกในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 20 และถูกพัฒนาให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ได้เป็นเพียงการใช้ “องุ่นเหลือ” จากการคัดสรร แต่ได้รับการจัดการอย่างจริงจัง เพื่อสร้างไวน์ที่มีคุณภาพสูง และจุดเด่นสำคัญ คือ การใช้องุ่นจากไร่องุ่นเก่า (Old Vines) ที่มีดิน และภูมิประเทศอันเป็นเอกลักษณ์ของ Saint-Julien ซึ่งมีทั้งกรวด และดินหิน ทำให้ไวน์มีโครงสร้างแข็งแรง และรสชาติซับซ้อน

และตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา La Croix De Beaucaillou ได้ผ่านจุดเปลี่ยนสำคัญหลายครั้ง โดยเฉพาะในช่วงที่ครอบครัว Borie เข้ามาบริหาร และปรับปรุงคุณภาพการผลิต ทำให้ไวน์ Second Label นี้ถูกยกระดับจนได้รับความนิยมไม่แพ้ไวน์ชั้นนำ และในช่วงปีหลังๆ การใช้เทคนิคการบ่ม และควบคุมคุณภาพที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ทำให้ La Croix De Beaucaillou ได้รับการยกย่องในระดับสากล และในปัจจุบัน La Croix De Beaucaillou ไม่ใช่เพียงแค่ “เงา” ของ Château Ducru-Beaucaillou แต่ได้กลายเป็นไวน์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นในตัวเอง และเป็นหนึ่งใน Second Label ที่นักสะสม และนักดื่มไวน์ทั่วโลกให้ความสนใจ เพราะให้ทั้งกลิ่นอายความหรูหรา และความคุ้มค่าในขวดเดียว

2. กระบวนการผลิต La Croix De Beaucaillou มีขั้นตอนอะไรบ้าง?

สำหรับกระบวนการผลิต La Croix De Beaucaillou ยึดตามมาตรฐานของไวน์ระดับ Grand Cru Classé โดยมีความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ไร่องุ่นจนถึงการบรรจุขวด ซึ่งในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการผลิต La Croix De Beaucaillou มีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้

1. การคัดเลือกองุ่น สำหรับองุ่นที่ใช้ในการผลิต La Croix De Beaucaillou ส่วนใหญ่เป็น Cabernet Sauvignon และ Merlot และบางครั้งมี Petit Verdot ผสมผสานเข้ามาด้วย และองุ่นจะถูกเก็บเกี่ยวด้วยมือ เพื่อให้ได้ผลที่สมบูรณ์ที่สุด

2. การคัดกรองหลังการเก็บเกี่ยว สำหรับองุ่นที่ผ่านการเก็บเกี่ยวมานั้นจะถูกตรวจสอบ และคัดออกอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าองุ่นทุกผลมีคุณภาพสูงสุด ทั้งสี ความสมบูรณ์ของเปลือก และความสุกของเนื้อ

3. การบีบ และการแยกน้ำองุ่น สำหรับองุ่นที่ผ่านการคัดเลือกมาเป็นอย่างดีนั้นจะถูกนำมาบีบ เพื่อแยกน้ำออกจากเปลือก และก้าน โดยยังคงรักษากลิ่น และรสชาติธรรมชาติขององุ่นไว้

4. การหมัก สำหรับน้ำองุ่นที่ได้นั้นจะถูกนำเข้าสู่ถังหมักสแตนเลส พร้อมกับควบคุมอุณหภูมิอย่างเข้มงวด เพื่อให้การหมักสมดุล ทั้งรสชาติ กลิ่น และโครงสร้างแทนนิน

5. การบ่ม หลังจากการหมักเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไวน์จะถูกบ่มในถังไม้โอ๊กฝรั่งเศสประมาณ 12-18 เดือน ซึ่งบางส่วนเป็นถังใหม่ ทำให้ไวน์มีกลิ่นหอมของวานิลลา ไม้โอ๊ก และเครื่องเทศ

6. การผสม สำหรับขั้นตอนการผสมนั้นทางทีมผู้เชี่ยวชาญจะทำการชิม และผสมไวน์จากถังต่างๆ เพื่อสร้างสมดุลของรสชาติ ระหว่างความเข้มข้น ความนุ่มนวล และความซับซ้อนให้เข้ากันอย่างลงตัว และมีเอกลักษณ์เฉพาะของ La Croix De Beaucaillou อย่างชัดเจน

7. การบรรจุขวด และพักขวด เมื่อผสมเสร็จแล้ว ไวน์จะถูกกรองเล็กน้อยก่อนบรรจุขวด จากนั้นจะถูกพักในโรงบ่ม เพื่อให้รสชาติกลมกล่อม ก่อนวางจำหน่ายสู่ตลาดให้กับนักดื่มทั่วโลก

ดังนั้น กระบวนการผลิต La Croix De Beaucaillou ในแต่ละขั้นตอนทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพิถีพิถัน และมาตรฐานสูงสุดที่ La Croix De Beaucaillou ยึดถือมาตลอด ทำให้ไวน์ทุกขวดมีคุณภาพที่สม่ำเสมอ และโดดเด่นอย่างแท้จริง และถ้าหากนักดื่มคนไหนอยากจะสัมผัสถึงความพรีเมียม และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ La Croix De Beaucaillou ในราคาสบายกระเป๋า ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Cellar BKK ที่มี La Croix De Beaucaillou พร้อมส่งทันที ไม่ต้องรอพรีออเดอร์ การันตีของแท้ 100% และราคาดีที่สุดในตลาด พร้อมจัดส่งไวให้ถึงหน้าบ้าน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อได้เลยที่ Line Official : @winecellar24  ตลอด 24 ชั่วโมง

3. รสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของ La Croix De Beaucaillou เป็นยังไงบ้าง?

สำหรับ La Croix De Beaucaillou ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งใน Second Label ที่ให้รสชาติ และบุคลิกใกล้เคียงกับไวน์ Grand Cru Classé อย่าง Château Ducru-Beaucaillou ด้วยความโดดเด่นอยู่ที่การผสมผสานระหว่างโครงสร้างที่แข็งแรง ความหรูหรา และความละเมียดละไม จนทำให้นักดื่มสัมผัสได้ถึงความเป็นไวน์คุณภาพสูงอย่างแท้จริง ซึ่งในทุกจิบที่นักดื่มได้สัมผัสนั้นจะมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้

• รสชาติ (Flavor) สำหรับรสชาติของ La Croix De Beaucaillou มีเอกลักษณ์จากองุ่นสายพันธุ์หลักอย่าง Cabernet Sauvignon และ Merlot ซึ่งถูกปลูกในดินกรวดของ Saint-Julien ทำให้ได้รสชาติที่เข้มข้น และลุ่มลึก โดยเปิดมาด้วยความหอมหวานของผลไม้สีเข้ม เช่น แบล็กเคอร์แรนท์ แบล็กเชอร์รี บลูเบอร์รี และพลัมสุก ผสมผสานเข้ากันกับความเข้มข้นของดาร์กช็อกโกแลต เครื่องเทศอ่อนๆ และกลิ่นไม้โอ๊กที่ได้จากการบ่มในถังไม้ฝรั่งเศส ทำให้รสชาติยังมีความสมดุลระหว่างความหวานกลมกล่อม และความขมฝาดจากแทนนิน ทำให้ไวน์มีโครงสร้างชัดเจน และยาวนาน

• รสสัมผัส (Mouthfeel) สำหรับรสสัมผัสของ La Croix De Beaucaillou นั้นจะมีทั้งความหนักแน่น และความละมุนในเวลาเดียวกัน ด้วยแทนนินที่ละเอียด ทำให้เกิดความฝาดแบบนุ่มลึก ไม่หยาบกระด้าง เมื่อดื่มจะรู้สึกได้ถึงความหนาแน่น และความเข้มข้น แต่ไม่ถึงกับหนักจนดื่มยาก อีกทั้งยังมีความเป็นกรด หรือ Acidity อยู่ในระดับสมดุล คอยช่วยให้รสชาติยังคงความสด และไม่ทำให้ไวน์รู้สึกเลี่ยน ทั้งนี้รสสัมผัสยังสามารถพัฒนาได้เมื่อเก็บบ่มไว้นานขึ้น โดยแทนนินจะค่อยๆ นุ่มลง และทำให้ไวน์ละเมียดละไมยิ่งขึ้น

• กลิ่น (Aroma) สำหรับกลิ่นของ La Croix De Beaucaillou นั้นจะมีความซับซ้อน และหลากหลายชั้น เริ่มต้นจากกลิ่นผลไม้สุกสีเข้ม เช่น แบล็กเบอร์รี พลัม และแบล็กเชอร์รี ตามด้วยกลิ่นรองจากการบ่ม เช่น วานิลลา ยาสูบ เครื่องเทศอ่อนๆ และกลิ่นควันไม้บางเบา นอกจากนี้ยังมีโทนกลิ่นแร่ธาตุ และดินกรวด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Saint-Julien และเมื่อไวน์มีอายุเพิ่มขึ้น กลิ่นจะค่อยๆ เปลี่ยนไปในทิศทางที่ลุ่มลึกขึ้น เช่น หนังสัตว์ กาแฟ คาราเมล และโกโก้ ซึ่งช่วยเพิ่มมิติความซับซ้อนให้กับไวน์ได้เป็นอย่างดี

ด้วยองค์ประกอบของรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของ La Croix De Beaucaillou ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร และสะท้อนถึงกลิ่นอายของไวน์แดงจากประเทศฝรั่งเศสได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ La Croix De Beaucaillou เป็นอีกหนึ่งไวน์แดงที่เป็นที่นิยมของนักดื่มไวน์แดงทั่วโลก ดังนั้น ถ้าหากนักดื่มคนไหนอยากจะสัมผัสถึงความพรีเมียม และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ La Croix De Beaucaillou ในราคาสบายกระเป๋า ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Celler BKK ที่มี La Croix De Beaucaillou พร้อมส่งทันที ไม่ต้องรอพรีออเดอร์ ของแท้ 100% ราคาดีที่สุด จัดส่งไวให้ถึงหน้าบ้าน สั่งซื้อได้ที่ Line Official : @winecellar24 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

4. La Croix De Beaucaillou ควรดื่มยังไง? ถึงจะสัมผัสเอกลักษณ์ของ Terrior ได้อย่างชัดเจน

สำหรับการดื่ม La Croix De Beaucaillou ให้ได้ประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบนั้น ต้องอาศัยทั้งเทคนิคการเสิร์ฟ การเลือกแก้วไวน์ที่เหมาะสม การจับคู่อาหาร และการเก็บรักษาไวน์ที่ถูกต้อง เพื่อให้รสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นซับซ้อนของไวน์ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างเต็มที่ ซึ่งในแต่ละวิธีนั้นก็จะมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้

• วิธีการเสิร์ฟ สำหรับ La Croix De Beaucaillou ควรเสิร์ฟที่อุณหภูมิระหว่าง 16-18 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับไวน์แดงสไตล์ Bordeaux เพราะจะช่วยให้กลิ่นผลไม้เข้มข้น และกลิ่นเครื่องเทศแสดงออกได้ชัดเจน และถ้าหากเสิร์ฟไวน์เย็นเกินไปจะทำให้รสชาติ และกลิ่นถูกปิดกั้น และถ้าอุ่นเกินไปจะทำให้รสชาติของแอลกอฮอล์โดดเด่นเกินไป และก่อนดื่มควรถ่ายไวน์ลงดีแคนเตอร์อย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อให้ออกซิเจนช่วยเปิดกลิ่น และทำให้แทนนินอ่อนนุ่มขึ้น พร้อมกับเลือกใช้แก้ว Bordeaux Glass ที่มีขนาดใหญ่ และปากกว้างเล็กน้อย ช่วยให้ไวน์มีพื้นที่ในการหายใจ และกลิ่นสามารถฟุ้งกระจายได้เต็มที่ 

• วิธีการดื่ม สำหรับ La Croix De Beaucaillou ควรเริ่มจากการหมุนแก้วเล็กน้อย เพื่อปลดปล่อยกลิ่น หลังจากนั้นให้ทำการจิบช้าๆ ทีะเล็กน้อย เพื่อสัมผัสรสชาติที่ซับซ้อนทีละชั้น ทั้งรสผลไม้ กลิ่นไม้โอ๊ก ความนุ่มของแทนนิน และรายละเอียดต่างๆ ที่จะค่อยๆ เผยออกมา พร้อมกับกลั้วในปากเบาๆ แล้วค่อยกลืน เพื่อสัมผัสถึงฟินิชที่จะทิ้งท้ายไว้ภายในปากอย่างยาวนาน

• วิธีการจับคู่อาหาร สำหรับ La Croix De Beaucaillou เหมาะสำหรับอาหารที่มีรสเข้ม และโครงสร้างหนัก เช่น เนื้อแดงย่าง สเต็ก เนื้อแกะตุ๋น หรือเนื้อวัวซอสไวน์แดง หรืออาหารฝรั่งเศสที่มีซอสเข้มข้นก็เป็นตัวเลือกที่เข้ากันได้ดี นอกจากนี้ยังสามารถจับคู่กับอาหารที่มีส่วนประกอบของชีสที่มีรสจัด เช่น ชีสคอมเต้ ชีสบลู หรือชีสนมวัวที่มีกลิ่นแรง เพราะความเข้มข้นของไวน์จะช่วยเสริมรสชาติของอาหาร ในขณะเดียวกันอาหารก็ช่วยทำให้รสไวน์สมดุล และกลมกล่อมยิ่งขึ้น

• วิธีการเก็บรักษา สำหรับ La Croix De Beaucaillou ควรเก็บในที่ที่มีอุณหภูมิ 12-15 องศาเซลเซียส  และมีความชื้นอยู่ที่ประมาณ 70% และหลีกเลี่ยงการสั่นสะเทือน ควรวางขวดในแนวนอนเพื่อให้จุกคอร์กชุ่มชื้น และไม่แห้ง หากเก็บรักษาได้ถูกต้อง จะทำให้ La Croix De Beaucaillou สามารถพัฒนารสชาติได้ยาวนานกว่า 10-20 ปี ขึ้นอยู่กับปีวินเทจ และถ้าหากยิ่งเก็บไว้นาน ไวน์จะยิ่งมีรสสัมผัสที่นุ่มนวล และกลิ่นที่ซับซ้อนมากขึ้น

5. หาซื้อ La Croix De Beaucaillou พร้อมส่ง ของแท้ ราคาดีที่สุด ได้ที่ Wine Cellar BKK

สำหรับนักดื่มที่กำลังอยากจะซื้อ La Croix De Beaucaillou ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Cellar BKK แหล่งนำเข้า และแหล่งจำหน่ายเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีบริการแอดมินให้คำแนะนำสินค้าอย่างมืออาชีพ อยากได้ไวน์ที่มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน หรืออยากได้เครื่องดื่มประเภทอื่นๆ อยากได้ยี่ห้อไหนเป็นพิเศษ มีงบประมาณเท่าไหร่ ซื้อดื่มเอง หรือซื้อเป็นของขวัญ ก็สามารถแจ้งแอดมินได้ เพื่อให้แอดมินแนะนำเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์กับความต้องการของนักดื่มมากที่สุด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้เลยที่ 

• Line Official : @wincellar24 

• Website : www.winecellarbkk.com หรือ คลิก ที่นี่

โดยที่ Wine Cellar BKK มีเครื่องดื่มให้นักดื่มได้เลือกสรรกันหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นไวน์แดง ไวน์ขาว แชมเปญ สปาร์คกลิ้งไวน์ คอนญัก วิสกี้ หรือเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีให้เลือกซื้อกันอย่างครบครัน การันตีสินค้าทุกขวดเป็นของแท้ 100% ผ่านการคัดสรรเครื่องดื่มทุกขวดด้วยความใส่ใจ เพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่มีคุณภาพ และมาตรฐาน และการันตีว่าจำหน่ายในราคาดีที่สุดในตลาด เพื่อจำหน่ายเครื่องดื่มพรีเมียมในราคาสบายกระเป๋า และให้นักดื่มเข้าถึงเครื่องดื่มขวดโปรดได้ในราคาย่อมเยา มาพร้อมกับบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงหน้าบ้าน ที่มีให้นักดื่มได้เลือกใช้ทั้งบริการจัดส่งสินค้าด่วนภายในกทม. ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง และบริการจัดส่งสินค้าทั่วประเทศ ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 1-2 วัน สามารถสั่งซื้อเครื่องดื่มกับ Wine Cellar BKK ได้ง่ายๆ ทุกที่ ทุกเวลา แพ็คสินค้าทุกออเดอร์เป็นอย่างดี มีการรับประกันสินค้าระหว่างการจัดส่ง หากสินค้าได้รับความเสียหาย แตก หัก หรืออยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ที่เกิดจากการจัดส่ง ทางร้านยินดีเปลี่ยนเครื่องดื่มเป็นขวดใหม่ให้ทันที แบบไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อสร้างความประทับใจในการเลือกซื้อไวน์กับเราตลอดการบริการ

6. สนใจรับ La Croix De Beaucaillou พร้อมส่ง ของแท้ ราคาดีที่สุด สั่งได้เลย > ที่นี่

7. ดูสินค้าไวน์แดงรุ่นอื่นๆ ที่ Wine Cellar BKK มีจำหน่าย คลิก > ที่นี่