Couldn't load pickup availability
- Free standard shipping on orders over 10,000 THB
You may return most new, unopened items within 30 days of delivery for a full refund. We'll also pay the return shipping costs if the return is a result of our error (you received an incorrect or defective item, etc.).
You should expect to receive your refund within four weeks of giving your package to the return shipper, however, in many cases you will receive a refund more quickly. This time period includes the transit time for us to receive your return from the shipper (5 to 10 business days), the time it takes us to process your return once we receive it (3 to 5 business days), and the time it takes your bank to process our refund request (5 to 10 business days).
If you need to return an item, simply login to your account, view the order using the "Complete Orders" link under the My Account menu and click the Return Item(s) button. We'll notify you via e-mail of your refund once we've received and processed the returned item.
Dom Perignon Rose ถือเป็นหนึ่งในแชมเปญสุดหรูที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นสัญลักษณ์ของความประณีตที่เหนือกาลเวลา โดยแบรนด์ Dom Perignon เองนั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นแชมเปญที่ผสมผสานทั้งศิลปะและศาสตร์แห่งการทำไวน์ได้อย่างลงตัว และเวอร์ชัน Rose ก็ยิ่งเป็นตัวแทนของความซับซ้อน ความลึกซึ้ง และความงดงามที่แตกต่างจากแชมเปญทั่วไป ทำให้การเกิดขึ้นของ Dom Perignon Rose ไม่ได้เป็นเพียงการสร้างเครื่องดื่มเพื่อเฉลิมฉลอง แต่ยังเป็นการถ่ายทอดปรัชญา และความตั้งใจของผู้ผลิตที่ต้องการสะท้อนรสชาติอันละเอียดอ่อน ความเข้มข้น และความเป็นเอกลักษณ์ของไร่องุ่นในแคว้น Champagne ประเทศฝรั่งเศส
โดยสิ่งที่ทำให้ Dom Perignon Rose โดดเด่น คือ การเลือกใช้องุ่นชั้นเลิศอย่าง Pinot Noir และ Chardonnay มาผสมผสานกันอย่างลงตัว โดย Pinot Noir จะมอบความเข้มข้น และโครงสร้างที่แข็งแรง และ Chardonnay สร้างความสดชื่น และความหรูหราในรสสัมผัส เมื่อรวมกันแล้วจึงก่อให้เกิดสมดุลที่น่าประทับใจในทุกแก้ว นอกจากนี้ Dom Perignon Rose ยังถูกมองว่าเป็นการก้าวข้ามกรอบดั้งเดิมของการทำแชมเปญ เนื่องจากเน้นไปที่การสื่ออารมณ์ และความรู้สึก มากกว่าการเป็นเพียงเครื่องดื่มสำหรับโอกาสพิเศษ
และในปัจจุบัน Dom Perignon Rose ได้กลายเป็นแชมเปญที่นักสะสม และผู้หลงใหลในไวน์ทั่วโลกต่างตามหา และยังคงรักษามาตรฐานสูงสุดทั้งในด้านคุณภาพ และภาพลักษณ์ ซึ่งเป็นการพิสูจน์ว่าแชมเปญไม่ได้มีไว้แค่การเฉลิมฉลอง แต่ยังเป็นผลงานศิลป์ที่บรรจงสร้างขึ้นมาเพื่อเล่าเรื่องราวของเวลา และความพิถีพิถันอย่างแท้จริง
ดังนั้น ในบทความนี้ทาง Wine Cellar BKK ก็จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ Dom Perignon Rose ว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน ทำไมถึงเป็นที่นิยมของเหล่านักดื่มมาอย่างยาวนาน พร้อมแชร์เทคนิคในการดื่มแบบง่ายๆ ที่ช่วยให้สัมผัสถึงกลิ่นอายของแชมเปญจากฝรั่งเศสได้อย่างเต็มที่ โดยจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง สามารถติดตามกันได้เลย
Dom Perignon Rose เป็นแชมเปญที่มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ และยาวนาน โดยรากฐานของแชมเปญแบรนด์นี้เริ่มต้นจากชื่อเสียงของ Dom Pierre Pérignon นักบวชชาวฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 17 ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้บุกเบิก และวางรากฐานการทำแชมเปญให้ก้าวสู่ระดับสากล เขาได้พัฒนากระบวนการผลิตไวน์ที่พิถีพิถัน ตั้งแต่การคัดเลือกองุ่นที่ดีที่สุด ไปจนถึงการควบคุมคุณภาพการหมัก เพื่อสร้างไวน์ที่มีความบริสุทธิ์ และสมดุลอย่างสูง แม้ว่า Dom Pierre Pérignon จะไม่ได้ผลิต Rose ด้วยตัวเอง แต่แนวคิด และปรัชญาของเขาก็ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เกิด Dom Perignon Rose ในเวลาต่อมา
โดย Dom Perignon Rose รุ่นแรกถูกผลิตขึ้นใน ปี 1959 และเปิดตัวสู่ตลาดในปี 1971 ถือเป็นก้าวสำคัญของแบรนด์ เพราะเป็นครั้งแรกที่ Dom Perignon ก้าวเข้าสู่โลกของแชมเปญโรเซ่ ซึ่งในยุคนั้นยังถือว่าเป็นสิ่งใหม่ที่ท้าทาย และวัตถุประสงค์หลักของการสร้าง Rose คือ การนำเสนอรสชาติ และอัตลักษณ์ที่แตกต่างจากแชมเปญคลาสสิก โดยยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ซึ่งจุดเด่นสำคัญของ Dom Perignon Rose คือ การใช้ Pinot Noir คุณภาพสูงที่ผ่านการหมักแบบ Skin Contact เพื่อดึงสี และรสชาติที่เข้มข้นออกมา ทำให้ได้แชมเปญที่มีเฉดสีชมพู-ส้มอำพันอันงดงาม พร้อมด้วยรสสัมผัสที่ทรงพลัง และซับซ้อน ในขณะเดียวกันก็ยังคงมีความสดชื่น และความหรูหราแบบ Dom Perignon อยู่ครบถ้วน และการผสมผสานระหว่างความเข้มข้น และความละเอียดอ่อนเช่นนี้ จึงทำให้ Rose รุ่นนี้เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางในเวลารวดเร็ว
และอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญ คือ การบริหารงานโดย Moët & Chandon ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ Dom Perignon มาตั้งแต่ต้น ที่บริษัทนี้มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้ Dom Perignon Rose ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในแชมเปญหรูที่ทั่วโลกยอมรับ เพราะพวกเขาไม่เพียงรักษาคุณภาพการผลิตอย่างเข้มงวด แต่ยังใช้กลยุทธ์การตลาดที่สร้างภาพลักษณ์ความหรูหรา และเอ็กซ์คลูซีฟ จนทำให้ Rose กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งรสนิยม
และนับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรก Dom Perignon Rose ก็ได้พัฒนาเรื่อยมา โดยแต่ละวินเทจถูกผลิตขึ้นอย่างจำกัด และผ่านการคัดสรรที่เข้มงวด ทำให้แต่ละรุ่นมีความเป็นเอกลักษณ์ในตัวเอง สิ่งนี้กลายเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่นักสะสมไวน์ทั่วโลกต่างหลงใหล และทำให้ Dom Perignon Rose ไม่ได้เป็นเพียงแค่แชมเปญ แต่ยังเป็นตัวแทนของศิลปะ ความหรูหรา และความเป็นตำนานในโลกของไวน์
สำหรับกระบวนการผลิต Dom Perignon Rose เป็นกระบวนการที่มีความละเอียด และพิถีพิถันเป็นอย่างมาก เพื่อให้ได้แชมเปญโรเซ่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้กระบวนการผลิต Dom Perignon Rose ในแต่ละขั้นตอนนั้นมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
การเลือกแหล่งปลูก และการเก็บเกี่ยว สำหรับการผลิต Dom Perignon Rose จะเลือกเฉพาะองุ่นจาก Grand Cru และ Premier Cru ของแคว้น Champagne เท่านั้น โดยจะใช้องุ่นสายพันธุ์ Pinot Noir และ Chardonnay ที่มีความสุกเต็มที่ เพื่อช่วยสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้ดี รวมถึงขั้นตอนในการเก็บเกี่ยวนั้นองุ่นจะถูกเก็บด้วยมือเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผลองุ่นได้รับความเสียหาย และในขั้นตอนนี้จะคัดเฉพาะลูกที่สมบูรณ์ที่เหมาะกับการผลิต Dom Perignon Rose เท่านั้น
การกดองุ่น หลังจากทำการเก็บองุ่นแล้ว จะนำมาคัดแยกอีกครั้งอย่างพิถีพิถัน หลังจากนั้นจะทำการกดอย่างนุ่มนวล เพื่อให้ได้ "first press juice" ที่มีคุณภาพดีที่สุด และสำหรับองุ่นสายพันธุ์ Pinot Noir จะมีขั้นตอนการหมักเพิ่มเติม เพื่อสกัดสี และโครงสร้างออกมาอย่างพอดี และถือว่าเป็นขั้นตอนที่มีความท้าทาย เพราะว่าขั้นตอนนี้จะช่วยให้แชมเปญโรเซ่มีสีสวย มีความนุ่ม และไม่ขมฝาด
การหมักเบื้องต้น สำหรับน้ำองุ่นที่ได้จากการกดนั้นจะนำไปหมักในถังสแตนเลสที่ควบคุมอุณหภูมิอย่างเข้มงวด เพื่อให้ได้เบสไวน์ที่มีความสดใส สดชื่น และเก็บเอกลักษณ์ของ terroir ไว้ให้มากที่สุด
และสำหรับ Dom Perignon Rose จะยังไม่ใช้ถังไม้โอ๊กในขั้นตอนนี้ เพื่อคงความบริสุทธิ์ของรสชาติไว้ได้ดีมากที่สุด
การประกอบเบสไวน์ หลังจากหมักเบื้องต้นแล้ว ทีมงานไวน์เมกเกอร์ของทางแบรนด์จะทำการเบลนด์เบสไวน์ที่ได้ โดยจะผสมเบสไวน์จาก Pinot Noir และ Chardonnay โดยไวน์แดงจาก Pinot Noir ที่ทำจากหมักเฉพาะนั้นจะผสมลงไป เพื่อสร้างแชมเปญโรเซ่ที่มีสัดส่วนการผสมที่เป็นศิลปะที่ละเอียดอ่อนตามสไตล์ของ Dom Perignon เพื่อให้คงความสมดุลของผลไม้ ความเข้มข้น และความสดใสเอาไว้พร้อมกัน
การบรรจุขวด และการหมักครั้งที่สอง เมื่อทำการเบลนด์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็จะทำการเติมน้ำตาล และยีสต์ และบรรจุลงขวด เพื่อเริ่มการหมักครั้งที่สองในขวด และในขั้นตอนนี้ก็จะช่วยทำให้เกิดเนื้อฟองธรรมชาติในแชมเปญ
การบ่มบนตะกอน หลังจากการหมักครั้งที่สองแล้ว Dom Perignon Rose ก็จะถูกปล่อยให้บ่มต่อในขวด และบ่มบนตะกอนเป็นระยะเวลานาน และในขั้นตอนการบ่มนี้จะช่วยพัฒนาเนื้อสัมผัส ให้มีความละเอียด นุ่มนวล และสร้างชั้นกลิ่นหอม เช่น บริยอช อัลมอนด์ เครื่องเทศ และแร่ธาตุ เป็นต้น
การกระบวนการตกตะกอน ดีโกจ์เมนต์ และเติมน้ำตาล เมื่อบ่มครบระยะเวลาแล้ว จะมีการหมุนขวด เพื่อรวมตะกอนมาไว้ที่ปากขวด จากนั้นจะทำการดีโกจ์เมนต์ หรือการเอาตะกอนออก พร้อมกับเติม น้ำตาลเล็กน้อย เพื่อปรับสมดุลรสชาติ และใน Dom Perignon Rose นั้นจะมีน้ำตาลต่ำกว่าแชมเปญทั่วไป เพื่อคงรสชาติที่คมชัด สดใส และเป็นธรรมชาติที่สุด
สำหรับ Dom Perignon Rose เป็นแชมเปญที่มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่มีเอกลักษณ์ และมีความแตกต่างจาก Rose ทั่วไป ทำให้เวลาดื่มนั้นนักดื่มสามารถสัมผัสได้ถึงรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของ Dom Perignon Rose ที่มีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
รสชาติ (Flavor) สำหรับรสชาติของ Dom Perignon Rose นั้นจะมีรสชาติที่มีความนุ่มนวล หอมหวาน และหรูหรา ด้วยความสดใหม่ของผลไม้สีแดง เช่น ราสป์เบอร์รี เชอร์รี และสตรอเบอร์รี ผสมผสานเข้ากันกับความหอมหวานของผลไม้สีดำ เช่น แบล็คเคอแรนท์ และพลัม ทำให้มีความหอมหวาน และความเปรี้ยวแบบสดใหม่ที่สร้างความสดชื่น มาพร้อมกับความกลมกล่อมของเนื้อไวน์ที่เข้มข้น และปิดท้ายด้วยรสชาติที่มีความสดชื่น สดใส และเจือจางความเค็มเล็กน้อยอย่างลงตัวที่เป็นซิกเนเจอร์ของ Dom Perignon Rose
รสสัมผัส (Mouthfeel) สำหรับรสสัมผัสของ Dom Perignon Rose นั้นจะมีเนื้อสัมผัสที่ละเอียด ละมุน และแน่น โดยจะมีเนื้อฟองเนียนละเอียด ซึ่งจะช่วยขับเนื้อสัมผัสให้มีความเนียนนุ่ม หรูหรา และกลมกล่อม อีกทั้งยังมีความสมดุลระหว่างโครงสร้างจาก Pinot Noir และความละมุนจาก Chardonnay อย่างลงตัว ทำให้แชมเปญมีมิติซ้อนกันหลายชั้น ทั้งความสดชื่น เบาสบาย และความหนักแน่น ทำให้นักดื่มสามารถดื่มได้เรื่อยๆ อย่างเพลิดเพลิน
กลิ่น (Aroma) สำหรับกลิ่นของ Dom Perignon Rose นั้นจะสามารถพัฒนาอย่างต่อเนื่องเมื่ออยู่ในแก้ว โดยจะเริ่มต้นด้วยความหอมหวานของผลไม้สีแดง เช่น ราสป์เบอร์รี สตรอว์เบอร์รี เชอร์รี ตามด้วยกลิ่นผลไม้แห้ง และผลไม้สุก เช่น มะเดื่อ และพลัม หลังจากนั้นก็จะมีกลิ่นรองตามออกมาชัดเจน เช่น ขนมปังบริออช อัลมอนด์ ครีม เครื่องเทศ เช่น อบเชย และแร่ธาตุต่างๆ และในบางวินเทจอาจมีความหอมของชาดำ ดอกไม้แห้ง และเปลือกส้มเสริมมาอีกชั้นด้วย
ด้วยองค์ประกอบของรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของ Dom Perignon Rose ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร และสะท้อนถึงกลิ่นอายของแชมเปญจากฝรั่งเศสได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ Dom Perignon Rose เป็นอีกหนึ่งแชมเปญที่เป็นที่นิยมของนักดื่มแชมเปญทั่วโลก ดังนั้น ถ้าหากนักดื่มคนไหนอยากจะสัมผัสถึงความพรีเมียม และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Dom Perignon Rose ในราคาสบายกระเป๋า ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Celler BKK ที่มี Dom Perignon Rose พร้อมส่งทันที ไม่ต้องรอพรีออเดอร์ ของแท้ 100% ราคาดีที่สุด จัดส่งไวให้ถึงหน้าบ้าน สั่งซื้อได้ที่ Line Official : @winecellar24 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับ Dom Perignon Rose ที่มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ควรได้รับการเสิร์ฟ การดื่ม การจับคู่อาหาร และการเก็บรักษาอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้นักดื่มได้สัมผัสถึงความหรูหรา และเสน่ห์ที่ผู้ผลิตตั้งใจถ่ายทอดออกมาได้อย่างแท้จริง ซึ่งในแต่ละขั้นตอนการดื่ม Dom Perignon Rose ที่จะช่วยให้นักดื่มสัมผัสถึงกับเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้อย่างชัดเจน มีดังนี้
วิธีการเสิร์ฟ ควรทำการเสิร์ฟ Dom Perignon Rose ที่อุณหภูมิระหว่าง 8-10 องศาเซลเซียส ถ้าหากเสิร์ฟเย็นเกินไปอาจทำให้กลิ่นหอมถูกบดบัง และถ้าหากเสิร์ฟอุ่นเกินไปอาจทำให้รสสัมผัสหนักเกินไป และฟองไม่ละเอียด และในขณะที่เสิร์ฟนั้นควรทำการรินเบาๆ และเอียงแก้ว 45 องศา เพื่อให้ฟองมีความนุ่มนวล และรักษาความละเอียดของฟองได้อย่างยาวนาน พร้อมกับเลือกใช้แก้วทรงสูง และมีปากแคบ เช่น ทรงฟลูต เพื่อเน้นความละเอียดของฟอง และช่วยรวมกลิ่นให้อยู่ในแก้วอย่างสวยงาม หรือเลือกใช้ Tulip glass หรือแก้วทรงดอกทิวลิปที่มีฐานกว้าง และปากแคบ เพื่อให้กลิ่นมีมิติมากขึ้น
วิธีการดื่ม ควรทำการดื่ม Dom Perignon Rose ที่เริ่มจากการหมุนแก้วเบาๆ และสูดกลิ่นหอมจากแก้ว เพื่อให้กลิ่นผลไม้แดง ดอกไม้ และเครื่องเทศซับซ้อนค่อยๆ เปิดตัวออกมาอย่างชัดเจน หลังจากนั้นให้ทำการจิบทีละเล็กน้อย เพื่อให้แชมเปญสัมผัสกับลิ้นทุกส่วน ที่จะช่วยให้นักดื่มรับรู้ถึงรายละเอียดแต่ละชั้นได้อย่างชัดเจน แล้วจึงค่อยๆ กลืน เพื่อสัมผัสกับการเปลี่ยนแปลงของแชมเปญในแก้วตลอดเวลา และรายละเอียดต่างๆ ที่จะทิ้งท้ายไว้ภายในปากอย่างยาวนาน
วิธีการจับคู่อาหาร ควรทำการจับคู่ Dom Perignon Rose กับอาหารทะเล เช่น หอยนางรมสด กุ้งลวก ปลาทูน่า หรือซาชิมิ เพื่อช่วยขับเน้นความเค็ม และความสดของแชมเปญ หรือจะเป็นเมนูอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อขาว เช่น อกเป็ดย่าง ไก่ย่าง หรือไก่ตุ๋น เป็นต้น รวมถึงเมนูอาหารเอเชีย เช่น ซูชิ อาหารญี่ปุ่นเมนูต่างๆ หรือเมนูอาหารไทยที่ไม่เผ็ดจัด เช่น ปูนิ่มทอดกรอบ หรือยำกุ้งสดเปรี้ยวหวาน เป็นต้น หรือจะเป็นเมนูที่มีส่วนประกอบของชีส หรือเมนูของหวานที่มีส่วนประกอบของผลไม้ ก็สามารถเข้ากันได้เป็นอย่างดี
วิธีการเก็บรักษา ครวรทำการเก็บรักษา Dom Perignon Rose ไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิคงที่ประมาณ 10-12 องศาเซลเซียส มีความชื้นอยู่ที่ประมาณ 70% หลีกเลี่ยงแสงแดด และแสงไฟโดยตรง เนื่องจาก UV จะทำลายรสชาติ และกลิ่นของแชมเปญได้ พร้อมกับวางขวดในแนวนอน เพื่อให้ไวน์สัมผัสกับจุกคอร์กอยู่เสมอ ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้จุกคอร์กแห้ง และอากาศรั่วเข้าไป ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้แชมเปญเกิดการเสื่อมสภาพ และถ้าหากไม่มีห้องเก็บไวน์ ให้ห้ใช้ตู้เย็นแชมเปญโดยเฉพาะที่สามารถควบคุมอุณหภูมิ และความชื้นได้ และถ้าหากเปิดขวดแล้วดื่มไม่หมด ให้เก็บด้วยจุกสุญญากาศ และดื่มให้หมดให้เร็วที่สุด เพื่อสัมผัสถึงคุณภาพที่ดีของแชมเปญได้อย่างเต็มที่
สำหรับนักดื่มที่กำลังอยากจะซื้อ Dom Perignon Rose ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Cellar BKK แหล่งนำเข้า และแหล่งจำหน่ายเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีบริการแอดมินให้คำแนะนำสินค้าอย่างมืออาชีพ อยากได้ไวน์ที่มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน หรืออยากได้เครื่องดื่มประเภทอื่นๆ อยากได้ยี่ห้อไหนเป็นพิเศษ มีงบประมาณเท่าไหร่ ซื้อดื่มเอง หรือซื้อเป็นของขวัญ ก็สามารถแจ้งแอดมินได้ เพื่อให้แอดมินแนะนำเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์กับความต้องการของนักดื่มมากที่สุด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้เลยที่
Website : www.winecellarbkk.com หรือ คลิก ที่นี่
โดยที่ Wine Cellar BKK มีเครื่องดื่มให้นักดื่มได้เลือกสรรกันหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นไวน์แดง ไวน์ขาว แชมเปญ สปาร์คกลิ้งไวน์ คอนญัก วิสกี้ หรือเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีให้เลือกซื้อกันอย่างครบครัน การันตีสินค้าทุกขวดเป็นของแท้ 100% ผ่านการคัดสรรเครื่องดื่มทุกขวดด้วยความใส่ใจ เพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่มีคุณภาพ และมาตรฐาน และการันตีว่าจำหน่ายในราคาดีที่สุดในตลาด เพื่อจำหน่ายเครื่องดื่มพรีเมียมในราคาสบายกระเป๋า และให้นักดื่มเข้าถึงเครื่องดื่มขวดโปรดได้ในราคาย่อมเยา มาพร้อมกับบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงหน้าบ้าน ที่มีให้นักดื่มได้เลือกใช้ทั้งบริการจัดส่งสินค้าด่วนภายในกทม. ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง และบริการจัดส่งสินค้าทั่วประเทศ ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 1-2 วัน สามารถสั่งซื้อเครื่องดื่มกับ Wine Cellar BKK ได้ง่ายๆ ทุกที่ ทุกเวลา แพ็คสินค้าทุกออเดอร์เป็นอย่างดี มีการรับประกันสินค้าระหว่างการจัดส่ง หากสินค้าได้รับความเสียหาย แตก หัก หรืออยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ที่เกิดจากการจัดส่ง ทางร้านยินดีเปลี่ยนเครื่องดื่มเป็นขวดใหม่ให้ทันที แบบไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อสร้างความประทับใจในการเลือกซื้อไวน์กับเราตลอดการบริการ
Thanks for subscribing!
This email has been registered!