Couldn't load pickup availability
- Free standard shipping on orders over 10,000 THB
You may return most new, unopened items within 30 days of delivery for a full refund. We'll also pay the return shipping costs if the return is a result of our error (you received an incorrect or defective item, etc.).
You should expect to receive your refund within four weeks of giving your package to the return shipper, however, in many cases you will receive a refund more quickly. This time period includes the transit time for us to receive your return from the shipper (5 to 10 business days), the time it takes us to process your return once we receive it (3 to 5 business days), and the time it takes your bank to process our refund request (5 to 10 business days).
If you need to return an item, simply login to your account, view the order using the "Complete Orders" link under the My Account menu and click the Return Item(s) button. We'll notify you via e-mail of your refund once we've received and processed the returned item.
“Glenfiddich 12 Years Single Malt” คือ หนึ่งในสก็อตวิสกี้ที่ได้รับการยอมรับ และเป็นที่รักจากนักดื่มทั่วโลกมาอย่างยาวนาน ด้วยชื่อเสียงที่เลื่องลือมาอย่างยาวนาน และเป็นวิสกี้ที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของ “การเริ่มต้น” ที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่อยากทำความรู้จักกับโลกของซิงเกิลมอลต์สก็อตช์อย่างแท้จริง ทั้งยังเป็นหนึ่งในไม่กี่แบรนด์ที่ผลิตแบบ “Single Malt” อย่างต่อเนื่องภายใต้กรรมสิทธิ์ของครอบครัวเดียวมาตลอดระยะเวลากว่า 130 ปี
โดยคำว่า Glenfiddich แปลว่า “หุบเขาแห่งกวาง” ในภาษาเกลิค ซึ่งสะท้อนผ่านตราสัญลักษณ์รูปกวางที่สง่างามอยู่บนฉลากของทุกขวด และ Glenfiddich 12 Years Single Malt ก็ยังเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของแบรนด์ เพราะมีกลิ่นหอมสดชื่น รสชาติสมดุล ดื่มง่าย เหมาะทั้งกับมือใหม่ และผู้ชื่นชอบซิงเกิลมอลต์สายคลาสสิก อีกทั้งวิสกี้รุ่นนี้ยังเกิดจากการหมัก และกลั่นในโรงกลั่นของ Glenfiddich ในเมือง Dufftown แคว้นสเปย์ไซด์ ประเทศสก็อตแลนด์ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตวิสกี้ชั้นนำของโลก และความพิเศษอยู่ที่การบ่มในถังไม้โอ๊คอเมริกัน และถังเชอร์รี่อายุ 12 ปี ที่สร้างรสสัมผัสหอมหวาน สดชื่น และกลมกล่อมในแบบที่แสนละเมียดละไม
ดังนั้น Glenfiddich 12 Years Single Malt จึงไม่ใช่เพียงแค่วิสกี้ธรรมดา แต่เป็นวิสกี้ที่ผ่านการสืบทอดความชำนาญจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งดื่มแล้วให้ความรู้สึกหรูหราแบบเข้าถึงได้ เหมาะจะเป็นเครื่องดื่มประจำโอกาสพิเศษ หรือของขวัญอันทรงคุณค่าให้แก่คนพิเศษ และในบทความนี้ทาง Wine Cellar BKK ก็จะพานักดื่มทุกคนมาทำความรู้จักกับ Glenfiddich 12 Years Single Malt กันมากขึ้นว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน พร้อมแนะนำเทคนิคในการดื่มแบบง่ายๆ โดยจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง สามารถติดตามกันได้เลย
สำหรับ Glenfiddich 12 Years Single Malt นั้นเป็นซิงเกิลมอลต์สก็อตช์วิสกี้ที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั่วโลก และเป็นหนึ่งในวิสกี้ไม่กี่รุ่นที่ถูกยกย่องว่าเป็น “ตัวเริ่มต้น” ที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าสู่โลกของซิงเกิลมอลต์แบบจริงจัง ด้วยประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1887 ที่ Glenfiddich เป็นหนึ่งในโรงกลั่นเพียงไม่กี่แห่งในสก็อตแลนด์ที่ยังคงดำเนินการภายใต้การดูแลของตระกูลผู้ก่อตั้งมาจนถึงปัจจุบัน
โดย Glenfiddich ตั้งอยู่ในเมืองดัฟทาวน์ (Dufftown) เขต Speyside ซึ่งเป็นแหล่งผลิตวิสกี้ชื่อดังที่สุดของสก็อตแลนด์ และผู้ก่อตั้งแบรนด์ คือ William Grant ผู้ซึ่งใช้เวลาสร้างโรงกลั่นด้วยมือร่วมกับลูกๆ ของเขา และเปิดตัว Glenfiddich อย่างเป็นทางการในวันคริสต์มาสปี 1887 และจุดเริ่มต้นของวิสกี้ที่เกิดจากความตั้งใจ และความรักในการกลั่นแบบดั้งเดิมนี้ ก็ได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจของแบรนด์ที่ยังคงยึดมั่นในคุณภาพจนถึงทุกวันนี้
และ Glenfiddich 12 Years Single Malt เป็นรุ่นเรือธงของแบรนด์ และเป็นวิสกี้ที่ผ่านการบ่มในถังโอ๊คอเมริกัน ex-bourbon และถังเชอร์รี่แบบโอโรโซที่ใช้แล้ว เป็นเวลาขั้นต่ำ 12 ปี และถังไม้เหล่านี้ช่วยเสริมความซับซ้อนให้กับรสชาติ สร้างความสมดุลระหว่างความหอมหวานของผลไม้ ความสดชื่นของแอปเปิ้ลเขียว และกลิ่นโอ๊คอ่อนๆ ที่ติดปลายลิ้นอย่างพอดี ทำให้จุดเด่นสำคัญของ Glenfiddich 12 Years คือ การให้กลิ่น และรสชาติที่สดใส มีความสะอาด สบายจมูก และเข้าถึงง่าย ทำให้เหมาะกับทั้งมือใหม่ และนักดื่มมืออาชีพ ตัวกลิ่นมีทั้งโน้ตของผลไม้สีเขียว น้ำผึ้ง และวานิลลา ขณะที่รสสัมผัสมีความนุ่มนวลแ ละกลมกล่อม ปิดท้ายด้วยฟินิชแบบสะอาด และยาวนานกำลังดี
และจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ Glenfiddich กลายเป็นแบรนด์ระดับโลก คือ การที่ William Grant & Sons ตัดสินใจส่งออกวิสกี้ไปยังสหรัฐอเมริกาในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งในขณะนั้นแทบไม่มีแบรนด์ซิงเกิลมอลต์ใดทำแบบนี้ และการก้าวเข้าสู่ตลาดโลกทำให้ Glenfiddich กลายเป็นผู้บุกเบิกตลาดซิงเกิลมอลต์ และเป็นต้นแบบให้แบรนด์อื่นๆ ทำตามในภายหลัง
จากโรงกลั่นเล็กๆ ที่เริ่มต้นด้วยความฝันของครอบครัวหนึ่ง Glenfiddich 12 Years Single Malt ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่น ความพิถีพิถัน และรสชาติที่อยู่เหนือกาลเวลา ซึ่งยังคงครองใจนักดื่มจากทั่วทุกมุมโลกจนถึงปัจจุบัน ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 130 ปี Glenfiddich ไม่เคยหยุดพัฒนา แต่ก็ไม่เคยละทิ้งแก่นแท้ของตนเอง ทั้งความมั่นคงในคุณภาพ และความซื่อสัตย์ต่อกรรมวิธีแบบดั้งเดิม คือ สิ่งที่ทำให้ Glenfiddich 12 Years Single Malt ยืนหยัดในใจของผู้ดื่มทั่วโลก และกลายเป็นหนึ่งในซิงเกิลมอลต์ที่ขายดีที่สุดของโลกจนถึงทุกวันนี้
สำหรับ Glenfiddich 12 Years Single Malt เป็นผลงานชิ้นเอกที่เกิดจากกระบวนการผลิตอันประณีตละเอียดถี่ถ้วนในแบบดั้งเดิมของสก็อตแลนด์ โดยเฉพาะในแคว้นสเปย์ไซด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องการผลิตวิสกี้ซิงเกิลมอลต์ชั้นนำ ทำให้ในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการผลิต Glenfiddich 12 Years Single Malt นั้นมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
การเลือกวัตถุดิบ เริ่มต้นการผลิต Glenfiddich 12 Years Single Malt จากการคัดเลือกวัตถุดิบหลักอย่างข้าวบาร์เลย์มอลต์คุณภาพสูง น้ำบริสุทธิ์จากแหล่งน้ำ Robbie Dhu Springs ซึ่งเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติบนที่ดินของ Glenfiddich เอง และยีสต์สายพันธุ์เฉพาะของโรงกลั่น ที่ทั้งหมดนี้เป็นพื้นฐานของรสชาติที่บริสุทธิ์ และเป็นธรรมชาติของวิสกี้จาก Glenfiddich
การทำมอลต์ สำหรับข้าวบาร์เลย์ที่ผ่านการคัดเลือกมานั้นจะถูกแช่น้ำ จากนั้นนำไปงอกจนเกิดน้ำตาลธรรมชาติ แล้วจึงนำไปอบแห้งในเตาอบ โดยไม่ใช้พีทเผา ทำให้ Glenfiddich มีรสชาติที่สะอาด สดชื่น และไม่มีควัน
การบด และต้ม สำหรับข้าวมอลต์ที่แห้งแล้วจะถูกบดให้ละเอียด และนำไปผสมกับน้ำร้อนในถังมาช เพื่อสกัดน้ำตาลจากมอลต์ และกระบวนการนี้ทำหลายรอบเพื่อให้ได้ "wort" หรือน้ำหวานเข้มข้นพร้อมสำหรับการหมัก
การหมัก สำหรับน้ำ wort ที่ได้นั้นจะถูกส่งไปยังถังหมักขนาดใหญ่ที่ทำจากไม้สนดักลาสจากอเมริกาเหนือ และ Glenfiddich ยังคงใช้ถังไม้แบบดั้งเดิม ซึ่งจะช่วยสร้างรสสัมผัสที่นุ่มลึก และการหมักจะใช้ระยะเวลาประมาณ 60-72 ชั่วโมง จนได้น้ำหมักที่มีแอลกอฮอล์ประมาณ 8-9%
การกลั่น น้ำหมักที่ได้จากการหมักนั้นจะถูกกลั่นสองครั้งในหม้อทองแดง ที่มีรูปทรงพิเศษ และถูกสร้างเลียนแบบแบบดั้งเดิมของ Glenfiddich เอง ทำให้การกลั่นรอบแรกได้ "low wines" และกลั่นซ้ำรอบสองเพื่อให้ได้ "new make spirit" ที่สะอาด กลมกล่อม และคงกลิ่นหอมของผลไม้สดไว้
การบ่ม สำหรับ New make spirit จะถูกนำไปบ่มในถังไม้โอ๊ค 2 ประเภท คือ ถัง bourbon อเมริกันที่ใช้แล้ว และถัง sherry Oloroso จากสเปน โดยต้องใช้เวลาอย่างน้อย 12 ปี เพื่อให้ได้ความสมดุลที่สมบูรณ์ระหว่างรสหวาน ผลไม้ และกลิ่นไม้โอ๊คตามแบบฉบับของ Glenfiddich 12 Years Single Malt
การคัดเลือก และบรรจุขวด หลังจากบ่มครบตามระยะเวลาที่กำหนดแล้ว Glenfiddich จะนำวิสกี้จากถังต่างๆ มาผสมเข้าด้วยกันในถังไม้โอ๊คขนาดใหญ่ เพื่อให้รสชาติละมุน และกลมกล่อม ก่อนกรองเย็น และบรรจุขวดเป็น Glenfiddich 12 Years Single Malt ที่พร้อมส่งมอบให้นักดื่มทั่วโลก
ดังนั้น ทุกขั้นตอนในกระบวนการผลิต Glenfiddich 12 Years Single Malt นั้นล้วนสะท้อนถึงความพิถีพิถันในการผลิต และเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Glenfiddich 12 Years Single Malt เป็นหนึ่งในซิงเกิลมอลต์ที่มีคุณภาพระดับโลก และยืนหยัดในวงการมานานนับศตวรรษ
สำหรับ Glenfiddich 12 Years Single Malt ถือเป็นวิสกี้ระดับเริ่มต้นในตระกูล Glenfiddich ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั่วโลก ด้วยลักษณะเฉพาะตัวที่ดื่มง่าย เข้าถึงได้ทั้งนักดื่มมือใหม่ และผู้มีประสบการณ์ และมีจุดเด่นด้านกลิ่นหอม และรสชาติที่สมดุลอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้เวลาที่ดื่มนั้นนักดื่มจะสามารถสัมผัสได้ถึงรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่มีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
กลิ่น (Aroma) สำหรับกลิ่นของ Glenfiddich 12 Years Single Malt นั้นจะเปิดมาด้วยกลิ่นหอมสดชื่นของผลไม้สีเขียว โดยเฉพาะกลิ่นแอปเปิ้ลเขียว และลูกแพร์ ที่เป็นซิกเนเจอร์ของ Glenfiddich นอกจากนี้ยังมีกลิ่นของมอลต์ที่นุ่มนวล ผสมผสานกับกลิ่นฟางแห้ง กลิ่นหญ้าเบาๆ รวมถึงกลิ่นวานิลลาที่ได้จากถังโอ๊กที่ใช้ในการบ่ม ช่วยเพิ่มมิติให้กลิ่นซับซ้อนขึ้น แต่ยังคงความสดใสไว้เป็นอย่างดี
รสชาติ (Flavor) สำหรับรสชาติของ Glenfiddich 12 Years Single Malt นั้นจะเผยความหอมที่ละมุน และสะอาด โดยเริ่มต้นด้วยความหวานของผลไม้แห้ง เช่น ลูกเกด และแอปเปิ้ลอบ มีความเป็นมอลต์ที่นุ่ม อีกทั้งยังมีความละมุนจากวานิลลาที่ชัดเจนขึ้นจากการบ่มในถังโอ๊กอเมริกัน และถังเชอร์รี่โอ๊กจากยุโรป รวมถึงยังมีความหอมหวานของน้ำผึ้งอ่อนๆ และอบเชยบางเบา ซึ่งทำให้วิสกี้ตัวนี้มีความสมดุลระหว่างความสดใสของผลไม้ และความอบอุ่นของไม้โอ๊กอย่างลงตัว
รสสัมผัส (Mouthfeel) สำหรับรสสัมผัสของ Glenfiddich 12 Years Single Malt นั้นจะให้สัมผัสที่ค่อนข้างบางเบา และนุ่มลื่น ไม่หนา หรือแน่นเกินไป เหมาะสำหรับการดื่มแบบไม่ต้องผสม โดยเนื้อสัมผัสนี้จะช่วยให้รสชาติของวิสกี้กระจายอยู่ทั่วทั้งปาก ทำให้นักดื่มสามารถสัมผัสโน้ตต่างๆ ได้ชัดเจน และหลังจากกลืนจะสัมผัสได้ถึงความสะอาด สดชื่น และยาวนาน มีกลิ่นวานิลลาอ่อนๆ ผสมกับผลไม้สุก และสัมผัสไม้โอ๊กแห้งบางเบา ที่จะติดอยู่ในลำคออย่างอ่อนโยน และยาวนาน
ด้วยองค์ประกอบของรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของ Glenfiddich 12 Years Single Malt ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร และสะท้อนถึงกลิ่นอายของสก็อตช์วิสกี้ได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ Glenfiddich 12 Years Single Malt เป็นอีกหนึ่งวิสกี้ที่เป็นที่นิยมของนักดื่มวิสกี้ทั่วโลก ดังนั้น ถ้าหากนักดื่มคนไหนอยากจะสัมผัสถึงความพรีเมียม และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Glenfiddich 12 Years Single Malt ในราคาสบายกระเป๋า ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Celler BKK ที่มี Glenfiddich 12 Years Single Malt พร้อมส่งทันที ไม่ต้องรอพรีออเดอร์ ของแท้ 100% ราคาดีที่สุด จัดส่งไวให้ถึงหน้าบ้าน สั่งซื้อได้ที่ Line Official : @winecellar24 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับการดื่ม Glenfiddich 12 Years Single Malt ให้ได้ประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่รสชาติในขวดเท่านั้น แต่รวมถึงวิธีการเสิร์ฟ การดื่ม การจับคู่อาหาร และการเก็บรักษาอย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้สัมผัสถึงคุณภาพระดับพรีเมียมของวิสกี้ตัวนี้ในทุกหยดที่ลิ้มลอง ซึ่งในแต่ละวิธีที่จะช่วยให้นักดื่มสัมผัสถึงความพรีเมียมได้เต็มที่ในทุกหยดที่จิบ มีดังนี้
วิธีการเสิร์ฟ ควรเสิร์ฟ Glenfiddich 12 Years Single Malt ในแก้วที่เหมาะสม เช่น แก้ว Glencairn หรือแก้วทรงทิวลิป เพื่อช่วยให้กลิ่นของวิสกี้กระจายตัวได้ดี ไม่แนะนำให้เสิร์ฟในแก้วแบบทรงกว้างหรือแก้วน้ำธรรมดา เพราะจะทำให้กลิ่น และรสชาติจางหายเร็วเกินไป และอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเสิร์ฟ คืออุณหภูมิห้อง ประมาณ 18-22 องศาเซลเซียส และเหมาะกับการดื่มแบบเพียวๆ มากกว่าการใส่น้ำแข็ง หรือหยดน้ำเพิ่ม เพราะว่าวิสกี้รุ่นนี้มีความดื่มง่าย ไม่ต้องเจือจางก็ดื่มได้อย่างเพลิดเพลิน
วิธีการดื่ม ควรทำการดื่ม Glenfiddich 12 Years Single Malt อย่างช้าๆ เพื่อให้สัมผัสรสชาติ และกลิ่นได้อย่างเต็มที่ โดยเริ่มจากการจิบช้าๆ ทีละเล็กน้อย และกลั้วในปากเบาๆ เพื่อให้วิสกี้สัมผัสลิ้น และเพดานปาก ก่อนกลืนลงคอ อย่าลืมใช้จมูกดมกลิ่นลึกๆ ก่อนจิบ เพราะส่วนหนึ่งของประสบการณ์ในการดื่มวิสกี้ คือ การรับกลิ่น ซึ่งช่วยให้นักดื่มเข้าใจชั้นของรสชาติได้ดีขึ้น
วิธีการจับคู่อาหาร ควรทำการจับคู่ Glenfiddich 12 Years Single Malt กับอาหารที่มีส่วนประกอบของอาหารทะเล เช่น แซลมอน กุ้ง ปู หรือเนื้อปลาต่างๆ หรืออาหารญี่ปุ่น เช่น ซูชิ หรือซาชิมิ เป็นต้น หรือจะเลือกเป็นเมนูที่มีส่วนประกอบของชีสเนื้อนุ่ม เช่น ชีสบรี หรือชีสเกาดาร์ ก็เข้ากันได้ดี รวมถึงเมนูของหวานที่มีวานิลลา แอปเปิ้ล หรือคาราเมล เช่น พายแอปเปิ้ล หรือครัมเบิ้ลผลไม้ เป็นต้น
วิธีการเก็บรักษา ควรทำการเก็บ Glenfiddich 12 Years Single Malt ไว้ในที่แห้ง เย็น และห่างจากแสงแดดโดยตรง โดยเฉพาะแสง UV ที่อาจทำให้วิสกี้เปลี่ยนรสชาติได้ และเก็บขวดไว้ในแนวตั้ง ไม่ควรวางนอน เพราะแอลกอฮอล์อาจกัดกร่อนฝาจุกได้ในระยะยาว และถ้าหากเปิดขวดแล้ว ควรปิดฝาให้แน่น เพื่อป้องกันการระเหย และแนะนำให้ดื่มภายใน 6 เดือน ถึง 1 ปี เพื่อรักษาความสดใหม่ของกลิ่น และรสชาติไว้ดีที่สุด
สำหรับนักดื่มที่กำลังอยากจะซื้อ Glenfiddich 12 Years Single Malt ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Cellar BKK แหล่งนำเข้า และแหล่งจำหน่ายเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีบริการแอดมินให้คำแนะนำสินค้าอย่างมืออาชีพ อยากได้ไวน์ที่มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน หรืออยากได้เครื่องดื่มประเภทอื่นๆ อยากได้ยี่ห้อไหนเป็นพิเศษ มีงบประมาณเท่าไหร่ ซื้อดื่มเอง หรือซื้อเป็นของขวัญ ก็สามารถแจ้งแอดมินได้ เพื่อให้แอดมินแนะนำเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์กับความต้องการของนักดื่มมากที่สุด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้เลยที่
Website : www.winecellarbkk.com หรือ คลิก ที่นี่
โดยที่ Wine Cellar BKK มีเครื่องดื่มให้นักดื่มได้เลือกสรรกันหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นไวน์แดง ไวน์ขาว แชมเปญ สปาร์คกลิ้งไวน์ คอนญัก วิสกี้ หรือเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีให้เลือกซื้อกันอย่างครบครัน การันตีสินค้าทุกขวดเป็นของแท้ 100% ผ่านการคัดสรรเครื่องดื่มทุกขวดด้วยความใส่ใจ เพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่มีคุณภาพ และมาตรฐาน และการันตีว่าจำหน่ายในราคาดีที่สุดในตลาด เพื่อจำหน่ายเครื่องดื่มพรีเมียมในราคาสบายกระเป๋า และให้นักดื่มเข้าถึงเครื่องดื่มขวดโปรดได้ในราคาย่อมเยา มาพร้อมกับบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงหน้าบ้าน ที่มีให้นักดื่มได้เลือกใช้ทั้งบริการจัดส่งสินค้าด่วนภายในกทม. ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง และบริการจัดส่งสินค้าทั่วประเทศ ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 1-2 วัน สามารถสั่งซื้อเครื่องดื่มกับ Wine Cellar BKK ได้ง่ายๆ ทุกที่ ทุกเวลา แพ็คสินค้าทุกออเดอร์เป็นอย่างดี มีการรับประกันสินค้าระหว่างการจัดส่ง หากสินค้าได้รับความเสียหาย แตก หัก หรืออยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ที่เกิดจากการจัดส่ง ทางร้านยินดีเปลี่ยนเครื่องดื่มเป็นขวดใหม่ให้ทันที แบบไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อสร้างความประทับใจในการเลือกซื้อไวน์กับเราตลอดการบริการ
Thanks for subscribing!
This email has been registered!