Couldn't load pickup availability
- Free standard shipping on orders over 10,000 THB
You may return most new, unopened items within 30 days of delivery for a full refund. We'll also pay the return shipping costs if the return is a result of our error (you received an incorrect or defective item, etc.).
You should expect to receive your refund within four weeks of giving your package to the return shipper, however, in many cases you will receive a refund more quickly. This time period includes the transit time for us to receive your return from the shipper (5 to 10 business days), the time it takes us to process your return once we receive it (3 to 5 business days), and the time it takes your bank to process our refund request (5 to 10 business days).
If you need to return an item, simply login to your account, view the order using the "Complete Orders" link under the My Account menu and click the Return Item(s) button. We'll notify you via e-mail of your refund once we've received and processed the returned item.
ถ้าหากพูดถึงสก็อตช์วิสกี้ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก หนึ่งในชื่อที่อยู่ในใจของนักดื่มวิสกี้หลายๆ คน คือ “JOHNNIE WALKER” ที่เป็นแบรนด์วิสกี้ระดับตำนานจากสก็อตแลนด์ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 200 ปี โดยแต่ละรุ่นที่ผลิตออกมานั้นต่างก็มีเอกลักษณ์ และเรื่องราวเฉพาะตัว รวมถึงรุ่นพิเศษอย่าง JOHNNIE WALKER Swing ซึ่งถือเป็นหนึ่งในคอลเลกชันคลาสสิกที่ถูกผลิตขึ้นในช่วงต้นยุค 70
โดย JOHNNIE WALKER Swing เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 1972 โดยได้รับการออกแบบให้แตกต่างจากรุ่นอื่นๆ อย่างชัดเจน ด้วยขวดแก้วทรงโค้งที่สามารถ “โยกไปมา” ได้เมื่อตั้งอยู่บนพื้น ซึ่งเป็นลักษณะของขวดที่เป็นทั้งความแปลกใหม่ และฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การเดินทางทางเรือในยุคนั้น อีกทั้งชื่อ “Swing” เองก็สื่อถึงความพลิ้วไหว สนุกสนาน และความมีชีวิตชีวาของวิสกี้รุ่นนี้
นอกจากรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นแล้ว รสชาติของ Swing ยังได้รับการปรุงแต่งอย่างพิถีพิถัน โดยผสมผสานมอลต์วิสกี้ และเกรนวิสกี้จากหลายภูมิภาคในสก็อตแลนด์ จนได้รสสัมผัสที่หรูหรา ซับซ้อน และนุ่มนวล เหมาะกับนักดื่มที่ต้องการประสบการณ์ในการดื่มที่เหนือระดับ
ดังนั้น ในบทความนี้ทาง Wine Cellar BKK ก็จะพานักดื่มทุกคนมาทำความรู้จักกับ JOHNNIE WALKER Swing กันมากขึ้นว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร ตั้งแต่จุดกำเนิดของแนวคิด ผู้สร้างสรรค์ ความพิเศษในการผลิต ไปจนถึงเหตุผลที่ทำให้รุ่นนี้กลายเป็น Special Edition ที่คนรักวิสกี้ไม่ควรพลาด รวมถึงมีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน พร้อมแนะนำเทคนิคในการดื่มแบบง่ายๆ โดยจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง สามารถติดตามกันได้เลย
“JOHNNIE WALKER Swing” คือ หนึ่งในรุ่นที่โดดเด่น และมีชื่อเสียงของตระกูล Johnnie Walker แบรนด์วิสกี้ระดับโลกจากสก็อตแลนด์ที่ถือกำเนิดในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 โดย JOHNNIE WALKER Swing ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1972 ภายใต้การนำของ Sir Alexander Walker II ซึ่งเป็นหลานชายของ John Walker ผู้ก่อตั้งแบรนด์ และ Alexander Walker II เป็นนักปรุงวิสกี้ผู้มีชื่อเสียงในด้านการสร้างสรรค์สูตรที่ซับซ้อน และหรูหรา รวมถึงเขาเป็นผู้รับช่วงต่อธุรกิจครอบครัวในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และได้สืบทอดวิสัยทัศน์ของ John Walker อย่างเต็มรูปแบบ และ Swing ก็เป็นหนึ่งในผลงานสุดท้ายของเขาก่อนจะเกษียณ
โดยจุดเด่นของ JOHNNIE WALKER Swing อยู่ตรงที่ขวดแก้วทรงโค้งที่สามารถโยกได้อย่างนุ่มนวล เป็นนวัตกรรมที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนในวงการวิสกี้ ซึ่งถูกออกแบบมาให้สามารถวางบนโต๊ะเรือได้โดยไม่ล้มง่าย ซึ่งเหมาะกับนักเดินเรือ และนักเดินทางระดับไฮคลาสในยุค 70 นอกจากนั้นยังใช้การผสมผสานวิสกี้จากสเปย์ไซด์ (Speyside) และไฮแลนด์ (Highlands) รวมถึงมอลต์บางส่วนจากเกาะ (Islands) ทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม นุ่มละมุน พร้อมกลิ่นหอมของน้ำผึ้ง วานิลลา และผลไม้แห้ง และยังมีความสมดุลระหว่างควันอ่อนๆ กับความหวานของมอลต์ ทำให้ดื่มง่าย เหมาะทั้งกับผู้ที่เริ่มต้น และผู้ที่มีประสบการณ์ในการดื่มวิสกี้
และหนึ่งในจุดเปลี่ยนของ JOHNNIE WALKER Swing คือ การกลายเป็น “ของสะสม” หรือ Collector’s Item ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ด้วยจำนวนการผลิตที่จำกัด และการออกแบบขวดที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้หลายคนเริ่มมอง Swing ไม่ใช่แค่ของดื่ม แต่เป็นของหายากที่ควรเก็บรักษา นอกจากนี้ความเปลี่ยนแปลงของโลกในช่วงทศวรรษ 1970 เช่น การเติบโตของธุรกิจเดินเรือระหว่างประเทศ และกระแสความนิยมของไลฟ์สไตล์หรูหราในยุโรป ทำให้ Swing ถูกยกให้เป็นสัญลักษณ์ของความหรูหราเคลื่อนที่อย่างแท้จริง
และในปัจจุบัน ถึงแม้จะไม่ได้พบเห็น Swing วางขายทั่วไปเหมือนวิสกี้รุ่นหลักอื่นๆ แต่ยังคงมีการผลิตในรูปแบบลิมิเต็ดอยู่บ้าง และเป็นที่ต้องการของนักสะสมทั่วโลก รวมถึงเป็นของขวัญที่บ่งบอกถึงรสนิยมของผู้ให้ได้เป็นอย่างดี ดังนั้น JOHNNIE WALKER Swing จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่วิสกี้รสชาติดีเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องดื่มที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ ความคิดสร้างสรรค์ และจิตวิญญาณแห่งการเดินทางของตระกูล Walker ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
สำหรับการผลิต JOHNNIE WALKER Swing เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญขั้นสูง และประสบการณ์ในการคัดเลือกวิสกี้จากหลายภูมิภาค เพื่อสร้างสมดุลที่ลงตัว และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรุ่นนี้ ซึ่งในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการผลิต JOHNNIE WALKER Swing นั้นก็จะมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
การคัดเลือกมอลต์ และเกรนวิสกี้ สำหรับ JOHNNIE WALKER Swing เป็น Blended Scotch Whisky ซึ่งประกอบด้วยมอลต์วิสกี้ และเกรนวิสกี้ ที่ผ่านการกลั่นจากหลายภูมิภาค เช่น Speyside, Highlands, Lowlands และ Islands โดยมอลต์จาก Speyside จะเน้นความหอมหวาน และซับซ้อน ขณะที่เกรนวิสกี้จาก Lowlands ให้ความนุ่มนวล
การกลั่น สำหรับมอลต์วิสกี้นั้นจะถูกกลั่นด้วยหม้อทองแดงแบบ Pot Still เพื่อรักษากลิ่น และรสชาติที่เข้มข้น ส่วนเกรนวิสกี้จะใช้ Continuous Still เพื่อให้ได้รสสัมผัสที่เบากว่า และหลังจากการกลั่น วิสกี้จะมีแอลกอฮอล์สูง และยังไม่ได้สีทองอย่างที่เห็นในขวด
การคัดเลือกถังไม้โอ๊ค สำหรับขั้นตอนสำคัญต่อมา คือ การเลือกถังไม้โอ๊คในการบ่ม โดย JOHNNIE WALKER Swing จะใช้ถังโอ๊คอเมริกัน และยุโรปที่ผ่านการเผาไฟภายใน ช่วยเสริมกลิ่นวานิลลา คาราเมล และเครื่องเทศอย่างอบเชย และถังที่เลือกใช้จะต้องผ่านการใช้งานมาแล้ วเพื่อให้สมดุลรสชาติที่สมบูรณ์แบบ
การบ่ม สำหรับวิสกี้แต่ละชนิดจะถูกบ่มในถังไม้โอ๊คเป็นเวลาหลายปี โดยบางตัวอาจบ่มนานถึง 15 ปีหรือมากกว่า และกระบวนการบ่มนี้ช่วยให้วิสกี้เกิดการพัฒนาในเรื่องกลิ่น สี และรสสัมผัสอย่างลุ่มลึก
การคัดเลือกวิสกี้ที่นำมาผสม สำหรับขั้นตอนนี้ถือเป็นหัวใจของการผลิต JOHNNIE WALKER Swing โดย Master Blender จะคัดเลือกวิสกี้ที่บ่มในระดับเวลาที่แตกต่างกัน และมีบุคลิกเฉพาะตัว มาผสมในอัตราส่วนที่พอเหมาะ เพื่อสร้างความกลมกล่อม สมดุล และเอกลักษณ์ของ Swing
การปรับสมดุล และเก็บพัก หลังจากการผสม วิสกี้จะถูกพักไว้ในถังอีกช่วงเวลาหนึ่ง เพื่อให้รสชาติเข้ากันอย่างลงตัว หรือที่เรียกว่า “Marrying Process” ช่วยให้รสสัมผัสมีความเนียนนุ่ม ละมุน กลมกล่อม และมีความกลมกลืนแบบไม่มีสะดุด
การบรรจุขวด สำหรับขั้นตอนสุดท้าย คือ การบรรจุขวดในรูปทรงโค้งอันเป็นเอกลักษณ์ โดยขวดทุกใบได้รับการตรวจสอบคุณภาพ และประทับตราสัญลักษณ์ของแบรนด์ เพื่อยืนยันความเป็นของแท้ และพร้อมส่งต่อไปยังมือของนักดื่มทั่วโลก
สำหรับ JOHNNIE WALKER Swing มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่แสดงถึงความหรูหรา และซับซ้อนของการผสมวิสกี้ที่ถูกคัดเลือกมาอย่างดีจากหลากหลายภูมิภาคในสก็อตแลนด์ ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้ดื่มง่าย เข้าถึงได้สำหรับทั้งนักดื่มมือใหม่ และนักดื่มที่มีประสบการณ์ ซึ่งรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของ JOHNNIE WALKER Swing ที่นักดื่มจะได้สัมผัสนั้นมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
รสชาติ (Flavor) สำหรับรสชาติของ JOHNNIE WALKER Swing นั้นจะมีความนุ่มนวลที่เป็นจุดเด่นของ Swing โดยเริ่มต้นด้วยความหอมละมุนจากน้ำผึ้ง และวานิลลา ตามมาด้วยรสชาติของผลไม้สุก เช่น ลูกแพร์ แอปเปิ้ล และผลไม้เมืองหนาว และปิดท้ายด้วยความหอมของไม้เล็กน้อยจากถังโอ๊ค และเครื่องเทศอ่อนๆ ที่ช่วยเพิ่มมิติมากขึ้น
รสสัมผัส (Mouthfeel) สำหรับรสสัมผัสของ JOHNNIE WALKER Swing นั้นจะมีความกลมกล่อม และหรูหรา โดยจะมีความหนืดเล็กน้อยพอให้รู้สึกถึงความเข้มข้น อีกทั้งยังมีความนุ่มลื่นของเกรนวิสกี้ที่ช่วยให้ดื่มง่าย และไม่ขัดคอ อีกทั้งยังทิ้งท้ายรายละเอียดต่างๆ ในช่องปากจะยาวนาน และมอบความอุ่นละมุนแบบอบอวล และช่วยเพิ่มมิติในตอนจบแบบคลาสสิก
กลิ่น (Aroma) สำหรับกลิ่นของ JOHNNIE WALKER Swing นั้นจะเริ่มต้นด้วยกลิ่นหอมละมุนที่หลากหลาย เปิดมาด้วยโน้ตหลักที่จะเป็นกลิ่นของผลไม้แห้ง เช่น ลูกเกด แอปริคอตแห้ง และลูกฟิก ตามมาด้วยกลิ่นวานิลลา น้ำผึ้ง และไม้โอ๊คอ่อนๆ จากการบ่มในถังไม้ ปิดท้ายด้วยกลิ่นหอมของเครื่องเทศนุ่มๆ อย่างอบเชย และความควันบางเบาจากมอลต์ ทำให้กลิ่นโดยรวมมีความสมดุลระหว่างหวานกับอบอุ่น และชวนให้ลิ้มลองในทุกสัมผัส
ด้วยองค์ประกอบของรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของ JOHNNIE WALKER Swing ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร และสะท้อนถึงกลิ่นอายของสก็อตช์วิสกี้ได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ JOHNNIE WALKER Swing เป็นอีกหนึ่งวิสกี้ที่เป็นที่นิยมของนักดื่มวิสกี้ทั่วโลก ดังนั้น ถ้าหากนักดื่มคนไหนอยากจะสัมผัสถึงความพรีเมียม และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ JOHNNIE WALKER Swing ในราคาสบายกระเป๋า ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Celler BKK ที่มี JOHNNIE WALKER Swing พร้อมส่งทันที ไม่ต้องรอพรีออเดอร์ ของแท้ 100% ราคาดีที่สุด จัดส่งไวให้ถึงหน้าบ้าน สั่งซื้อได้ที่ Line Official : @winecellar24 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ถ้าหากนักดื่มอยากดื่ม JOHNNIE WALKER Swing ให้สัมผัสได้ถึงความเข้มข้นได้แบบถึงใจ ควรให้ความสำคัญกับเทคนิคในการดื่ม เพราะนอกจากจะช่วยให้รับรู้กลิ่น รส และสัมผัสได้ครบถ้วนแล้ว ยังช่วยเพิ่มความรื่นรมย์ให้กับช่วงเวลาแห่งการดื่มอีกด้วย ซึ่งในแต่ละเทคนิคนั้นก็จะมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
วิธีการเสิร์ฟ สำหรับ JOHNNIE WALKER Swing สามารถเสิร์ฟได้หลายรูปแบบตามความชอบ แต่หากต้องการสัมผัสความพรีเมียมอย่างเต็มรูปแบบ แนะนำดังนี้
เสิร์ฟแบบ Neat หรือเสิร์ฟแบบไม่ผสม ไม่ใส่น้ำแข็ง ด้วยการเทวิสกี้ลงแก้ว Tumbler หรือ Glencairn Glass ประมาณ 30 มล. ปล่อยให้สัมผัสอากาศเล็กน้อยสัก 1-2 นาที เพื่อให้กลิ่นเปิดออกอย่างชัดเจน
เสิร์ฟแบบ On the Rocks หรือเสิร์ฟแบบใส่น้ำแข็ง ที่จะใส่น้ำแข็งประมาณ 1-2 ก้อน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นดื่มวิสกี้ เพราะจะช่วยลดความแรงของแอลกอฮอล์ ทำให้รสชาตินุ่มขึ้น และดื่มง่ายขึ้น
เสิร์ฟแบบ Highball ที่เป็นการเสิร์ฟที่จะผสมกับโซดา และมะนาวเล็กน้อย ซึ่งจะช่วยเปิดโน้ตผลไม้ และเพิ่มความสดชื่น เป็นอีกวิธีที่เหมาะกับนักดื่มวิสกี้มือใหม่เช่นกัน
วิธีการดื่ม สำหรับการดื่ม JOHNNIE WALKER Swing นั้นควรทำการหมุนแก้วเบาๆ เพื่อให้วิสกี้สัมผัสกับอากาศ และทำให้กลิ่นหอมชัดเจนมากขึ้น หลังจากนั้นให้ทำการดมกลิ่น แล้วค่อยๆ จิบทีละเล็กน้อย พร้อมกับกลั้วในปากเบาๆ ทำให้สัมผัสรายละเอียดต่างๆ ที่ค่อยๆ เปลี่ยนได้ชัดเจน แล้วจึงค่อยๆ กลืน เพื่อให้สังเกตการเปลี่ยนแปลงของรสในแต่ละช่วงที่จะทิ้งท้ายไว้ภายปากอย่างยาวนาน
วิธีการจับคู่อาหาร สำหรับ JOHNNIE WALKER Swing สามารถจับคู่กับอาหารได้หลากหลาย โดยเฉพาะอาหารที่มีความเค็ม มัน หรือเผ็ดอ่อนๆ ยกตัวอย่างเช่น ชีสเนื้อแข็ง อย่างชีสเชดดาร์ หรือชีสกัวดาร์ ที่จะเพิ่มโน้ตครี มและเค็มตัดกับความหวานของวิสกี้ หรือเมนูเนื้ออบ หรือเนื้อย่าง เช่น เนื้อวัว หรือเป็ด ที่จะช่วยเสริมรสสัมผัสเข้มข้นให้สมดุลกับโครงสร้างของวิสกี้ รวมถึงขนมหวานอย่างดาร์กช็อกโกแลต หรือผลไม้แห้ง ที่จะช่วยขับโน้ตผลไม้ใน Swing ได้อย่างดีเยี่ยม
วิธีการเก็บรักษา ควรทำการเก็บรักษา JOHNNIE WALKER Swing ไว้ในที่อุณหภูมิคงที่ ไม่ให้โดนแสงแดด หรือความร้อนโดยตรง หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง และอย่าวางใกล้แหล่งความร้อน ควรตั้งขวดในแนวตั้งเสมอ เพราะแอลกอฮอล์สามารถกัดกร่อนจุกปิดขวดได้หากสัมผัสโดยตรงเป็นเวลานาน ซึ่งอาจทำให้สูญเสียความแน่นของฝา และเกิดการระเหยได้ และเมื่อเปิดขวดแล้ว ควรปิดฝาให้แน่น และดื่มให้หมดภายใน 1-2 ปี เพื่อไม่ให้รสชาติเปลี่ยน
สำหรับนักดื่มที่กำลังอยากจะซื้อ JOHNNIE WALKER Swing ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Cellar BKK แหล่งนำเข้า และแหล่งจำหน่ายเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีบริการแอดมินให้คำแนะนำสินค้าอย่างมืออาชีพ อยากได้ไวน์ที่มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน หรืออยากได้เครื่องดื่มประเภทอื่นๆ อยากได้ยี่ห้อไหนเป็นพิเศษ มีงบประมาณเท่าไหร่ ซื้อดื่มเอง หรือซื้อเป็นของขวัญ ก็สามารถแจ้งแอดมินได้ เพื่อให้แอดมินแนะนำเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์กับความต้องการของนักดื่มมากที่สุด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้เลยที่
Website : www.winecellarbkk.com หรือ คลิก ที่นี่
โดยที่ Wine Cellar BKK มีเครื่องดื่มให้นักดื่มได้เลือกสรรกันหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นไวน์แดง ไวน์ขาว แชมเปญ สปาร์คกลิ้งไวน์ คอนญัก วิสกี้ หรือเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีให้เลือกซื้อกันอย่างครบครัน การันตีสินค้าทุกขวดเป็นของแท้ 100% ผ่านการคัดสรรเครื่องดื่มทุกขวดด้วยความใส่ใจ เพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่มีคุณภาพ และมาตรฐาน และการันตีว่าจำหน่ายในราคาดีที่สุดในตลาด เพื่อจำหน่ายเครื่องดื่มพรีเมียมในราคาสบายกระเป๋า และให้นักดื่มเข้าถึงเครื่องดื่มขวดโปรดได้ในราคาย่อมเยา มาพร้อมกับบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงหน้าบ้าน ที่มีให้นักดื่มได้เลือกใช้ทั้งบริการจัดส่งสินค้าด่วนภายในกทม. ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง และบริการจัดส่งสินค้าทั่วประเทศ ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 1-2 วัน สามารถสั่งซื้อเครื่องดื่มกับ Wine Cellar BKK ได้ง่ายๆ ทุกที่ ทุกเวลา แพ็คสินค้าทุกออเดอร์เป็นอย่างดี มีการรับประกันสินค้าระหว่างการจัดส่ง หากสินค้าได้รับความเสียหาย แตก หัก หรืออยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ที่เกิดจากการจัดส่ง ทางร้านยินดีเปลี่ยนเครื่องดื่มเป็นขวดใหม่ให้ทันที แบบไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อสร้างความประทับใจในการเลือกซื้อไวน์กับเราตลอดการบริการ
Thanks for subscribing!
This email has been registered!