Couldn't load pickup availability
- Free standard shipping on orders over 10,000 THB
You may return most new, unopened items within 30 days of delivery for a full refund. We'll also pay the return shipping costs if the return is a result of our error (you received an incorrect or defective item, etc.).
You should expect to receive your refund within four weeks of giving your package to the return shipper, however, in many cases you will receive a refund more quickly. This time period includes the transit time for us to receive your return from the shipper (5 to 10 business days), the time it takes us to process your return once we receive it (3 to 5 business days), and the time it takes your bank to process our refund request (5 to 10 business days).
If you need to return an item, simply login to your account, view the order using the "Complete Orders" link under the My Account menu and click the Return Item(s) button. We'll notify you via e-mail of your refund once we've received and processed the returned item.
“JACK DANIELS Old No. 7” คือ หนึ่งในสัญลักษณ์แห่งวงการวิสกี้แบบอเมริกันที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกด้วยภาพลักษณ์คลาสสิก คุณภาพพรีเมียม และกลิ่นอายแบบดั้งเดิมที่ถูกสืบทอดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 และในทุกจิบที่นักดื่มได้ลิ้มลองนั้นสามารถบ่งบอกถึงสูตรเฉพาะของ Jack Daniel's ที่เริ่มต้นโดย Jack Daniel นักปรุงวิสกี้มือหนึ่งชาวเทนเนสซีที่ตั้งใจผลิตวิสกี้คุณภาพสูงอย่างเข้มงวด จึงทำให้ JACK DANIELS Old No. 7 ขวดนี้จึงเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และเรื่องเล่าจากยุคก่อน รวมถึงความรู้สึกถึงความเก่าแก่ที่ยังร่วมสมัย
โดย JACK DANIELS Old No. 7 ในทุกขวดนั้นจะเต็มไปด้วยเสน่ห์ของสีอำพันอุ่นๆ ที่หล่อหลอมระหว่างน้ำเชื่อมไม้เมเปิ้ล และการบ่มในถังเชอร์รีโอ๊คย่างไฟอย่างพิถีพิถัน บวกกับโลโก้ และฉลากที่มีดีไซน์เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ทำให้การดื่ม JACK DANIELS Old No. 7 เพียงแก้วเดียวก็สามารถเล่าเรื่องราวทั้งอดีต และปัจจุบันของวัฒนธรรมวิสกี้อเมริกันได้อย่างลงตัว
ดังนั้น ในบทความนี้ทาง Wine Cellar BKK ก็จะพานักดื่มทุกคนไปทำความรู้จักกับ JACK DANIELS Old No. 7 อย่างละเอียด ตั้งแต่ต้นกำเนิดของแบรนด์ กระบวนการผลิตแบบ “Charcoal mellowing” ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น ไปจนถึงการเสิร์ฟ การจับคู่ และวิธีดื่มให้ได้รสชาติแท้จริงแบบเต็มขั้น โดยจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง สามารถติดตามกันได้เลย
สำหรับ JACK DANIELS Old No. 7 เป็นเทนเนสซีวิสกี้ที่โด่งดังระดับโลก และถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์แห่งวิถีชีวิตอเมริกันที่ยืนหยัดผ่านกาลเวลามายาวนานกว่า 150 ปี โดยจุดเริ่มต้นของวิสกี้ขวดนี้ต้องย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1866 เมื่อ Jasper Newton Jack Daniel ได้ก่อตั้งโรงกลั่นวิสกี้แห่งแรกในอเมริกาอย่างเป็นทางการที่เมืองลินช์เบิร์ก รัฐเทนเนสซี ภายใต้ชื่อ Jack Daniel Distillery ซึ่งในปัจจุบันก็ยังคงตั้งอยู่ที่เดิม และได้รับการจดทะเบียนเป็นโรงกลั่นแห่งแรกของสหรัฐอเมริกาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
โดยในช่วงเริ่มต้น Jack Daniel ตั้งใจสร้างวิสกี้ที่แตกต่างจากเบอร์เบินทั่วไป โดยใช้กระบวนการกรองผ่านถ่านไม้เมเปิ้ลที่เผาเองด้วยมือ ซึ่งในภายหลังเรียกกันว่า Lincoln County Process และกระบวนการนี้ทำให้วิสกี้มีความนุ่มนวลเป็นพิเศษ และถือเป็นสิ่งที่แยก Jack Daniel’s ออกจากเบอร์เบินทั่วไป ทำให้ถูกจัดอยู่ในประเภท “Tennessee Whiskey” แทนที่จะเป็นแค่เบอร์เบิน
ซึ่งชื่อ “Old No.7” ยังเต็มไปด้วยปริศนา ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าเลข 7 หมายถึงอะไร บ้างก็ว่าเป็นหมายเลขล็อตที่ 7 ของโรงกลั่น บ้างก็ว่าเป็นสูตรที่ 7 ที่แจ็คเลือกใช้จริงๆ หรืออาจเป็นเพียงเลขนำโชคของเขาเอง แต่ไม่ว่าความจริงจะเป็นอย่างไร “No.7” ก็กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความคลาสสิก และคุณภาพ และจุดเด่นของ JACK DANIELS Old No. 7 คือ รสชาติที่นุ่มลึก มีความสมดุลระหว่างหวาน กลิ่นโอ๊ค และเผ็ดร้อนเล็กน้อยจากธัญพืช เป็นวิสกี้ที่สามารถดื่มได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นแบบเพียว ออนเดอะร็อก ผสมโคล่า หรือทำเป็นค็อกเทลก็ยังคงเอกลักษณ์ของตัวเองได้อย่างครบถ้วน
และจุดเปลี่ยนที่สำคัญของแบรนด์นี้ คือ เมื่อบริษัท Brown-Forman Corporation เข้าซื้อกิจการในปี ค.ศ. 1956 ทำให้ Jack Daniel’s กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ระดับโลกที่มีการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ พร้อมกับขยายตลาดไปยังนานาประเทศอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบัน Jack Daniel’s มีจำหน่ายในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก และกลายเป็นชื่อที่อยู่ในใจของทั้งนักดื่มทั่วไป และนักสะสมวิสกี้ชั้นนำ
ดังนั้น ถึงแม้โลกจะเปลี่ยนแปลงไปเพียงใด แต่ JACK DANIELS Old No. 7 ก็ยังคงรักษาความคลาสสิกในแบบดั้งเดิม และยังเป็นเครื่องดื่มที่เล่าเรื่องราวของความทุ่มเท มรดกทางวัฒนธรรม และความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์รสชาติที่สมบูรณ์แบบในทุกขวด และทุกหยด
สำหรับ JACK DANIELS Old No. 7 เป็นวิสกี้อเมริกันที่มีกรรมวิธีการผลิตเฉพาะตัว ทำให้การผลิตทุกหยดของ JACK DANIELS Old No. 7 นั้นต้องผ่านขั้นตอนที่พิถีพิถัน ซึ่งในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการผลิต JACK DANIELS Old No. 7 นั้นมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
การคัดเลือกวัตถุดิบ สำหรับการผลิต JACK DANIELS Old No. 7 นั้นจะใช้ข้าวโพดประมาณ 80% ข้าวบาร์เลย์ 12% และไรย์ 8% เป็นสูตรเฉพาะ ซึ่งช่วยสร้างความสมดุลระหว่างความหวาน และความเผ็ดร้อนของวิสกี้ และวัตถุดิบทั้งหมดถูกคัดสรรอย่างดี เพื่อให้มั่นใจว่าคุณภาพอยู่ในระดับพรีเมียม
การบด และผสม Mash สำหรับวัตถุดิบทั้งสามชนิดจะถูกบดรวมกัน หรือที่เรียกว่า Mash แล้วนำไปต้มกับน้ำบริสุทธิ์จาก Cave Spring Hollow แหล่งน้ำธรรมชาติที่มีแร่ธาตุต่ำ และไม่มีเหล็ก ซึ่งเป็นน้ำที่ใช้ในการผลิต JACK DANIELS Old No. 7 มาตั้งแต่แรกเริ่ม และกระบวนการนี้จะสกัดน้ำตาลออกจากธัญพืช เพื่อเตรียมเข้าสู่การหมัก
การหมัก สำหรับ Mash ที่ได้จะถูกส่งเข้าสู่ถังหมักขนาดใหญ่ที่ทำจากไซเปรส โดยใช้ยีสต์สายพันธุ์ดั้งเดิมที่ Jack Daniel เคยใช้เมื่อร้อยกว่าปีก่อน และกระบวนการหมักจะใช้เวลาหลายวัน เพื่อให้ยีสต์เปลี่ยนน้ำตาลเป็นแอลกอฮอล์ และสร้างสารประกอบกลิ่นรสเฉพาะตัวของ Old No.7
การกลั่นแบบ Column Still และ Copper Doubler สำหรับการผลิต JACK DANIELS Old No. 7 นั้นจะใช้วิธีการกลั่นแบบ continuous distillation โดยผ่านเครื่องกลั่น column still ก่อนจะนำไปกลั่นซ้ำอีกครั้งผ่าน copper doubler เพื่อเพิ่มความบริสุทธิ์ และสร้างรสสัมผัสที่นุ่มนวล และละเอียด
การกรองผ่านถ่านไม้เมเปิ้ล หรือที่เรียกว่า Charcoal Mellowing เป็นขั้นตอนที่เป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากเบอร์เบินทั่วไป ด้วยการนำวิสกี้ที่ได้มาหยดช้าๆ ผ่านถ่านไม้เมเปิ้ลที่เผาเองด้วยมือ ซึ่งใช้เวลานานหลายวัน ช่วยขจัดความเฝื่อน และเพิ่มความหอมหวานให้กับวิสกี้อย่างนุ่มลึก
การบ่มในถังไม้โอ๊คใหม่เผาด้านใน สำหรับขั้นตอนนี้วิสกี้จะถูกเทลงในถังไม้โอ๊คใหม่ที่ถูกเผาด้านในระดับสูงสุด เพื่อกระตุ้นให้ไม้ปล่อยรสชาติ และกลิ่นเฉพาะออกมา และการบ่มจะใช้ระยะเวลาหลายปี โดยไม่มีการกำหนดอายุแน่นอน แต่ใช้วิธีการประเมินด้วยการดม และชิมจาก Master Distiller เพื่อให้ได้รสชาติที่เหมาะสมที่สุด
การบรรจุขวด เมื่อวิสกี้บ่มได้ที่ จะถูกกรองอีกครั้ง และบรรจุลงขวดพร้อมฉลาก JACK DANIELS Old No. 7 สีดำอันเป็นเอกลักษณ์ และทุกขวดจะมีหมายเลขล็อต และผ่านการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดก่อนจำหน่าย
ดังนั้น กระบวนการผลิต JACK DANIELS Old No. 7 ทุกขั้นตอนไม่เพียงสร้างวิสกี้ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ แต่ยังสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ ความใส่ใจ และความปราณีตที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้แบรนด์นี้ครองใจคนทั่วโลกมายาวนาน
JACK DANIELS Old No. 7 ถือเป็นหนึ่งในเทนเนสซีวิสกี้ที่มีเอกลักษณ์ด้านรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่โดดเด่น ทำให้เป็นที่จดจำได้ง่าย อีกทั้งยังมีความซับซ้อนในระดับที่ไม่ทำให้มือใหม่รู้สึกดื่มยากเกินไป แต่ก็มีความนุ่มลึกพอที่จะให้สายดื่มรุ่นเก๋าสัมผัสได้ถึงรายละเอียดต่างๆ ได้ ซึ่งรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่นักดื่มจะได้สัมผัสนั้นมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
รสชาติ (Flavor) สำหรับรสชาติของ JACK DANIELS Old No. 7 นั้นจะค่อยๆ เผยตัวอย่างนุ่มนวล โดยเริ่มจากความหวานของคาราเมล น้ำผึ้ง และวานิลลา ที่ไม่ได้หวานจัดจนเกินไป ตัดด้วยความเข้มจากโอ๊ค เครื่องเทศอ่อนๆ และผลไม้แห้ง ทำให้เป็นรสชาติที่สมดุลระหว่างความหวาน ความเผ็ดร้อนเบาๆ และความหอมไม้ ในขณะเดียวกันก็มีความละมุนจากกระบวนการกลั่น และกรองอย่างละเอียด
รสสัมผัส (Mouthfeel) สำหรับรสสัมผัสของ JACK DANIELS Old No. 7 นั้นจะให้สัมผัสที่เรียบลื่น ปานกลางค่อนไปทางเบา ไม่หนืด หรือหนักเกินไป จิบแล้วไม่รู้สึกแสบคอ หรือระคายปาก ถึงแม้ไม่มีน้ำแข็ง หรือมิกเซอร์ผสมด้วย และความนุ่มละมุนนี้มาจากกระบวนการกรองผ่านถ่านไม้ที่ช่วยขจัดกลิ่นฉุน และเพิ่มเนื้อสัมผัสที่ละมุนในทุกจิบ และทำให้หลังกลืนจะรู้สึกถึงความหอมของไม้โอ๊ค กลิ่นวานิลลาจางๆ และกลิ่นควันบางเบา รวมถึงมีความร้อนที่ปลายลิ้นเล็กน้อยแต่ชัดเจน
กลิ่น (Aroma) สำหรับกลิ่นของ JACK DANIELS Old No. 7 นั้นจะมีความหอมหวานที่เด่นชัดลอยขึ้นมาทันที เช่น กลิ่นวานิลลา คาราเมล และน้ำผึ้งจากถังไม้โอ๊คใหม่เผาด้านใน ตามมาด้วยกลิ่นเครื่องเทศอ่อนๆ เช่น อบเชย และลูกจันทน์เทศ อีกทั้งยังมีกลิ่นโน้ตของกล้วยสุก และผลไม้แห้งบางๆ ซึ่งเป็นผลมาจากการบ่ม และกรองผ่านถ่านไม้เมเปิ้ลที่ช่วยปรับความกลมกล่อมของกลิ่นได้อย่างลงตัว
ด้วยองค์ประกอบของรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของ JACK DANIELS Old No. 7 ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร และสะท้อนถึงกลิ่นอายของเทนเนสซีวิสกี้ได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ JACK DANIELS Old No. 7 เป็นอีกหนึ่งวิสกี้ที่เป็นที่นิยมของนักดื่มวิสกี้ทั่วโลก ดังนั้น ถ้าหากนักดื่มคนไหนอยากจะสัมผัสถึงความพรีเมียม และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ JACK DANIELS Old No. 7 ในราคาสบายกระเป๋า ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Celler BKK ที่มี JACK DANIELS Old No. 7 พร้อมส่งทันที ไม่ต้องรอพรีออเดอร์ ของแท้ 100% ราคาดีที่สุด จัดส่งไวให้ถึงหน้าบ้าน สั่งซื้อได้ที่ Line Official : @winecellar24 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับ JACK DANIELS Old No. 7 นั้นไม่ใช่แค่วิสกี้ธรรมดา แต่เป็นตัวแทนแห่งวัฒนธรรมอเมริกันที่ผสานความคลาสสิก และความประณีตไว้ในทุกหยด ดังนั้น ถ้าหากนักดื่มต้องการสัมผัส “ความวินเทจเฉพาะตัว” ของ JACK DANIELS Old No. 7 ได้อย่างชัดเจน ควรให้ความสำคัญกับการเสิร์ฟ การดื่ม การจับคู่อาหาร และการเก็บรักษา ซึ่งในแต่ละเทคนิคนั้นก็จะมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
วิธีการเสิร์ฟ ควรเสิร์ฟ JACK DANIELS Old No. 7 ในแก้ววิสกี้ประเภท short tumbler หรือ Glencairn เพื่อให้กลิ่น และรสชาติแสดงออกอย่างเต็มที่ ถ้าหากต้องการดื่มแบบ “วินเทจ” แนะนำให้ลองแบบ neat หรือแบบเพียวๆ ไม่ผสมน้ำแข็ง เพื่อรับรู้ความลึกของรสชาติจากการบ่ม แต่หากเป็นมือใหม่ ก็สามารถใส่น้ำแข็ง 1-2 ก้อน หรือเติมน้ำเปล่าเย็นเล็กน้อย ก็จะช่วยเปิดกลิ่นให้ชัดขึ้นโดยไม่ทำให้รสเจือจางมาก และยังดื่มง่ายมากขึ้นอีกด้วย
วิธีการดื่ม ควรทำการดื่ม JACK DANIELS Old No. 7 แบบช้าๆ ไม่ควรดื่มรวดเร็วเกินไป โดยให้ลองจิบเล็กๆ ทีละนิด และดมกลิ่นก่อน จากนั้นกลั้วเบาๆ ในปาก เพื่อให้ได้สัมผัสกับโน้ตรสทุกชั้น แล้วค่อยๆ กลืน เพื่อให้สัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน และทิ้งท้ายรายละเอียดต่างๆ ไว้ภายในปากอย่างยาวนาน
วิธีการจับคู่อาหาร สำหรับ JACK DANIELS Old No. 7 สามารถเข้ากันได้ดีกับอาหารที่มีรสเข้ม เช่น เนื้อย่าง บาร์บีคิว ซี่โครงรมควัน หรือสเต็กเนื้อวัวริบอาย เพราะว่ารสหวานจากวิสกี้จะช่วยตัดความเค็ม และไขมันได้อย่างสมดุล หรือจะเลือกดื่มคู่กับของทานเล่นก็ได้เช่นกัน รวมถึงเมนูที่มีส่วนประกอบของชีสเนื้อแข็ง เช่น เชดดาร์ชีส หรือของหวานอย่างบราวนี่ที่มีความเข้มข้น และพายแอปเปิ้ลก็เข้ากันได้ดี
วิธีการเก็บรักษา ควรเก็บรักษา JACK DANIELS Old No. 7 ไว้ในที่แห้ง อุณหภูมิคงที่ ไม่โดนแสงแดดโดยตรง วางขวดไว้ในแนวตั้งเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้แอลกอฮอล์สัมผัสกับฝาขวด ที่อาจทำให้กร่อน และเกิดการระเหยได้ และหลังเปิดขวดแล้วควรปิดให้สนิท และเก็บไว้ในแนวตั้งเช่นกัน และถ้าเปิดขวดแล้ว ควรดื่มให้หมดให้เร็วที่สุด เพื่อสัมผัสกับรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่ดีที่สุด
สำหรับนักดื่มที่กำลังอยากจะซื้อ JOHNNIE WALKER Blue Label ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Cellar BKK แหล่งนำเข้า และแหล่งจำหน่ายเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีบริการแอดมินให้คำแนะนำสินค้าอย่างมืออาชีพ อยากได้ไวน์ที่มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน หรืออยากได้เครื่องดื่มประเภทอื่นๆ อยากได้ยี่ห้อไหนเป็นพิเศษ มีงบประมาณเท่าไหร่ ซื้อดื่มเอง หรือซื้อเป็นของขวัญ ก็สามารถแจ้งแอดมินได้ เพื่อให้แอดมินแนะนำเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์กับความต้องการของนักดื่มมากที่สุด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้เลยที่
Website : www.winecellarbkk.com หรือ คลิก ที่นี่
โดยที่ Wine Cellar BKK มีเครื่องดื่มให้นักดื่มได้เลือกสรรกันหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นไวน์แดง ไวน์ขาว แชมเปญ สปาร์คกลิ้งไวน์ คอนญัก วิสกี้ หรือเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีให้เลือกซื้อกันอย่างครบครัน การันตีสินค้าทุกขวดเป็นของแท้ 100% ผ่านการคัดสรรเครื่องดื่มทุกขวดด้วยความใส่ใจ เพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่มีคุณภาพ และมาตรฐาน และการันตีว่าจำหน่ายในราคาดีที่สุดในตลาด เพื่อจำหน่ายเครื่องดื่มพรีเมียมในราคาสบายกระเป๋า และให้นักดื่มเข้าถึงเครื่องดื่มขวดโปรดได้ในราคาย่อมเยา มาพร้อมกับบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงหน้าบ้าน ที่มีให้นักดื่มได้เลือกใช้ทั้งบริการจัดส่งสินค้าด่วนภายในกทม. ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง และบริการจัดส่งสินค้าทั่วประเทศ ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 1-2 วัน สามารถสั่งซื้อเครื่องดื่มกับ Wine Cellar BKK ได้ง่ายๆ ทุกที่ ทุกเวลา แพ็คสินค้าทุกออเดอร์เป็นอย่างดี มีการรับประกันสินค้าระหว่างการจัดส่ง หากสินค้าได้รับความเสียหาย แตก หัก หรืออยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ที่เกิดจากการจัดส่ง ทางร้านยินดีเปลี่ยนเครื่องดื่มเป็นขวดใหม่ให้ทันที แบบไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อสร้างความประทับใจในการเลือกซื้อไวน์กับเราตลอดการบริการ
Thanks for subscribing!
This email has been registered!