Couldn't load pickup availability
- Free standard shipping on orders over 10,000 THB
You may return most new, unopened items within 30 days of delivery for a full refund. We'll also pay the return shipping costs if the return is a result of our error (you received an incorrect or defective item, etc.).
You should expect to receive your refund within four weeks of giving your package to the return shipper, however, in many cases you will receive a refund more quickly. This time period includes the transit time for us to receive your return from the shipper (5 to 10 business days), the time it takes us to process your return once we receive it (3 to 5 business days), and the time it takes your bank to process our refund request (5 to 10 business days).
If you need to return an item, simply login to your account, view the order using the "Complete Orders" link under the My Account menu and click the Return Item(s) button. We'll notify you via e-mail of your refund once we've received and processed the returned item.
ถ้าหากนักดื่มคนไหนกำลังมองหาสก็อตช์วิสกี้ที่ให้ความนุ่มนวล หอมหวาน และมีมิติของความกลมกล่อมที่ลงตัว “Chivas Regal 12 Years” คือ หนึ่งในตัวเลือกที่ครองใจผู้หลงใหลในสก็อตช์วิสกี้ทั่วโลกมานานหลายทศวรรษ ด้วยความเป็นวิสกี้เบลนด์ระดับพรีเมียมที่ผ่านการบ่มอย่างน้อย 12 ปี ทำให้ Chivas Regal 12 Years มีรสชาติที่นุ่มลึก และมีความหรูหราอันเป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากวิสกี้ทั่วไป
โดย Chivas Regal 12 Years ไม่เพียงแค่เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของศิลปะการผสมผสานวิสกี้ที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งรังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันจากมอลต์วิสกี้ และเกรนวิสกี้คุณภาพเยี่ยมจากภูมิภาคสเปย์ไซด์ (Speyside) ของสก็อตแลนด์ โดยเฉพาะการใช้มอลต์จาก Strathisla Distillery โรงกลั่นที่เก่าแก่ที่สุดของ Highland Speyside ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของรสชาติในทุกขวดของชิวาส
ซึ่งชื่อของ Chivas Regal ไม่ได้เพียงสื่อถึงความหรูหรา และความคลาสสิกเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของการกลั่นวิสกี้จากยุคศตวรรษที่ 19 ซึ่งถูกยกย่องในระดับนานาชาติ และกลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ถูกเลือกสำหรับงานเลี้ยงสุดพิเศษของราชวงศ์ และชนชั้นสูงทั่วโลก
ดังนั้น ในบทความนี้ทาง Wine Cellar BKK ก็จะพานักดื่มทุกคนไปทำความรู้จักกับเรื่องราวเบื้องหลังของ Chivas Regal 12 Years ตั้งแต่จุดเริ่มต้น การพัฒนาแบรนด์ ความโดดเด่นทางรสชาติ ตลอดจนจุดเปลี่ยนที่ทำให้ชิวาสกลายเป็นหนึ่งในวิสกี้ระดับโลกที่ไม่มีใครลืม รวมถึงมีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน พร้อมแนะนำเทคนิคในการดื่มแบบง่ายๆ โดยจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง สามารถติดตามกันได้เลย
“Chivas Regal 12 Years” คือ วิสกี้ที่มีต้นกำเนิดจากสก็อตแลนด์ ภายใต้แบรนด์ “Chivas Brothers” ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีความเก่าแก่ และทรงอิทธิพลมากที่สุดในวงการวิสกี้ระดับโลก โดยมีประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ช่วงต้นของศตวรรษที่ 19 และเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของความหรูหรา ความละเอียดอ่อน และคุณภาพที่สืบทอดต่อเนื่องมายาวนานกว่า 200 ปี
โดยเรื่องราวของ Chivas Regal เริ่มต้นขึ้นที่เมืองอเบอร์ดีน ประเทศสก็อตแลนด์ ในปี ค.ศ. 1801 เมื่อสองพี่น้อง James และ John Chivas ได้ก่อตั้งกิจการร้านขายของชำระดับพรีเมียมที่จำหน่ายสินค้าให้กับกลุ่มชนชั้นสูงของสก็อตแลนด์ รวมถึงอาหารหรูหรา ชา กาแฟ และสุราชั้นดี ด้วยความตั้งใจที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้า พี่น้องชิวาสจึงเริ่มทดลองผสมวิสกี้หลายชนิดเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างรสชาติที่นุ่มละมุน และกลมกล่อมกว่าวิสกี้ที่ขายกันในสมัยนั้น ซึ่งการผสมนี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของศิลปะการเบลนด์วิสกี้ของ Chivas Brothers และชื่อ “Chivas Regal” ปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดย “Chivas” มาจากนามสกุลของสองพี่น้องผู้ผลิต และ “Regal” หมายถึง “ราชวงศ์” ซึ่งสะท้อนถึงความสง่างาม และระดับชั้นสูงของแบรนด์ และในปี ค.ศ. 1909 วิสกี้ Chivas Regal รุ่นแรกได้เปิดตัวที่สหรัฐอเมริกาในรูปแบบของเบลนด์อายุ 25 ปี ซึ่งถือว่าเป็นวิสกี้เบลนด์ที่เก่าแก่มากที่สุดในตลาดในเวลานั้น
ส่วน Chivas Regal 12 Years ที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน ได้เปิดตัวในช่วงประมาณปี 1950 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง และเริ่มได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในระดับสากล เนื่องจากมีรสชาติที่เข้าถึงง่าย นุ่มนวล ไม่แรงจนเกินไป ทำให้เหมาะสำหรับนักดื่มมือใหม่ และผู้ที่ชื่นชอบวิสกี้ระดับพรีเมียม และจุดเด่นของ Chivas Regal 12 Years นั้นอยู่ตรงที่เป็นเบลนด์วิสกี้ที่ประกอบด้วยมอลต์วิสกี้ และเกรนวิสกี้มากกว่า 20 ชนิด โดยทั้งหมดผ่านการบ่มไม่น้อยกว่า 12 ปี อีกทั้งยังมีการใช้มอลต์จากโรงกลั่น Strathisla ซึ่งเป็นโรงกลั่นวิสกี้ที่เก่าแก่ที่สุดในสก็อตแลนด์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1786 ซึ่งให้กลิ่นหอมของน้ำผึ้ง แอปเปิ้ลแดง ดอกไม้ และวานิลลา ประกอบกับรสสัมผัสที่นุ่มลึก มีความบาลานซ์ระหว่างความหวาน และความอบอุ่นของโอ๊กจากถังไม้
นอกจากนั้นหนึ่งในจุดเปลี่ยนที่สำคัญของ Chivas Regal คือ การควบรวมกิจการกับบริษัท Seagram ในช่วงศตวรรษที่ 20 และต่อมาถูกซื้อกิจการโดย Pernod Ricard ยักษ์ใหญ่ของวงการเครื่องดื่มจากฝรั่งเศสในปี 2001 ซึ่งช่วยขยายตลาดและการกระจายสินค้าของแบรนด์ Chivas ไปทั่วโลก และอีกจุดเปลี่ยนที่สำคัญ คือการเปิดตัวแคมเปญโฆษณาที่มุ่งเน้นภาพลักษณ์ของ “Modern Gentleman” และความสง่างามในศตวรรษที่ 21 ซึ่งช่วยเสริมสร้างให้แบรนด์กลายเป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ โดยยังคงเอกลักษณ์ของความคลาสสิกไว้อย่างไม่เสื่อมคลาย ดังนั้น Chivas Regal 12 Years จึงไม่ใช่แค่วิสกี้ที่รังสรรค์จากศิลปะแห่งการเบลนด์เท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของมรดกทางวัฒนธรรมของสก็อตแลนด์ ที่สามารถปรับตัวเข้าสู่ยุคใหม่ได้อย่างสง่างาม ด้วยรสชาติที่ลงตัว ประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ และความตั้งใจในการรักษาคุณภาพที่ไม่มีวันเปลี่ยน
สำหรับกระบวนการผลิตของ Chivas Regal 12 Years ถือเป็นศิลปะแห่งการผสมผสานที่เปี่ยมด้วยความประณีต และการเลือกสรรอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้วิสกี้ที่มีความกลมกล่อม สัมผัสนุ่มนวล และรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ชั้นนำจากสกอตแลนด์ โดยในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการผลิต Chivas Regal 12 Years นั้นก็จะมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
การคัดเลือกวัตถุดิบคุณภาพสูง เริ่มต้นการผลิต Chivas Regal 12 Years ด้วยการเลือกข้าวบาร์เลย์คุณภาพเยี่ยม น้ำสะอาดจากแหล่งธรรมชาติในพื้นที่ Speyside และยีสต์สายพันธุ์เฉพาะที่ช่วยในการหมักอย่างมีประสิทธิภาพ
การผลิตมอลต์ เป็นขั้นตอนที่จะนำข้าวบาร์เลย์ไปแช่น้ำ เพื่อกระตุ้นให้เริ่มงอก แล้วนำไปอบแห้งในเตาเผาด้วยความร้อนต่ำ เพื่อรักษาเอนไซม์สำคัญไว้ ซึ่งมีบทบาทในการแปรสภาพแป้งเป็นน้ำตาลในขั้นตอนต่อไป
การบดและต้ม เป็นขั้นตอนที่ข้าวบาร์เลย์ที่กลายเป็นมอลต์แล้วจะถูกบดละเอียด แล้วผสมน้ำร้อนเพื่อสกัดน้ำตาลออกมา ซึ่งจะกลายเป็นของเหลวที่เรียกว่า “วอร์ท” และเมื่อได้แล้ว ก็จะนำเข้าสู่การหมักในขั้นตอนถัดไป
การหมัก สำหรับวอร์ทที่ได้นั้นจะถูกส่งเข้าสู่ถังหมักที่ทำจากไม้สน โดยเติมยีสต์เพื่อทำให้เกิดกระบวนการหมักนานประมาณ 48-60 ชั่วโมง จนได้ของเหลวที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ประมาณ 8% ซึ่งเรียกว่า “วอช”
การกลั่น สำหรับวอชที่ได้นั้นจะถูกนำไปกลั่นสองครั้งด้วยหม้อทองแดง หรือ Copper Pot Still เพื่อแยกสารประกอบที่ไม่พึงประสงค์ออกไป และคงไว้แต่แอลกอฮอล์บริสุทธิ์ และกลิ่นรสที่มีคุณภาพสูง เพื่อให้เหมาะกับการนำไปบ่มในขั้นตอนถัดไป
การบ่ม สำหรับแอลกอฮอล์ที่ได้จะถูกบรรจุลงในถังไม้โอ๊คอเมริกัน และถังเชอร์รี (Sherry casks) เพื่อบ่มอย่างน้อย 12 ปี และกระบวนการนี้จะช่วยให้วิสกี้ดูดซึมกลิ่นจากเนื้อไม้ เพิ่มความนุ่มลึก ความกลมกล่อม และความหอมหวานอ่อนๆ มาอย่างเต็มที่
การผสม และบรรจุขวด เป็นขั้นตอนที่เป็นหัวใจสำคัญของ Chivas Regal 12 Years โดยขั้นตอนนี้จะทำการการผสมวิสกี้เกรน และมอลต์จากหลายแหล่งใน Speyside อย่างมีศิลปะโดย Master Blender ของ Chivas เพื่อให้ได้รสชาติที่คงที่ และมีมาตรฐานในทุกขวด และเมื่อผสมแล้ว จะทำการบรรจุขวดอย่างพิถีพิถัน และส่งมอบต่อให้กับนักดื่มทั่วโลก
สำหรับ Chivas Regal 12 Years เป็นสก็อตช์วิสกี้ประเภท Blended Scotch Whisky ที่มีความโดดเด่นในเรื่องความนุ่มนวล และกลมกล่อม ที่หลอมรวมกันอย่างลงตัวมาจากวิสกี้มอลต์ และเกรนหลากหลายชนิดที่ถูกบ่มอย่างน้อย 12 ปี จนได้โปรไฟล์ที่ซับซ้อนแต่เข้าถึงง่าย ทำให้เวลาดื่มนั้นนักดื่มจะสามารถสัมผัสได้ถึงรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่มีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
กลิ่น (Aroma) สำหรับกลิ่นของ Chivas Regal 12 Years นั้นจะมีความหอมหวานนำด้วยวานิลลาอ่อนๆ รวมถึงกลิ่นแอปเปิลสุก กล้วยหอม และน้ำผึ้ง ผสมกับกลิ่นมอลต์ที่อบอุ่น และกลิ่นไม้โอ๊คอ่อนๆ จากถังบ่ม ปิดท้ายด้วยกลิ่นเครื่องเทศบางๆ เช่น อบเชย และลูกจันทน์ ซึ่งให้ความรู้สึกอบอุ่น และชวนดื่มตั้งแต่สัมผัสแรก
รสชาติ (Flavor) สำหรับรสชาติของ Chivas Regal 12 Years นั้นจะรับรู้ได้ถึงความนุ่มละมุนทันทีที่ดื่ม โดยรสชาติหลักจะประกอบด้วยผลไม้สุก เช่น แอปเปิ้ลแดง ลูกพีช และลูกแพร์ ตามด้วยรสวานิลลา คาราเมล และน้ำผึ้ง ซึ่งให้ความรู้สึกหวานกลมกล่อม มีความสมดุลดีระหว่างความหวานกับสัมผัสของไม้โอ๊คที่เพิ่มมิติของรสชาติให้มากยิ่งขึ้น
รสสัมผัส (Mouthfeel) สำหรับรสสัมผัสของ Chivas Regal 12 Years นั้นจะมีเนื้อสัมผัสนุ่มนวล ลื่นไหล ไม่บาดคอ เป็นวิสกี้ที่ดื่มง่าย เหมาะทั้งสำหรับผู้เริ่มต้น และนักดื่มมือเก๋า อีกทั้งรสสัมผัสหลังกลืนยังมีความยาวปานกลาง อบอวลด้วยกลิ่นโอ๊คแห้ง ผสมผสานกับโน้ตของเครื่องเทศอ่อนๆ และวานิลลา ช่วยให้ดื่มแล้วอยากดื่มซ้ำ
ด้วยองค์ประกอบของรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของ CHIVAS REGAL 12 Years ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร และสะท้อนถึงกลิ่นอายของสก็อตช์วิสกี้ได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ CHIVAS REGAL 12 Years เป็นอีกหนึ่งวิสกี้ที่เป็นที่นิยมของนักดื่มวิสกี้ทั่วโลก ดังนั้น ถ้าหากนักดื่มคนไหนอยากจะสัมผัสถึงความพรีเมียม และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ CHIVAS REGAL 12 Years ในราคาสบายกระเป๋า ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Celler BKK ที่มี CHIVAS REGAL 12 Years พร้อมส่งทันที ไม่ต้องรอพรีออเดอร์ ของแท้ 100% ราคาดีที่สุด จัดส่งไวให้ถึงหน้าบ้าน สั่งซื้อได้ที่ Line Official : @winecellar24 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับการดื่ม Chivas Regal 12 Years ให้ได้รสชาติที่ดีที่สุดนั้นขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ และประสบการณ์ในการดื่มของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่โลกของวิสกี้ หรือเป็นสายดื่มที่มีความชำนาญแล้ว แต่ถ้าหากนักดื่มอยากจะดื่ม Chivas Regal 12 Years ให้สัมผัสถึงเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ ต้องห้ามพลาดเทคนิคต่างๆ ดังนี้
วิธีการเสิร์ฟ สำหรับการเสิร์ฟ Chivas Regal 12 Years สามารถเสิร์ฟได้หลายรูปแบบตามความชอบ แต่หากต้องการสัมผัสความพรีเมียมอย่างเต็มรูปแบบ แนะนำดังนี้
ดื่มแบบ Neat (ไม่ผสมน้ำ แข็งหรือน้ำ) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสรสชาติแท้จริงของวิสกี้ทุกมิติ ควรใช้แก้วทรง tulip หรือ Glencairn เพื่อรวมกลิ่นไว้ตรงกลาง ช่วยให้จมูกได้กลิ่นมากที่สุด และเน้นการจิบช้าๆ เพื่อรับรู้ทุกชั้นของรสชาติ และกลิ่น
ดื่มแบบ On the Rocks (ใส่น้ำแข็ง) เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดความเข้มของแอลกอฮอล์ และเพิ่มความสดชื่น โดยเฉพาะในอากาศร้อน น้ำแข็งจะช่วยค่อยๆ เปิดรสชาติใหม่ๆ ในแต่ละการละลาย และเพิ่มความนุ่มให้วิสกี้อีกระดับด้วย
เติมน้ำเล็กน้อย เป็นวิธีที่จะเติมน้ำสะอาดประมาณ 1-2 หยด และเป็นเทคนิคที่ช่วยเปิดกลิ่นของวิสกี้ออกมาได้มากขึ้น โดยเฉพาะกลิ่นผลไม้ และกลิ่นไม้โอ๊ค เหมาะสำหรับคนที่ชอบรสชาติชัดเจน แต่ไม่ต้องการความแรงเกินไป
ผสมเป็นค็อกเทล สำหรับ Chivas Regal 12 Years สามารถนำไปใช้เป็นเบสของค็อกเทลชั้นดีได้อย่างหลากหลาย เช่น Whisky Sour, Old Fashioned หรือ Highball เพื่อเพิ่มความซับซ้อนของรสชาติให้กับเครื่องดื่มมากขึ้น
วิธีการดื่ม ควรทำการการดื่ม Chivas Regal 12 Years ที่เริ่มจากการสูดกลิ่นเบาๆ เพื่อสัมผัสกลิ่นหอมของน้ำผึ้ง วานิลลา และไม้โอ๊ก ก่อนจะจิบช้าๆ และกลั้วเบาๆ ในปาก เพื่อให้วิสกี้สัมผัสกับทุกส่วนของลิ้น แล้วค่อยๆ กลืนลงไป พร้อมรับรู้รสหวานกลมกล่อมที่ตามมาด้วยรสคาราเมล แอปเปิ้ลแดง และกลิ่นโอ๊กอ่อนๆ ที่อบอวลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเทคนิคนี้จะช่วยให้นักดื่มได้ดื่มด่ำกับวิสกี้ในแบบที่ผู้ผลิตตั้งใจถ่ายทอดอย่างแท้จริง
วิธีการจับคู่อาหาร ถึงแม้ Chivas Regal 12 Years จะสามารถดื่มเดี่ยวๆ ได้อย่างกลมกล่อม แต่ก็สามารถจับคู่กับอาหารได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเมนูที่มีส่วนประกอบของชีสเนื้อแข็ง เช่น ชีสเชดดาร์ และชีสกรุยแยร์ หรือเมนูที่มีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์ เช่น สเต็ก บาร์บีคิว เป็ดรมควัน แฮม เบคอน หรือเมนูเนื้อสัตว์ย่างต่างๆ รวมถึงเมนูของหวานอย่างช็อกโกแลตดาร์ก หรือพุดดิ้งคาราเมล ก็สามารถเข้ากันได้เป็นอย่างดี
วิธีการเก็บรักษา ควรทำการเก็บรักษา Chivas Regal 12 Years ไว้ในที่แห้ง อุณหภูมิคงที่ ไม่ให้โดนแสงแดด หรือแหล่งความร้อนโดยตรง โดยเฉพาะควรหลีกเลี่ยงการวางไว้ในที่ชื้น หรือบริเวณที่มีความร้อนสูงอย่างใกล้เตาไฟ และหลังเปิดขวดแล้ว วางขวดไว้ในแนวตั้งเสมอ ควรปิดฝาให้สนิท และพยายามไม่ให้มีอากาศเข้าไปมากเกินไป เพราะอาจทำให้รสชาติเปลี่ยนเร็วขึ้น ถ้าเก็บรักษาอย่างเหมาะสม วิสกี้สามารถคงความหอม และรสชาติไว้ได้นานหลายเดือน หรือเป็นปี
สำหรับนักดื่มที่กำลังอยากจะซื้อ CHIVAS REGAL 12 Years ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Cellar BKK แหล่งนำเข้า และแหล่งจำหน่ายเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีบริการแอดมินให้คำแนะนำสินค้าอย่างมืออาชีพ อยากได้ไวน์ที่มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน หรืออยากได้เครื่องดื่มประเภทอื่นๆ อยากได้ยี่ห้อไหนเป็นพิเศษ มีงบประมาณเท่าไหร่ ซื้อดื่มเอง หรือซื้อเป็นของขวัญ ก็สามารถแจ้งแอดมินได้ เพื่อให้แอดมินแนะนำเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์กับความต้องการของนักดื่มมากที่สุด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้เลยที่
Website : www.winecellarbkk.com หรือ คลิก ที่นี่
โดยที่ Wine Cellar BKK มีเครื่องดื่มให้นักดื่มได้เลือกสรรกันหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นไวน์แดง ไวน์ขาว แชมเปญ สปาร์คกลิ้งไวน์ คอนญัก วิสกี้ หรือเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีให้เลือกซื้อกันอย่างครบครัน การันตีสินค้าทุกขวดเป็นของแท้ 100% ผ่านการคัดสรรเครื่องดื่มทุกขวดด้วยความใส่ใจ เพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่มีคุณภาพ และมาตรฐาน และการันตีว่าจำหน่ายในราคาดีที่สุดในตลาด เพื่อจำหน่ายเครื่องดื่มพรีเมียมในราคาสบายกระเป๋า และให้นักดื่มเข้าถึงเครื่องดื่มขวดโปรดได้ในราคาย่อมเยา มาพร้อมกับบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงหน้าบ้าน ที่มีให้นักดื่มได้เลือกใช้ทั้งบริการจัดส่งสินค้าด่วนภายในกทม. ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง และบริการจัดส่งสินค้าทั่วประเทศ ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 1-2 วัน สามารถสั่งซื้อเครื่องดื่มกับ Wine Cellar BKK ได้ง่ายๆ ทุกที่ ทุกเวลา แพ็คสินค้าทุกออเดอร์เป็นอย่างดี มีการรับประกันสินค้าระหว่างการจัดส่ง หากสินค้าได้รับความเสียหาย แตก หัก หรืออยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ที่เกิดจากการจัดส่ง ทางร้านยินดีเปลี่ยนเครื่องดื่มเป็นขวดใหม่ให้ทันที แบบไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อสร้างความประทับใจในการเลือกซื้อไวน์กับเราตลอดการบริการ
Thanks for subscribing!
This email has been registered!