Couldn't load pickup availability
- Free standard shipping on orders over 10,000 THB
You may return most new, unopened items within 30 days of delivery for a full refund. We'll also pay the return shipping costs if the return is a result of our error (you received an incorrect or defective item, etc.).
You should expect to receive your refund within four weeks of giving your package to the return shipper, however, in many cases you will receive a refund more quickly. This time period includes the transit time for us to receive your return from the shipper (5 to 10 business days), the time it takes us to process your return once we receive it (3 to 5 business days), and the time it takes your bank to process our refund request (5 to 10 business days).
If you need to return an item, simply login to your account, view the order using the "Complete Orders" link under the My Account menu and click the Return Item(s) button. We'll notify you via e-mail of your refund once we've received and processed the returned item.
เมื่อพูดถึงวิสกี้จากญี่ปุ่น หนึ่งในชื่อที่โดดเด่นที่สุดซึ่งได้รับการยอมรับจากทั่วโลก คงหนีไม่พ้น "HIBIKI" วิสกี้เบลนด์ระดับพรีเมียมที่ไม่ได้เป็นแค่เครื่องดื่มสำหรับนักดื่มเท่านั้น แต่ยังเป็นผลงานศิลป์ที่สะท้อนถึงวัฒนธรรม ความประณีต และจิตวิญญาณของชาวญี่ปุ่นด้วย
โดย HIBIKI หรือ ฮิบิกิ เป็นภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า “เสียงสะท้อน” หรือ “ความก้องกังวาน” ซึ่งสะท้อนถึงแนวคิดของแบรนด์ที่ต้องการให้วิสกี้ตัวนี้เป็นเสียงสะท้อนของความสมดุล และความกลมกลืน ทั้งในรสชาติ รสสัมผัส กลิ่น และการเชื่อมโยงกับธรรมชาติ และวัฒนธรรมของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ด้วยแนวคิดนี้ HIBIKI จึงไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพียงเพื่อให้ได้วิสกี้ระดับพรีเมียมเท่านั้น แต่ยังเปรียบเสมือน “บทกวีที่กลั่นจากธรรมชาติ” ที่มอบกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นในทุกแก้วที่ลิ้มลอง
ด้วยดีไซน์ขวดทรงกลมที่มี 24 เหลี่ยมซึ่งสื่อถึง 24 ฤดูกาลในปฏิทินโบราณของญี่ปุ่น รวมถึงฉลากที่ทำจากกระดาษวาชิแบบดั้งเดิม HIBIKI จึงโดดเด่นทั้งในด้านรสชาติ รสสัมผัส กลิ่น และงานออกแบบ และเป็นสัญลักษณ์ของการเคารพในศิลปะ ความอดทน และความสมดุล ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของชาวญี่ปุ่น
ดังนั้น ในบทความนี้ทาง Wine Cellar BKK จะพานักดื่มไปทำความรู้จักกับประวัติความเป็นมาของ HIBIKI ว่าถูกสร้างขึ้นมาอย่างไร ใครคือผู้อยู่เบื้องหลัง และทำไมแบรนด์นี้ถึงกลายเป็นหนึ่งในวิสกี้ที่คนทั่วโลกรู้จัก และยอมรับ พร้อมเผยจุดเปลี่ยนสำคัญที่ผลักดันให้ HIBIKI กลายเป็นไอคอนแห่งวงการวิสกี้พรีเมียมระดับโลก โดยจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้นสามารถติดตามกันได้เลย!
“HIBIKI” เป็นวิสกี้ประเภทเบลนด์ที่ผลิตโดยบริษัทซันโทรี่ (Suntory) หนึ่งในผู้บุกเบิกวงการวิสกี้ญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตสุราที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ก่อตั้งโดยชินจิโร่ โทริ ในปี 1899 และในปี 1923 ซันโทรี่ก็ได้สร้างโรงกลั่นแห่งแรกของญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Yamazaki Distillery ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรมวิสกี้ในประเทศญี่ปุ่นอย่างแท้จริง และ HIBIKI ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี 1989 เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 90 ปีของบริษัท Suntory ความตั้งใจของการผลิต HIBIKI ในตอนนั้น คือ การสร้างวิสกี้ที่สามารถ "กลั่นอารมณ์ และจิตวิญญาณของชาวญี่ปุ่น" ออกมาได้อย่างบริสุทธิ์ และสวยงาม
โดย HIBIKI เป็นการผสมผสานของวิสกี้จากโรงกลั่นหลักสามแห่งของซันโทรี่ ได้แก่ Yamazaki, Hakushu และ Chita โดยใช้ทั้งมอลต์วิสกี้ และเกรนวิสกี้ที่มีอายุการบ่มแตกต่างกัน บางรุ่นใช้วิสกี้ที่บ่มนานถึง 30 ปี เพื่อสร้างความลึกแ ละความซับซ้อนในรสชาติ ด้วยการผสมผสานที่พิถีพิถันโดยทีม Master Blender ที่มากด้วยประสบการณ์ ทำให้ HIBIKI มีความสมดุล กลมกล่อม และกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งดีไซน์ของขวด HIBIKI ก็มีความหมายลึกซึ้ง นั่นก็คือขวดมี 24 เหลี่ยมแทน 24 ฤดูกาลของญี่ปุ่นตามปฏิทินโบราณ แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของธรรมชาติ และการเคารพต่อเวลาในการบ่มวิสกี้อย่างอดทน และฉลากบนขวดใช้กระดาษวาชิแบบดั้งเดิม ซึ่งสะท้อนถึงความละเอียดละออ และงานฝีมือแบบญี่ปุ่นแท้ๆ
และจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่ทำให้ HIBIKI เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น คือ หลังจากได้รับรางวัลระดับนานาชาติหลายรายการ โดยเฉพาะ HIBIKI 21 Years Old ที่ได้รับรางวัล World’s Best Blended Whisky จากเวที World Whiskies Awards หลายปีซ้อน ซึ่งนับเป็นการประกาศให้โลกได้รู้ว่า ญี่ปุ่นไม่ได้เป็นเพียงผู้ผลิตวิสกี้ธรรมดา แต่สามารถยืนเคียงข้างผู้ผลิตระดับโลกจากสก็อตแลนด์ และไอร์แลนด์ได้อย่างเต็มภาคภูมิ และอีกจุดเปลี่ยนสำคัญ คือ การปรากฏตัวของ HIBIKI ในภาพยนตร์ระดับโลกอย่าง Lost in Translation (2003) ที่พระเอกอย่าง Bill Murray ได้ปรากฏตัวพร้อมแก้ว HIBIKI พร้อมกับประโยคในตำนานว่า “For relaxing times, make it Suntory time” กลายเป็นการตลาดทางอ้อมที่ทรงพลัง และทำให้แบรนด์ HIBIKI เป็นที่จดจำในวงกว้างยิ่งขึ้น
ดังนั้น HIBIKI จึงไม่ได้เป็นแค่วิสกี้เบลนด์ธรรมดา แต่เป็นผลงานศิลปะที่สะท้อนความเป็นญี่ปุ่นในทุกแง่มุม ตั้งแต่การออกแบบบรรจุภัณฑ์ รสชาติ กลิ่น และจิตวิญญาณของผู้ผลิต และทำให้วิสกี้ตัวนี้เหมาะสำหรับนักดื่มที่ให้คุณค่ากับความพิถีพิถัน ความสมดุล และความเป็นเอกลักษณ์อย่างแท้จริง และไม่ว่าจะเป็นนักสะสม หรือนักดื่มตัวจริง HIBIKI คือ หนึ่งในวิสกี้ที่ควรลิ้มลองให้ได้สักครั้งในชีวิต
สำหรับ HIBIKI เป็นวิสกี้แบรนด์พรีเมียมของญี่ปุ่นที่โดดเด่นด้วยการเป็นเบลนด์มอลต์ และเกรนวิสกี้ผสมผสานอย่างประณีต โดยกระบวนการผลิต HIBIKI นั้นผสมผสานเทคนิคดั้งเดิมของวิสกี้สก็อตแลนด์เข้ากับความละเอียดอ่อน และความพิถีพิถันแบบญี่ปุ่น ซึ่งทำให้ HIBIKI มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และกระบวนการผลิตของ HIBIKI ในแต่ละขั้นตอนนั้นมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
การเลือกวัตถุดิบคุณภาพสูง สำหรับวัตถุดิบสำคัญที่สุดของการผลิต HIBIKI คือ ข้าวบาร์เลย์มอลต์ และข้าวเกรนที่ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน รวมถึงน้ำบริสุทธิ์ที่มาจากธรรมชาติในญี่ปุ่น ซึ่งมีความนุ่ม และสะอาดสูง และน้ำนี้ช่วยสร้างความละเอียดอ่อน และกลมกล่อมให้กับวิสกี้ HIBIKI ให้ไม่เหมือนใคร
การผลิตมอลต์ และเกรนวิสกี้แยกกัน สำหรับการผลิต HIBIKI นั้นจะใช้การกลั่นทั้งมอลต์วิสกี้ในหม้อทองแดงแบบดั้งเดิม และเกรนวิสกี้ในหม้อกลั่นแบบคอลัมน์ ซึ่งเป็นเทคนิคที่ต้องใช้ความชำนาญสูง เพื่อให้ได้ส่วนผสมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และการกลั่นแยกนี้จะช่วยให้ HIBIKI มีความลึกซึ้งในรสชาติ และมิติที่หลากหลาย
การบ่มในถังไม้หลากหลายประเภท สำหรับ HIBIKI เป็นที่รู้จักในเรื่องการใช้ถังบ่มหลายชนิด เช่น ถังโอ๊กอเมริกัน ถังเชอร์รีจากยุโรป และถังไม้ญี่ปุ่นมิซึนา ที่มีผลทำให้วิสกี้มีรสชาติที่ซับซ้อน และมีมิติ และการบ่มในถังไม้ญี่ปุ่นก็จะช่วยเพิ่มกลิ่นอายวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าหลงใหล
การผสมผสาน เป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดในการผลิต HIBIKI โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการผสมผสาน หรือ “Master Blender” ที่ทำหน้าที่เลือก และผสมวิสกี้มอลต์ และเกรนจากถังต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างประณีต เพื่อให้ได้รสชาติที่สมดุล กลมกล่อม และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
การพักให้รสชาติสมานกลมกล่อม หลังจากผสมแล้ว วิสกี้จะถูกเก็บพักในถังไม้โอ๊กขนาดเล็กในช่วงเวลาหนึ่ง เพื่อให้รสชาติจากแต่ละส่วนผสมได้รวมกันอย่างกลมกลืน และสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และกระบวนการนี้ช่วยให้ HIBIKI มีความซับซ้อน และเนียนนุ่มขึ้น
การตรวจสอบคุณภาพ ก่อนทำการบรรจุทุกขวด HIBIKI จะผ่านกระบวนการตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียด โดยทีมผู้เชี่ยวชาญจะทดสอบกลิ่น รส และความสมดุล เพื่อให้มั่นใจว่าวิสกี้ที่ผลิตทุกขวดมีมาตรฐานสูงสุด และเป็นไปตามภาพลักษณ์แบรนด์
การบรรจุ และการออกแบบ หลังผ่านการตรวจสอบคุณภาพแล้ว HIBIKI จะถูกบรรจุลงในขวดแก้วดีไซน์พิเศษที่มีรูปแบบสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น เพื่อเน้นถึงความพิถีพิถัน และความงดงามแบบญี่ปุ่น ทั้งนี้บรรจุภัณฑ์ยังออกแบบมาเพื่อรักษาคุณภาพของวิสกี้ให้ยาวนานด้วย
ดังนั้น กระบวนการผลิตของ HIBIKI ในแต่ละขั้นตอนทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความตั้งใจ ความพิถีพิถัน และความประณีตในทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้ HIBIKI ที่เป็นวิสกี้ญี่ปุ่นที่มีความพรีเมียม สมบูรณ์แบบ และน่าประทับใจในทุกหยด
สำหรับ HIBIKI มีชื่อเสียงด้านความซับซ้อนของรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่ละเอียดอ่อน โดยสามารถบอกเล่าเรื่องราวของธรรมชาติ วัฒนธรรม และความตั้งใจในกรรมวิธีผลิตสู่ทุกสัมผัสที่นักดื่มได้จิบ ทำให้เวลาดื่มนั้นนักดื่มจะสามารถสัมผัส HIBIKI ที่มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่มีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
กลิ่น (Aroma) สำหรับกลิ่นของ HIBIKI นั้นจะเปิดตัวด้วยโน้ตของดอกไม้ และผลไม้หลากหลายชนิด เช่น ลูกพีช ลูกแพร์ และส้มแมนดาริน ผสมผสานเข้ากันกับกลิ่นน้ำผึ้ง และวานิลลาที่หวานละมุน นอกจากนี้ยังมีกลิ่นเครื่องเทศอ่อนๆ ของอบเชย และลูกจันทน์เทศที่เพิ่มความอบอุ่น และมีความหอมของกลิ่นไม้โอ๊กญี่ปุ่นจากการบ่มถังไม้มิซึนาเพิ่มความหอมกรุ่นแบบธรรมชาติ และสมดุล
รสชาติ (Flavor) สำหรับรสชาติของ HIBIKI นั้นจะเริ่มด้วยรสหวานของน้ำผึ้ง ผลไม้สด เช่น แอปเปิ้ลเขียว และลูกแพร์ ตามด้วยความหอมของถั่วคั่ว และเครื่องเทศต่างๆ เช่น อบเชย และเมล็ดพริกไทยบางๆ ที่มีความซับซ้อน แต่ไม่หนักจนเกินไป กลมกล่อม และสมดุลเป็นอย่างมาก
รสสัมผัส (Mouthfeel) สำหรับรสสัมผัสของ HIBIKI นั้นจะมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มนวล ละมุน และค่อนข้างเบา แต่ไม่บางจนเกินไป ทำให้ดื่มง่าย และลื่นไหลง และเนื้อสัมผัสนี้ทำให้วิสกี้เหมาะกับการดื่มทั้งแบบเพียว หรือผสมในค็อกเทลพรีเมียม อีกทั้งยังมีความนุ่มนวล และความอบอุ่นที่ยาวนาน มีความหวานของวานิลลาแ ละกลิ่นไม้โอ๊กญี่ปุ่นที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว
ด้วยองค์ประกอบของรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของ HIBIKI ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร และสะท้อนถึงกลิ่นอายของวิสกี้จากญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ HIBIKI เป็นอีกหนึ่งวิสกี้ที่เป็นที่นิยมของนักดื่มวิสกี้ทั่วโลก ดังนั้น ถ้าหากนักดื่มคนไหนอยากจะสัมผัสถึงความพรีเมียม และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ HIBIKI ในราคาสบายกระเป๋า ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Celler BKK ที่มี HIBIKI พร้อมส่งทันที ไม่ต้องรอพรีออเดอร์ ของแท้ 100% ราคาดีที่สุด จัดส่งไวให้ถึงหน้าบ้าน สั่งซื้อได้ที่ Line Official : @winecellar24 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ถ้าหากนักดื่มอยากจะสัมผัสถึงเอกลักษณ์ของวิสกี้ญี่ปุ่นอย่าง HIBIKI ได้อย่างชัดเจนในทุกสัมผัส ควรให้ความสำคัญกับวิธีการเสิร์ฟ การดื่ม การจับคู่อาหาร และการเก็บรักษา เพราะว่าในแต่ละวิธีนั้นสามารถส่งผลให้ต่อรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของ HIBIKI ได้ ซึ่งในแต่ละวิธีที่นักดื่มสามารถทำตามได้ง่ายๆ นั้นก็จะมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
วิธีการเสิร์ฟ ควรทำการเสิร์ฟ HIBIKI ให้เหมาะสมจะช่วยเปิดเผยรสชาติ และกลิ่นที่ซับซ้อนได้อย่างเต็มที่ โดยทั่วไปมักนิยมเสิร์ฟแบบ Neat หรือแบบเพียว ในแก้วทรงทัมเบลอร์ หรือ Glencairn glass เพื่อดึงกลิ่นออกมาอย่างชัดเจน แต่หากต้องการลดความแรงเล็กน้อยสามารถเติมน้ำเย็นบริสุทธิ์เพียงเล็กน้อยได้เช่นกัน หรือจะเสิร์ฟแบบ “Mizuwari” ซึ่งเป็นสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ โดยผสม HIBIKI กับน้ำเย็นในอัตราส่วนประมาณ 1:2 พร้อมน้ำแข็ง ก็เป็นอีกวิธีการดื่มที่นักดื่มควรลองสักครั้ง
วิธีการดื่ม ควรทำการดื่ม HIBIKI ที่ควรเริ่มจากการดมกลิ่นก่อน เพื่อให้สัมผัสโน้ตกลิ่นผลไม้หวาน ไม้โอ๊ก และกลิ่นหอมจากดอกไม้ที่ซับซ้อน แล้วค่อยๆ จิบทีละเล็กน้อย เพื่อให้รสสัมผัสในปากค่อยๆ เปิดเผย ความนุ่มนวลจะไหลผ่านลิ้นไปพร้อมกลิ่นวานิลลา น้ำผึ้ง และแอปเปิ้ลแดง เคล้าไม้ซีดาร์จากถังโอ๊กญี่ปุ่น และถ้าหากต้องการสัมผัสลึกขึ้น แนะนำให้ค่อยๆ ดื่มเป็นชั้นๆ เพื่อให้ได้ประสบการณ์ที่หลากหลาย และน่าจดจำ
วิธีการจับคู่อาหาร สำหรับ HIBIKI นั้นเหมาะกับการจับคู่กับอาหารญี่ปุ่นประเภทปลา หรืออาหารทะเล เช่น ซาชิมิ แซลมอนย่าง หรือซุปปลาใส ที่รสไม่จัดจ้านจนเกินไป และยังเข้ากันได้ดีกับอาหารฝรั่งเศสเบาๆ เช่น เนื้อไก่ตุ๋น ซุปหัวหอม หรือชีสชนิดนุ่ม เช่น บรี หรือคาเมมเบิร์ต รวมถึงของหวาน เช่น พายแอปเปิ้ล หรือช็อกโกแลตนม ที่ช่วยส่งเสริมความหวานจากกลิ่นไม้ และวานิลลาของ HIBIKI ให้โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วย
วิธีการเก็บรักษา ควรทำการเก็บ HIBIKI ในที่แห้ง อุณหภูมิคงที่ หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง และควรวางขวดในแนวตั้งตลอดเวลา ไม่ควรนอนขวด เพราะแอลกอฮอล์อาจกัดฝาจุก ทำให้รสชาติเปลี่ยนไป และเกิดการระเหยได้ และถ้าหากเปิดขวดแล้วควรปิดฝาให้สนิท เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศเข้าไปทำปฏิกิริยากับเหล้าเร็วเกินไป ซึ่งจะลดความหอม และความซับซ้อนของรสชาติในระยะยาว
สำหรับนักดื่มที่กำลังอยากจะซื้อ HIBIKI ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Cellar BKK แหล่งนำเข้า และแหล่งจำหน่ายเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีบริการแอดมินให้คำแนะนำสินค้าอย่างมืออาชีพ อยากได้ไวน์ที่มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน หรืออยากได้เครื่องดื่มประเภทอื่นๆ อยากได้ยี่ห้อไหนเป็นพิเศษ มีงบประมาณเท่าไหร่ ซื้อดื่มเอง หรือซื้อเป็นของขวัญ ก็สามารถแจ้งแอดมินได้ เพื่อให้แอดมินแนะนำเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์กับความต้องการของนักดื่มมากที่สุด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้เลยที่
Website : www.winecellarbkk.com หรือ คลิก ที่นี่
โดยที่ Wine Cellar BKK มีเครื่องดื่มให้นักดื่มได้เลือกสรรกันหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นไวน์แดง ไวน์ขาว แชมเปญ สปาร์คกลิ้งไวน์ คอนญัก วิสกี้ หรือเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีให้เลือกซื้อกันอย่างครบครัน การันตีสินค้าทุกขวดเป็นของแท้ 100% ผ่านการคัดสรรเครื่องดื่มทุกขวดด้วยความใส่ใจ เพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่มีคุณภาพ และมาตรฐาน และการันตีว่าจำหน่ายในราคาดีที่สุดในตลาด เพื่อจำหน่ายเครื่องดื่มพรีเมียมในราคาสบายกระเป๋า และให้นักดื่มเข้าถึงเครื่องดื่มขวดโปรดได้ในราคาย่อมเยา มาพร้อมกับบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงหน้าบ้าน ที่มีให้นักดื่มได้เลือกใช้ทั้งบริการจัดส่งสินค้าด่วนภายในกทม. ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง และบริการจัดส่งสินค้าทั่วประเทศ ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 1-2 วัน สามารถสั่งซื้อเครื่องดื่มกับ Wine Cellar BKK ได้ง่ายๆ ทุกที่ ทุกเวลา แพ็คสินค้าทุกออเดอร์เป็นอย่างดี มีการรับประกันสินค้าระหว่างการจัดส่ง หากสินค้าได้รับความเสียหาย แตก หัก หรืออยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ที่เกิดจากการจัดส่ง ทางร้านยินดีเปลี่ยนเครื่องดื่มเป็นขวดใหม่ให้ทันที แบบไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อสร้างความประทับใจในการเลือกซื้อไวน์กับเราตลอดการบริการ
Thanks for subscribing!
This email has been registered!