Couldn't load pickup availability
- Free standard shipping on orders over 10,000 THB
You may return most new, unopened items within 30 days of delivery for a full refund. We'll also pay the return shipping costs if the return is a result of our error (you received an incorrect or defective item, etc.).
You should expect to receive your refund within four weeks of giving your package to the return shipper, however, in many cases you will receive a refund more quickly. This time period includes the transit time for us to receive your return from the shipper (5 to 10 business days), the time it takes us to process your return once we receive it (3 to 5 business days), and the time it takes your bank to process our refund request (5 to 10 business days).
If you need to return an item, simply login to your account, view the order using the "Complete Orders" link under the My Account menu and click the Return Item(s) button. We'll notify you via e-mail of your refund once we've received and processed the returned item.
Chateau Lafleur คือ หนึ่งในไวน์ที่มีชื่อเสียงจากแคว้นบอร์กโดซ์ของฝรั่งเศส โดยเฉพาะจากเขต Pomerol ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของไวน์แดงที่ทรงพลัง และซับซ้อนอย่างลึกซึ้ง และ Chateau Lafleur ถือเป็นไวน์ที่นักสะสมทั่วโลกต่างใฝ่ฝัน เนื่องจากทั้งหายาก มีจำนวนการผลิตจำกัด และยังคงคุณภาพอันยอดเยี่ยมสืบทอดต่อเนื่องยาวนานกว่าศตวรรษ
โดยสิ่งที่ทำให้ Chateau Lafleur แตกต่างจากไร่องุ่นอื่นๆ ใน Pomerol คือ ปรัชญาแห่ง “ความสมดุล” ระหว่างพันธุ์องุ่น Merlot และ Cabernet Franc ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ไม่ใช่เพียงแค่ให้รสชาติกลมกล่อม แต่ยังสร้างเอกลักษณ์ที่มีทั้งความนุ่มลึก และความเข้มข้นในขวดเดียว อีกทั้งไร่องุ่นของ Chateau Lafleur ยังมีพื้นที่เล็กเพียงไม่กี่เฮกตาร์ ทำให้การผลิตแต่ละปีมีจำนวนน้อยมาก ส่งผลให้หายาก และมีคุณค่าในเชิงสะสมสูงขึ้น
ด้วยความหายาก ความละเอียดในการผลิต และมาตรฐานที่ยืนหยัดมานาน Chateau Lafleur จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดไวน์ระดับโลก ที่ไม่เพียงสะท้อนถึงฝีมือและความพิถีพิถันของผู้ผลิต แต่ยังสะท้อนถึงประวัติศาสตร์อันล้ำค่าของ Pomerol อย่างแท้จริง
ดังนั้น ในบทความนี้ทาง Wine Cellar BKK ก็จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ Chateau Lafleur ว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน ทำไมถึงเป็นที่นิยมของเหล่านักดื่มมาอย่างยาวนาน พร้อมแชร์เทคนิคในการดื่มแบบง่ายๆ ที่ช่วยให้สัมผัสถึงกลิ่นอายของไวน์โลกเก่าได้อย่างเต็มที่ โดยจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง สามารถติดตามกันได้เลย
Chateau Lafleur ก่อตั้งขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 โดยครอบครัว Greloud ซึ่งเป็นชาวไร่ในเขต Pomerol จุดเริ่มต้นมาจากไร่องุ่นขนาดเล็กเพียงไม่กี่เฮกตาร์เท่านั้น แต่ด้วยความตั้งใจ และความพิถีพิถันในการดูแลทุกกระบวนการ ทำให้ไวน์ที่ผลิตออกมามีคุณภาพโดดเด่นเกินใคร จนเริ่มเป็นที่รู้จักในวงการนักดื่มไวน์ชั้นสูงในฝรั่งเศส
โดยการผลิตครั้งแรกของ Chateau Lafleur เกิดขึ้นประมาณปี ค.ศ. 1870 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานไวน์หายากแห่ง Pomerol และตั้งแต่นั้นมาไวน์ที่มาจาก Lafleur ก็ได้รับการชื่นชมในเรื่องของเอกลักษณ์อันชัดเจน โดยเฉพาะการใช้สัดส่วนองุ่น Merlot และ Cabernet Franc ที่ใกล้เคียงกัน ต่างจาก Chateau Petrus ที่ใช้ Merlot เป็นหลัก ทำให้ Chateau Lafleur มีความซับซ้อน กลมกล่อม และมีเสน่ห์เฉพาะตัว
สำหรับจุดเด่นของ Chateau Lafleur อยู่ที่การผลิตในปริมาณที่ “น้อยแต่ทรงคุณค่า” โดยไร่องุ่นมีพื้นที่เพียงประมาณ 4.5 เฮกตาร์เท่านั้น ส่งผลให้แต่ละวินเทจมีจำนวนจำกัด จึงกลายเป็นไวน์ที่นักสะสม และผู้เชี่ยวชาญต้องการทั่วโลก อีกทั้งไวน์ยังมีอายุการบ่มที่ยาวนาน บางวินเทจสามารถเก็บได้นานกว่า 50 ปี และยิ่งมีคุณภาพสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
และจุดเปลี่ยนสำคัญของ Chateau Lafleur เกิดขึ้นในช่วงปี 1980 เมื่อครอบครัว Guinaudeau เข้ามาดูแลไร่องุ่น และโรงบ่ม ที่พวกเขานำเทคนิคสมัยใหม่เข้ามาผสมผสานกับวิถีการผลิตแบบดั้งเดิม เพื่อรักษามาตรฐาน และคุณภาพให้อยู่ในระดับสูงสุด และสิ่งนี้ก็ได้ทำให้ Chateau Lafleur ก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับไวน์ตำนานอย่าง Chateau Petrus และ Le Pin ในฐานะ “สุดยอดไวน์แห่ง Pomerol”
ดังนั้น ทุกขวดของ Chateau Lafleur จึงไม่ใช่เพียงไวน์ แต่เป็นเรื่องราวของประวัติศาสตร์ ความพิถีพิถัน และความหายากที่รวมกันจนกลายเป็นหนึ่งในไวน์ที่น่าหลงใหลที่สุดของโลก และถ้าหากนักดื่มคนไหนที่อยากจะสัมผัสกลิ่นอายของไวน์แดงฝรั่งเศสแบบพรีเมียมในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ก็สามารถแวะมาหาซื้อ Chateau Lafleur ได้เลยที่ Wine Celler BKK ที่มี Chateau Lafleur พร้อมส่งทันที ไม่ต้องรอพรีออเดอร์ ของแท้ 100% ราคาดีที่สุด จัดส่งไวให้ถึงหน้าบ้าน สั่งซื้อได้ที่ Line Official : @winecellar24 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับกระบวนการผลิต Chateau Lafleur เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความประณีต และความพิถีพิถันอย่างสูงสุด โดยทุกขั้นตอนตั้งแต่การปลูกองุ่นไปจนถึงการบ่ม ล้วนทำด้วยความตั้งใจ เพื่อรักษามาตรฐานอันยอดเยี่ยมของ Chateau Lafleur ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นไวน์ในตำนาน ซึ่งในแต่ละขั้นตอนนั้นก็จะมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
การคัดเลือกพื้นที่ปลูกองุ่น สำหรับไร่องุ่นของ Chateau Lafleur ตั้งอยู่บนพื้นที่เพียง 4.5 เฮกตาร์ ซึ่งถือว่าเล็กมากเมื่อเทียบกับไร่องุ่นอื่นๆ ของบอร์กโดซ์ แต่พื้นที่นี้เต็มไปด้วยดินกรวดผสมดินเหนียวที่เหมาะสมต่อการปลูก Merlot และ Cabernet Franc และความสมดุลของดินช่วยให้รากองุ่นหยั่งลึก และดูดซับแร่ธาตุได้อย่างเต็มที่
การปลูก และดูแลองุ่น สำหรับองุ่นทุกต้นที่ใช้ผลิต Chateau Lafleur นั้นจะได้รับการดูแลแบบ “manual” หรือการดูแลด้วยมือ ไม่ใช้เครื่องจักร เพื่อให้มั่นใจว่าทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างละเอียดอ่อน และชาวไร่จะควบคุมปริมาณผลผลิตต่อกิ่งให้น้อย เพื่อเพิ่มความเข้มข้น และคุณภาพของผลองุ่นแต่ละลูก
การเก็บเกี่ยว สำหรับการเก็บเกี่ยวองุ่นนั้นจะทำด้วยมือทีละพวง เพื่อคัดเลือกเฉพาะองุ่นที่สุกสมบูรณ์ที่สุด โดยจะเก็บแยกกันระหว่าง Merlot และ Cabernet Franc เนื่องจากมีช่วงสุกไม่พร้อมกัน และการเลือกเวลาที่เหมาะสมในการเก็บถือเป็นหัวใจสำคัญของการผลิต Chateau Lafleur ด้วย
การคัดเลือกผลองุ่น หลังจากการเก็บเกี่ยวแล้ว องุ่นจะถูกคัดแยกอย่างพิถีพิถันอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าได้เฉพาะผลที่ดีที่สุดเท่านั้นที่จะถูกนำไปหมักในขั้นตอนถัดไป
การหมัก สำหรับองุ่นที่ผ่านการคัดเลือกจะเข้าสู่กระบวนการหมักในถังสแตนเลสควบคุมอุณหภูมิ เพื่อคงความสด และรักษากลิ่นผลไม้ จากนั้นจะมีการหมักแอลกอฮอล์ และหมักมาลอลแลกติก เพื่อปรับสมดุลความเป็นกรด และความนุ่มนวลของไวน์
การบ่มในถังไม้โอ๊ก สำหรับ Chateau Lafleur นั้นจะใช้ถังไม้โอ๊กฝรั่งเศสคุณภาพสูง โดยมีการบ่มยาวนาน 15-18 เดือน และจะถูกควบคุมอย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มกลิ่นซับซ้อนของวานิลลา ควัน และเครื่องเทศ โดยไม่กลบกลิ่นผลไม้ดั้งเดิม
การบรรจุขวด และพักในโรงบ่ม หลังจากผ่านการบ่ม ไวน์จะถูกบรรจุขวด และพักในโรงบ่มอีกระยะหนึ่งก่อนออกสู่ตลาด เพื่อให้รสชาติ และกลิ่นรวมตัวกันอย่างสมบูรณ์แบบ ก่อนจะถูกส่งต่อสู่มือนักดื่มทั่วโลก
สำหรับ Chateau Lafleur ที่ผ่านกระบวนการผลิตมาอย่างพิถีพิถันนั้นก็จะมีทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีรสชาติ รสสัมผัส กลิ่น และรายละเอียดอื่นๆ ที่แตกต่างจากไวน์แดงรุ่นอื่นๆ ด้วย ซึ่งเวลาที่นักดื่มดื่มนั้นจะสามารถสัมผัสได้ถึงรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
รสชาติ (Flavour) สำหรับรสชาติของ Chateau Lafleur จะมีความเข้มข้น และซับซ้อนเป็นพิเศษ เริ่มต้นด้วยผลไม้สีเข้ม เช่น แบล็คเชอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ และบ๊วย ผสมผสานกับผลไม้แห้งอย่างลูกฟิก และลูกพรุน เสริมด้วยโทนเครื่องเทศอบอุ่น เช่น อบเชย จันทน์เทศ และออลสไปซ์ รวมถึงรสดาร์คช็อกโกแลต และเอสเพรสโซที่ได้จากการบ่มในถังไม้โอ๊ค ทำให้รสชาติโดยรวมมีความสมดุลระหว่างเข้มข้น และความกลมกล่อม พร้อมทั้งมีโทนแร่ธาตุ และดิน ที่เป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ปลูกด้วย
รสสัมผัส (Mouthfeel) สำหรับรสสัมผัสของ Chateau Lafleur นั้นจัดอยู่ในระดับ Full Body มีความเข้มข้นชัดเจน แต่ยังคงความนุ่มละมุน ไม่แข็งกระด้าง แทนนินมีโครงสร้างแน่นละเอียด ให้ความรู้สึกเนียนราวกับผ้าไหม มีความเป็นกรด หรือ Acidity อยู่ในระดับกลาง ช่วยพยุงรสชาติให้สดชื่นมากขึ้น ชัดเจน และมีชีวิตชีวา ทำให้โดยรวมแล้วให้ความรู้สึกกลมกล่อม เคลือบเพดานปากได้ดี และทิ้งความยาวของรสชาติที่ชวนให้ดื่มต่ออย่างยาวนาน
กลิ่น (Aroma) สำหรับกลิ่นของ Chateau Lafleur นั้นจะเปลี่ยนแปลงตามอายุของไวน์ ในช่วงอายุน้อย หรือประมาณ 1-5 ปี จะมีกลิ่นหอมสดชื่นของผลไม้สีเข้ม เช่น ราสป์เบอร์รี แบล็กเชอร์รี และแบล็กเบอร์รี เสริมด้วยกลิ่นดอกไม้ เช่น ไวโอเลต และกุหลาบแห้ง และในช่วงประมาณ 5-15 ปี กลิ่นจะพัฒนาไปเป็นกลิ่นรองจากถังไม้โอ๊ค เช่น วานิลลา ซีดาร์ หนัง และกาแฟคั่ว ส่วนในช่วงที่พัฒนาเต็มที่ประมาณ 15-30 ปี จะเผยกลิ่นที่ลุ่มลึกมากขึ้น เช่น ใบยาสูบ สมุนไพรแห้ง เห็ดป่า และทรัฟเฟิล พร้อมกลิ่นแร่ธาตุ และดินหลังฝนตก ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Pomerol
ด้วยองค์ประกอบของรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของ Chateau Lafleur ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร และสะท้อนถึงกลิ่นอายของไวน์แดงจาก Pomerol ได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ Chateau Lafleur เป็นอีกหนึ่งไวน์แดงที่เป็นที่นิยมของนักดื่มไวน์แดงทั่วโลก ดังนั้น ถ้าหากนักดื่มคนไหนอยากจะสัมผัสถึงความพรีเมียม และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Chateau Lafleur ในราคาสบายกระเป๋า ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Celler BKK ที่มี Chateau Lafleur พร้อมส่งทันที ไม่ต้องรอพรีออเดอร์ ของแท้ 100% ราคาดีที่สุด จัดส่งไวให้ถึงหน้าบ้าน สั่งซื้อได้ที่ Line Official : @winecellar24 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับ Chateau Lafleur ถือว่าเป็นหนึ่งในไวน์แดงระดับตำนานของ Pomerol ที่มีความโดดเด่นทั้งในด้านรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่น ซึ่งสะท้อนถึงเอกลักษณ์ของ Terrior ได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น ถ้าหากนักดื่มต้องการสัมผัสเสน่ห์เฉพาะตัวของไวน์จากไร่องุ่นอันเลื่องชื่อแห่งนี้ ก็ควรให้ความสำคัญกับการเสิร์ฟ การดื่ม การจับคู่อาหาร และการเก็บรักษา เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยดึงกลิ่นอา ยและรายละเอียดของ Chateau Lafleur ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยในแต่ละวิธีนั้นก็จะมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
วิธีการเสิร์ฟ ควรเสิร์ฟ Chateau Lafleur ที่อุณหภูมิ 16-18 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมที่จะช่วยเปิดเผยกลิ่น และรสชาติที่ซับซ้อน ควรทำการดีแคนต์ไวน์ประมาณ 1-3 ชั่วโมงก่อนเสิร์ฟ โดยเฉพาะในวินเทจที่มีอายุน้อย เพื่อช่วยให้ไวน์ได้สัมผัสกับอากาศ ทำให้กลิ่น และรสชาติจะค่อยๆ คลี่ตัวออกมาได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ควรเลือกใช้แก้วไวน์ทรงบอร์กโดซ์ที่มีปากกว้าง และทรงสูง เพื่อให้กลิ่นหอมของไวน์สามารถกระจายออกมาได้อย่างเต็มที่
วิธีการดื่ม ควรทำการดื่ม Chateau Lafleur ที่เริ่มต้นด้วยการหมุนแก้วเบาๆ เพื่อให้กลิ่นไวน์ฟุ้งกระจาย หลังจากนั้นให้จิบช้าๆ ทีละน้อย ปล่อยให้ไวน์สัมผัสทุกส่วนในช่องปาก เพื่อดึงรสชาติของผลไม้ เครื่องเทศ และแทนนินออกมาอย่างชัดเจน และการกลืนไวน์ควรทำอย่างช้าๆ เพื่อสัมผัสความยาวของรสชาติ และรายละเอียดที่ค่อยๆ ทิ้งท้ายอยู่ในปาก ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Chateau Lafleur
วิธีการจับคู่อาหาร ควรทำการจับคู่ Chateau Lafleur กับอาหารที่มีรสชาติเข้มข้น และมีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์ เช่น สเต็กเนื้อริบอาย เนื้อแกะย่างสมุนไพร หรือเป็ดอบไวน์แดง รวมถึงอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม เช่น ฟัวกราส์ ไก่ตุ๋นไวน์แดง หรือสตูว์เนื้อแบบบูร์กอญง นอกจากนี้ยังสามารถเข้ากันได้ดีกับชีสที่มีกลิ่นแรงอย่างบลูชีส หรือชีสแข็งอย่างพาร์เมซาน รวมถึงอาหารไทยที่ควรเลือกเมนูที่ไม่เผ็ดจัด เช่น มัสมั่นเนื้อ เนื้ออบซอสไวน์ หรือหมูฮ้อง ที่จะช่วยเสริมรสชาติของไวน์ให้เด่นชัดยิ่งขึ้น
วิธีการเก็บรักษา ควรเก็บ Chateau Lafleur ไว้ในที่มืด อุณหภูมิคงที่ระหว่าง 12-15 องศาเซลเซียส และมีความชื้นประมาณ 70–75% หลีกเลี่ยงการกระทบแสงแดด หรือแสงไฟแรงๆ และควรจัดเก็บในแนวนอน เพื่อให้จุกคอร์กสัมผัสกับไวน์ตลอดเวลา ป้องกันการแห้ง และการรั่วซึมของอากาศ หากเปิดขวดแล้ว ควรดื่มให้หมดภายใน 2-3 วัน เพื่อรักษาคุณภาพ แต่หากยังไม่เปิด ไวน์สามารถเก็บไว้ได้ยาวนาน 20–30 ปี หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพการเก็บรักษา
สำหรับนักดื่มที่กำลังอยากจะซื้อ Chateau Lafleur ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Cellar BKK แหล่งนำเข้า และแหล่งจำหน่ายเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีบริการแอดมินให้คำแนะนำสินค้าอย่างมืออาชีพ อยากได้ไวน์ที่มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน หรืออยากได้เครื่องดื่มประเภทอื่นๆ อยากได้ยี่ห้อไหนเป็นพิเศษ มีงบประมาณเท่าไหร่ ซื้อดื่มเอง หรือซื้อเป็นของขวัญ ก็สามารถแจ้งแอดมินได้ เพื่อให้แอดมินแนะนำเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์กับความต้องการของนักดื่มมากที่สุด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้เลยที่
Website : www.winecellarbkk.com หรือ คลิก ที่นี่
โดยที่ Wine Cellar BKK มีเครื่องดื่มให้นักดื่มได้เลือกสรรกันหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นไวน์แดง ไวน์ขาว แชมเปญ สปาร์คกลิ้งไวน์ คอนญัก วิสกี้ หรือเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีให้เลือกซื้อกันอย่างครบครัน การันตีสินค้าทุกขวดเป็นของแท้ 100% ผ่านการคัดสรรเครื่องดื่มทุกขวดด้วยความใส่ใจ เพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่มีคุณภาพ และมาตรฐาน และการันตีว่าจำหน่ายในราคาดีที่สุดในตลาด เพื่อจำหน่ายเครื่องดื่มพรีเมียมในราคาสบายกระเป๋า และให้นักดื่มเข้าถึงเครื่องดื่มขวดโปรดได้ในราคาย่อมเยา มาพร้อมกับบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงหน้าบ้าน ที่มีให้นักดื่มได้เลือกใช้ทั้งบริการจัดส่งสินค้าด่วนภายในกทม. ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง และบริการจัดส่งสินค้าทั่วประเทศ ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 1-2 วัน สามารถสั่งซื้อเครื่องดื่มกับ Wine Cellar BKK ได้ง่ายๆ ทุกที่ ทุกเวลา แพ็คสินค้าทุกออเดอร์เป็นอย่างดี มีการรับประกันสินค้าระหว่างการจัดส่ง หากสินค้าได้รับความเสียหาย แตก หัก หรืออยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ที่เกิดจากการจัดส่ง ทางร้านยินดีเปลี่ยนเครื่องดื่มเป็นขวดใหม่ให้ทันที แบบไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อสร้างความประทับใจในการเลือกซื้อไวน์กับเราตลอดการบริการ
6. สนใจรับ Chateau Lafleur ราคาดีที่สุด การันตีของแท้ 100% พร้อมส่งทันที สั่งได้เลย > ที่นี่
7. ดูสินค้าไวน์แดงรุ่นอื่นๆ ที่ Wine Cellar BKK มีจำหน่าย คลิก > ที่นี่
Thanks for subscribing!
This email has been registered!