Couldn't load pickup availability
- Free standard shipping on orders over 10,000 THB
You may return most new, unopened items within 30 days of delivery for a full refund. We'll also pay the return shipping costs if the return is a result of our error (you received an incorrect or defective item, etc.).
You should expect to receive your refund within four weeks of giving your package to the return shipper, however, in many cases you will receive a refund more quickly. This time period includes the transit time for us to receive your return from the shipper (5 to 10 business days), the time it takes us to process your return once we receive it (3 to 5 business days), and the time it takes your bank to process our refund request (5 to 10 business days).
If you need to return an item, simply login to your account, view the order using the "Complete Orders" link under the My Account menu and click the Return Item(s) button. We'll notify you via e-mail of your refund once we've received and processed the returned item.
“Hennessy XO” คือ คอนญักระดับพรีเมียมที่มีชื่อเสียงระดับโลก และถือเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา ความลุ่มลึก และศิลปะแห่งการบ่มสุราอย่างแท้จริง โดย XO ย่อมาจาก “Extra Old” ซึ่งหมายถึงคอนญักที่ผสมจาก eaux-de-vie ที่ผ่านการบ่มในถังไม้โอ๊กฝรั่งเศสเป็นเวลานานอย่างน้อย 10 ปีขึ้นไป และ Hennessy XO คือ ผู้ริเริ่มนิยามของคำว่า XO ในวงการคอนญักเป็นครั้งแรก และได้สร้างมาตรฐานอันเข้มข้นของเครื่องดื่มประเภทนี้มาจนถึงปัจจุบัน
โดย Hennessy XO ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1870 จากการรังสรรค์ของ Maurice Hennessy ผู้เป็นทายาทรุ่นที่ 4 ของตระกูล Hennessy โดยเขาต้องการสร้างคอนญักที่เข้มข้น และลุ่มลึกยิ่งขึ้น เพื่อดื่มในหมู่ครอบครัว และเพื่อนสนิท ต่อมาคอนญักสูตรนี้ได้รับความนิยมแพร่หลาย และกลายเป็นผลิตภัณฑ์สำคัญของแบรนด์ Hennessy ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกในด้านคุณภาพ รสชาติ และกลิ่นหอมที่มีมิติ
ด้วยความที่ Hennessy XO มีความโดดเด่นด้วยกลิ่นผลไม้แห้ง วานิลลา เครื่องเทศ และไม้โอ๊กที่ผสานกันอย่างซับซ้อน เป็นคอนญักที่ให้สัมผัสลึกซึ้งทั้งในรสชาติ และอารมณ์ เหมาะสำหรับนักดื่มที่ต้องการค้นหารสชาติใหม่ๆ ที่ไม่ซ้ำซาก และชื่นชอบการลิ้มรสที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ดังนั้น ในบทความนี้ทาง Wine Cellar BKK จะพานักดื่มมาทำความรู้จักกับ Hennessy XO ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา กระบวนการผลิต รสชาติ รสสัมผัส และกลิ่น รวมถึงการดื่มอย่างถูกวิธี และคำแนะนำในการจับคู่อาหาร และการเก็บรักษา เพื่อให้นักดื่มสามารถเข้าถึงประสบการณ์แห่ง “Extra Old Cognac” ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด
แบรนด์ Hennessy ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1765 โดย Richard Hennessy อดีตทหารชาวไอริชที่ตั้งถิ่นฐานในเมือง Cognac ประเทศฝรั่งเศส โดยเขาสร้างโรงกลั่นคอนญักที่กลายเป็นรากฐานของหนึ่งในแบรนด์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก ซึ่งในเวลาต่อมา ได้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทภายใต้เครือ LVMH (Moët Hennessy Louis Vuitton) กลุ่มธุรกิจหรูระดับโลก
โดยในปี 1870 Maurice Hennessy หลานชายรุ่นที่ 4 ของผู้ก่อตั้ง ได้คิดค้นสูตรคอนญักใหม่ขึ้น เพื่อดื่มเฉพาะในหมู่ญาติ และคนใกล้ชิด ซึ่งเขาได้ตั้งชื่อว่า “Extra Old” (XO) โดยมีความตั้งใจจะเน้นที่คอนญักที่ผ่านการบ่มยาวนานกว่าคอนญักปกติ มีความเข้มข้น และมีกลิ่นรสที่ซับซ้อนมากขึ้น จนในที่สุด XO ก็ได้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ในวงการคอนญัก และคำว่า “XO” ก็ถูกนำมาใช้เป็นระดับของอายุคอนญักที่เรารู้จักกันทุกวันนี้
ซึ่งจุดเด่นของ Hennessy XO อยู่ตรงที่การเลือกสรร eaux-de-vie อย่างพิถีพิถัน ซึ่ง Hennessy XO ถูกผสมจาก eaux-de-vie มากกว่า 100 ชนิด โดยแต่ละชนิดมีอายุการบ่มเฉลี่ยระหว่าง 10 – 30 ปี ทำให้ได้รสชาติที่ลุ่มลึก และกลมกล่อมในแบบที่ไม่เหมือนใคร ทำให้มีรสชาติ และกลิ่นหอมซับซ้อน ด้วยเลเยอร์ของรสชาติที่ซ้อนทับกันอย่างประณีต ตั้งแต่กลิ่นผลไม้แห้ง วานิลลา อบเชย กานพลู ไปจนถึงเครื่องเทศ และไม้โอ๊ก มีความบาลานซ์ระหว่างความหวาน และความขมเล็กน้อยอย่างมีชั้นเชิง อีกทั้งขวดของ Hennessy XO ยังได้รับการออกแบบใหม่ในปี 1947 โดย Gérald de Geoffre ด้วยแรงบันดาลใจจากทรงองุ่น สื่อถึงต้นกำเนิดของคอนญัก ถือเป็นดีไซน์ที่เป็นไอคอนิกในโลกของเครื่องดื่ม
และจุดเปลี่ยนสำคัญของ Hennessy XO นั้นอยู่ตรงที่การสร้างคำว่า XO เพราะการคิดค้นคำว่า Extra Old ในปี 1870 เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุด เพราะไม่เพียงแต่ยกระดับมาตรฐานของ Hennessy เท่านั้น แต่ยังสร้างหมวดหมู่ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมคอนญักทั้งหมด อีกทั้งการเข้าสู่ตลาดระดับโลกตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา ที่ทำให้ Hennessy XO ได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดสากล ทั้งในยุโรป อเมริกา และเอเชีย รวมถึงการผนวกกับ LVMH ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ที่ Hennessy ได้ผนวกกับกลุ่ม LVMH ทำให้มีทรัพยากรในการสร้างแบรนด์ระดับโลก และรักษามาตรฐานการผลิตที่เป็นเลิศไว้ได้จนถึงปัจจุบัน
สำหรับ Hennessy XO ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ธรรมดา แต่เป็นผลงานศิลปะจากการสืบทอดภูมิปัญญา และเทคนิคการกลั่นจากรุ่นสู่รุ่นมายาวนานกว่า 250 ปี การผลิต Hennessy XO ต้องใช้วัตถุดิบชั้นดี ทักษะระดับสูง และเวลาอันยาวนาน ทำให้ในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการผลิต Hennessy XO นันมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
การเลือกพันธุ์องุ่น สำหรับทุกหยดของ Hennessy XO เริ่มต้นจากการคัดเลือกองุ่นพันธุ์ Ugni Blanc ซึ่งปลูกในแคว้น Cognac ประเทศฝรั่งเศส Ugni Blanc เป็นพันธุ์ที่ให้รสเปรี้ยวอ่อนๆ มีกรดสูง เหมาะสำหรับการนำมาหมัก และกลั่นเป็น eaux-de-vie โดยองุ่นจะถูกเก็บเกี่ยวในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และต้องเป็นองุ่นสดที่ไม่มีสารตกค้าง หรือโรคพืชเท่านั้น
การหมักไวน์ หลังจากเก็บเกี่ยวแล้ว องุ่นจะถูกนำมาคั้นน้ำ และหมักในถังสเตนเลสโดยไม่เติมน้ำตาล หรือสารแต่งเติมใดๆ และจะใช้เวลาในการหมักประมาณ 5-7 วัน ซึ่งจะได้ไวน์ขาวที่มีแอลกอฮอล์ประมาณ 7–9% และคงความเป็นธรรมชาติที่สุด และกระบวนการนี้ต้องควบคุมอุณหภูมิอย่างเข้มงวด เพื่อรักษาคุณภาพ และกลิ่นหอมของผลไม้
การกลั่นสองครั้ง สำหรับไวน์ขาวที่ได้นั้นจะถูกนำไปกลั่นด้วยหม้อทองแดงแบบ Pot Still ซึ่งเป็นวิธีการกลั่นแบบดั้งเดิมของคอนญัก การกลั่นจะทำถึงสองรอบ โดยครั้งแรกจะได้ของเหลวชื่อว่า “brouillis” ที่มีแอลกอฮอล์ประมาณ 28–30% และครั้งที่สองจะทำการกลั่น brouillis เพื่อแยกหัว และหางออก เหลือเฉพาะ "หัวใจ" หรือ heart of distillate ซึ่งเป็นส่วนที่ดีที่สุด ใช้สำหรับบ่มเป็น eaux-de-vie และกระบวนการกลั่นนี้ใช้เวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมงต่อรอบ และต้องอาศัยประสบการณ์ของ Master Distiller เพื่อคัดเฉพาะของเหลวคุณภาพเยี่ยมด้วย
การคัดเลือก Eaux-de-Vie สำหรับ Hennessy XO นั้นจะใช้ eaux-de-vie มากกว่า 100 ชนิด ที่ผ่านการกลั่นอย่างพิถีพิถัน โดย Master Blender ของ Hennessy จะคัดเฉพาะ eaux-de-vie ที่มีกลิ่น รส และศักยภาพในการบ่มสูง ซึ่งต้องผ่านการชิมหลายครั้ง เพื่อประเมินความซับซ้อน ความลึก และความสามารถในการพัฒนาในถังไม้โอ๊กในระยะยาว
การบ่มในถังไม้โอ๊ก สำหรับ eaux-de-vie แต่ละชนิดจะถูกบ่มในถังไม้โอ๊กฝรั่งเศสจากป่า Limousin ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษในการปล่อยกลิ่นวานิลลา แทนนิน และความอบอุ่นของไม้ ถังเหล่านี้จะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยประมาณ 40–80 ปี โดยการบ่มจะใช้ระยะเวลาตั้งแต่ 10 ปีไปจนถึง 30 ปี หรือมากกว่า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของสูตรผสม Hennessy XO และการจัดวางถังในห้องใต้ดินต้องควบคุมความชื้น และอุณหภูมิ เพื่อให้การพัฒนาเกิดขึ้นอย่างสมดุล และไม่เร็วเกินไป
การผสม เป็นขั้นตอนที่เป็นหัวใจของ Hennessy XO โดยจะทำการผสม eaux-de-vie ซึ่งดำเนินการโดย Master Blender ที่สืบทอดความรู้จากรุ่นสู่รุ่น ปัจจุบันผู้ดำรงตำแหน่ง คือ Renaud Fillioux de Gironde รุ่นที่ 8 ของตระกูล Fillioux ที่ดูแลการผสมคอนญักให้กับ Hennessy มาตั้งแต่ปี 1806 และการผสมต้องพิจารณาความกลมกล่อม รสชาติที่มีชั้นเชิง และความลึกซึ้งที่เป็นเอกลักษณ์ของ Hennessy XO และจะทำการชิม eaux-de-vie กว่าร้อยชนิด เพื่อสร้างสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบที่สุด
การบรรจุขวด และบรรจุภัณฑ์ เมื่อได้ส่วนผสมที่สมบูรณ์แล้ว ขั้นตอนสุดท้าย คือ การบรรจุลงในขวดทรงสัญลักษณ์ของ Hennessy XO ซึ่งออกแบบในปี 1947 โดยมีรูปทรงคล้ายพวงองุ่นอันเป็นต้นกำเนิดของคอนญักทุกหยด และทุกขวดจะถูกบรรจุอย่างประณีต ผ่านการตรวจสอบคุณภาพทุกขั้นตอนก่อนส่งออกไปยังผู้บริโภคทั่วโลก
ดังนั้น การผลิต Hennessy XO เป็นกระบวนการที่ผสมผสานระหว่างศาสตร์และศิลป์ ทุกขั้นตอนตั้งแต่การเลือกองุ่น การกลั่น การบ่ม ไปจนถึงการผสมและบรรจุ ล้วนต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ และความเข้าใจในรสชาติอย่างลึกซึ้ง จึงไม่แปลกที่ Hennessy XO จะกลายเป็นคอนญักระดับตำนาน ที่ให้ประสบการณ์การดื่มที่ลึกซึ้ง และไม่เหมือนใคร
สำหรับ Hennessy XO เป็นคอนญักระดับ "Extra Old" ที่ผ่านการบ่มยาวนาน และพิถีพิถันที่สุดชนิดหนึ่งในโลก ส่งผลให้เป็นเครื่องดื่มที่สามารถถ่ายทอดประสบการณ์ในการดื่มสุดพิเศษที่ไม่เหมือนใครได้เป็นอย่างดี และเวลาที่นักดื่มดื่มนั้นจะสามารถสัมผัสได้ถึงรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่มีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
รสชาติ (Flavor) สำหรับรสชาติของ Hennessy XO มีความหลากหลาย และลุ่มลึก โดยเริ่มต้นด้วยรสชาติของผลไม้แห้ง เช่น ลูกพรุน ลูกฟิก อินทผลัม และลูกเกด ผสมผสานกับความหวานนวลของวานิลลา น้ำผึ้ง และช็อกโกแลต ตามด้วยรสของอบเชย กานพลู และปลือกส้ม ปิดท้ายด้วยเครื่องเทศที่ปลายลิ้นอย่างพริกไทยดำ และไม้โอ๊ก เป็นต้น
รสสัมผัส (Mouthfeel) สำหรับรสสัมผัสของ Hennessy XO นั้นจะมีรสสัมผัสที่หนัก และหนาแน่น แต่ยังคงความนุ่มละมุน ดื่มง่าย เพราะว่าเป็นคอนญักที่มาในรูปแบบ Full Body ที่ให้ความรู้สึกหนักแน่นในปาก แต่ในขณะเดียวกันก็มีความนุ่มลึก ไม่บาดคอ และรสสัมผัสเมื่อกลืนลงไปจะรู้สึกถึงความอบอุ่นแผ่กระจายอย่างช้าๆ ไปทั่วลำคอ และอก เป็นอาการที่เรียกในหมู่นักดื่มว่า "long warming finish" หรือ "ความร้อนยาวที่นุ่มนวล" ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคอนญักเกรด XO หรือสูงกว่าเท่านั้น
กลิ่น (Aroma) สำหรับกลิ่นของ Hennessy XO นั้นจะเริ่มต้นด้วยโน้ตของผลไม้แห้งอย่างลูกพรุน แอปริคอตแห้ง และลูกฟิก จากนั้นตามมาด้วยกลิ่นวานิลลา ถั่วอัลมอนด์คั่ว ชะเอมเทศ และกลิ่นไม้โอ๊ก ที่แสดงถึงการบ่มในถังไม้เป็นระยะเวลานาน และเมื่อดื่มไปสักพักจะสัมผัสได้ถึงความเข้มข้นของดาร์คช็อกโกแลต เอสเพรสโซ คาราเมลไหม้ และเครื่องเทศ เช่น อบเชย กานพลู และจันทน์เทศ เป็นต้น
ด้วยองค์ประกอบของรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของ Hennessy XO ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร และสะท้อนถึงกลิ่นอายของคอนญักพรีเมียมได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ Hennessy XO เป็นอีกหนึ่งคอนญักที่เป็นที่นิยมของนักดื่มคอนญักทั่วโลก ดังนั้น ถ้าหากนักดื่มคนไหนอยากจะสัมผัสถึงความพรีเมียม และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Hennessy XO ในราคาสบายกระเป๋า ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Celler BKK ที่มี Hennessy XO พร้อมส่งทันที ไม่ต้องรอพรีออเดอร์ ของแท้ 100% ราคาดีที่สุด จัดส่งไวให้ถึงหน้าบ้าน สั่งซื้อได้ที่ Line Official : @winecellar24 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ถ้าหากนักดื่มอยากจะสัมผัส Hennessy XO ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ควรเข้าใจ และเลือกวิธีการเสิร์ฟ การดื่ม การจับคู่อาหาร และการเก็บรักษาอย่างถูกต้อง เพราะว่าในแต่ละวิธีนั้นสามารถส่งผลต่อรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของ Hennessy XO ได้โดยตรง ซึ่งแต่ละวิธีที่นักดื่มสามารถทำตามได้ง่ายๆ นั้นก็จะมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
วิธีการเสิร์ฟ ควรทำการเสิร์ฟ Hennessy XO ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 20-22 องศาเซลเซียส เพื่อให้กลิ่น และรสชาติถูกปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ รวมถึงควรเลือกใช้แก้วที่เหมาะสม เช่น แก้ว tulip หรือแก้ว balloon จะช่วยรวมกลิ่นให้เข้มข้น และนำกลิ่นสู่จมูกได้ชัดเจน และไม่แนะนำให้เติมน้ำแข็ง หากต้องการทำให้เย็นเล็กน้อย ควรใช้หินแช่เย็น หรือวางขวดในถังน้ำแข็งประมาณ 5-10 นาที แทนการแช่เย็น หรือแช่แข็งโดยตรง เพราะอาจทำลายกลิ่น และรสได้
วิธีการดื่ม ควรทำการดื่ม Hennessy XO แบบ Sipping หรือ Slowly Enjoying หรือการนั่งจิบช้าๆ และให้เวลาสัมผัสทุกชั้นของรสชาติ แนะนำให้ดื่มเป็นช็อตเล็กๆ และถือแก้วให้อุณหภูมิจากมือช่วยเพิ่มกลิ่นหอม แล้วสูดกลิ่นเบาๆ ก่อนดื่ม และเมื่อดื่มควรกลั้วเบาๆ ทั่วปาก เพื่อให้รสกระจายไปยังทุกส่วนของลิ้น แล้วกลืนช้าๆ เพื่อสัมผัส finish ที่นุ่มลึก
วิธีการจับคู่อาหาร ควรทำการจับคู่ Hennessy XO กับเมนูที่มีรสเข้ม กลิ่นแรง และมีความกลมกล่อม เช่น เมนูเนื้อวากิว หรือเป็ดรมควัน เพราะเนื้อที่มีไขมัน และรสชาติเข้มจะช่วยดึงรสสัมผัสของ XO ออกมาได้ดี หรือเมนูของหวานต่างๆ เช่น ดาร์คช็อคโกแลต ทาร์ตผลไม้ หรือเครมบรูเลว์ ที่กลิ่นวานิลลา และคาราเมลของ Hennessy XO จะกลมกลืนระหว่างความหวาน และกลิ่นวานิลลาได้อย่างลงตัว
วิธีการเก็บรักษา ควรทำการเก็บรักษา Hennessy XO ไว้ในที่มืด แห้ง และเย็น มีอุณหภูมิคงที่ประมาณไม่เกิน 25 องศาเซลเซียส หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง และความชื้น วางขวดไว้ในแนวตั้งเสมอ เพื่อป้องกันไม่ฝาขวดถูกแอลกอฮอล์กัดกร่อน และเมื่อเปิดขวดแล้ว ควรปิดฝาให้แน่นทุกครั้ง เพื่อป้องกันการระเหยของแอลกอฮอล์ และกลิ่น และถ้าหากเปิดไว้เกิน 6-12 เดือน โดยไม่ได้ดื่ม อาจมีการเปลี่ยนแปลงของกลิ่น และรสชาติเล็กน้อย ควรดื่มให้หมดภายใน 1 ปีหลังเปิด เพื่อรสชาติที่ดีที่สุด
สำหรับนักดื่มที่กำลังอยากจะซื้อ Hennessy XO ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Cellar BKK แหล่งนำเข้า และแหล่งจำหน่ายเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีบริการแอดมินให้คำแนะนำสินค้าอย่างมืออาชีพ อยากได้ไวน์ที่มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน หรืออยากได้เครื่องดื่มประเภทอื่นๆ อยากได้ยี่ห้อไหนเป็นพิเศษ มีงบประมาณเท่าไหร่ ซื้อดื่มเอง หรือซื้อเป็นของขวัญ ก็สามารถแจ้งแอดมินได้ เพื่อให้แอดมินแนะนำเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์กับความต้องการของนักดื่มมากที่สุด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้เลยที่
Website : www.winecellarbkk.com หรือ คลิก ที่นี่
โดยที่ Wine Cellar BKK มีเครื่องดื่มให้นักดื่มได้เลือกสรรกันหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นไวน์แดง ไวน์ขาว แชมเปญ สปาร์คกลิ้งไวน์ คอนญัก วิสกี้ หรือเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีให้เลือกซื้อกันอย่างครบครัน การันตีสินค้าทุกขวดเป็นของแท้ 100% ผ่านการคัดสรรเครื่องดื่มทุกขวดด้วยความใส่ใจ เพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่มีคุณภาพ และมาตรฐาน และการันตีว่าจำหน่ายในราคาดีที่สุดในตลาด เพื่อจำหน่ายเครื่องดื่มพรีเมียมในราคาสบายกระเป๋า และให้นักดื่มเข้าถึงเครื่องดื่มขวดโปรดได้ในราคาย่อมเยา มาพร้อมกับบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงหน้าบ้าน ที่มีให้นักดื่มได้เลือกใช้ทั้งบริการจัดส่งสินค้าด่วนภายในกทม. ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง และบริการจัดส่งสินค้าทั่วประเทศ ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 1-2 วัน สามารถสั่งซื้อเครื่องดื่มกับ Wine Cellar BKK ได้ง่ายๆ ทุกที่ ทุกเวลา แพ็คสินค้าทุกออเดอร์เป็นอย่างดี มีการรับประกันสินค้าระหว่างการจัดส่ง หากสินค้าได้รับความเสียหาย แตก หัก หรืออยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ที่เกิดจากการจัดส่ง ทางร้านยินดีเปลี่ยนเครื่องดื่มเป็นขวดใหม่ให้ทันที แบบไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อสร้างความประทับใจในการเลือกซื้อไวน์กับเราตลอดการบริการ
Thanks for subscribing!
This email has been registered!