Free standard shipping on orders over 10,000 THB
Couldn't load pickup availability
- Free standard shipping on orders over 10,000 THB
You may return most new, unopened items within 30 days of delivery for a full refund. We'll also pay the return shipping costs if the return is a result of our error (you received an incorrect or defective item, etc.).
You should expect to receive your refund within four weeks of giving your package to the return shipper, however, in many cases you will receive a refund more quickly. This time period includes the transit time for us to receive your return from the shipper (5 to 10 business days), the time it takes us to process your return once we receive it (3 to 5 business days), and the time it takes your bank to process our refund request (5 to 10 business days).
If you need to return an item, simply login to your account, view the order using the "Complete Orders" link under the My Account menu and click the Return Item(s) button. We'll notify you via e-mail of your refund once we've received and processed the returned item.
“Beringer Knight Valley” เป็นหนึ่งในไวน์แดงคุณภาพระดับพรีเมียมจากแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ผสมผสานระหว่างประเพณีเก่าแก่กับเทคโนโลยีการผลิตไวน์สมัยใหม่อย่างลงตัว ด้วยความที่เป็นไวน์จาก Napa Valley ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และมาจากแบรนด์ที่มีอายุมากกว่า 140 ปี ทำให้ Beringer Knight Valley กลายเป็นไวน์ที่ไม่เพียงแค่แสดงถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ และความภาคภูมิใจของวงการไวน์อเมริกันได้เป็นอย่างดี
โดยจุดเด่นของ Beringer Knight Valley อยู่ที่การคัดสรรองุ่นจากไร่องุ่น Knight Valley ซึ่งตั้งอยู่ในโซนที่มีลักษณะภูมิอากาศเย็นกว่าภาคกลางของ Napa Valley ทำให้องุ่นเติบโตอย่างช้าๆ และพัฒนาโครงสร้าง และความสมดุลได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนั้น Beringer ยังเป็นแบรนด์ไวน์เก่าแก่ที่มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1876 และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในระดับสากล จึงทำให้ไวน์รุ่น Knight Valley ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกในปี 1974 เพื่อตอกย้ำความตั้งใจของ Beringer ในการผลิตไวน์แดงที่สะท้อนคุณภาพของแหล่งปลูก Knight Valley อย่างแท้จริง และถือว่าเป็นไวน์อีกรุ่นที่นักดื่มไวน์ตัวจริงไม่ควรพลาด
ดังนั้น ในบทความนี้ทาง Wine Cellar BKK จึงจะพานักดื่มทุกคนมาทำความรู้จักกับ Beringer Knight Valley ว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นเป็นแบบไหน ทำไมถึงครองใจสายดื่มไวน์โลกใหม่มาได้อย่างยาวนาน พร้อมแนะนำเทคนิคการดื่มแบบง่ายๆ ที่ช่วยให้สายดื่มสัมผัสถึงกลิ่นอายของแหลล่งเพาะปลูกอย่าง Knight Valley ได้อย่างเต็มที่ โดยจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง สามารถติดตามกันได้เลย!
“Beringer Vineyards” คือ หนึ่งในชื่อที่เก่าแก่ และมีความน่าเชื่อถือที่สุดของวงการไวน์อเมริกัน โดยมีจุดกำเนิดอยู่ใน Napa Valley แคลิฟอร์เนีย ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1876 โดยสองพี่น้องชาวเยอรมัน Jacob และ Frederick Beringer ผู้มีความหลงใหลในไวน์ และหลังจากอพยพมายังประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาก็ได้ค้นพบว่า Napa Valley มีภูมิอากาศ และดินที่ใกล้เคียงกับไร่องุ่นในเยอรมนี จึงได้ทำการตัดสินใจสร้างไร่องุ่น และโรงหมักไวน์ขึ้นที่นี่ และการผลิตไวน์ครั้งแรกของ Beringer ก็ได้เริ่มขึ้นในปีเดียวกันกับการก่อตั้งบริษัท ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ไวน์ที่เก่าแก่ที่สุดใน Napa Valley ที่ยังดำเนินกิจการอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และสิ่งที่ทำให้ Beringer โดดเด่นตั้งแต่เริ่มต้น คือ การนำความรู้จากยุโรปมาผสมผสานกับทรัพยากรทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ของแคลิฟอร์เนีย ทำให้ไวน์ของพวกเขามีความเป็นเอกลักษณ์
โดยในประวัติศาสตร์อันยาวนานของแบรนด์ Beringer นั้นยังเป็นหนึ่งในไม่กี่ผู้ผลิตไวน์ที่รอดพ้นจากช่วง Prohibition หรือช่วงห้ามจำหน่ายแอลกอฮอล์ในสหรัฐอเมริกา ปี 1920–1933 และช่วยให้แบรนด์ยังคงอยู่ได้ และขยายตัวต่อมาในยุคหลังสงคราม และจุดเปลี่ยนที่สำคัญของแบรนด์ คือ การพัฒนาแนวคิด “Single Vineyard” และ “Appellation-Specific Wines” ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 เพื่อเน้นถึงความแตกต่างของภูมิประเทศในแต่ละแหล่งปลูก ซึ่งนำไปสู่การผลิตไวน์เฉพาะถิ่นอย่าง Knight Valley ขึ้นในปี ค.ศ. 1974
ทำให้ Beringer Knight Valley จึงถือกำเนิดขึ้นจากความตั้งใจในการแสดงถึง terroir ของพื้นที่ Knight’s Valley ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ Napa Valley และได้รับการจัดให้เป็นหนึ่งในเขตการผลิตไวน์ (AVA) ที่สำคัญ ด้วยความเย็นของลมจากมหาสมุทรแปซิฟิกที่พัดผ่านช่องเขา Petaluma Gap ทำให้ผลองุ่นมีลักษณะเฉพาะตัว ที่นำมาผลิตไวน์แล้วจะได้ไวน์ที่มเอกลักษณ์แตกต่างจากไวน์แดงรุ่นอื่นๆ อย่างชัดเจน
ด้วยการผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์อันยาวนาน นวัตกรรมด้านการผลิต และคุณภาพของวัตถุดิบจากไร่องุ่น Knight Valley ทำให้ Beringer Knight Valley กลายเป็นไวน์ที่มีความหมาย และเป็นเครื่องสะท้อนรากฐาน และจิตวิญญาณของไวน์อเมริกันอย่างแท้จริงสำหรับไวน์ Beringer Knight Valley ที่เป็นหนึ่งในไวน์ระดับพรีเมียมจาก Napa Valley ซึ่งได้รับการยอมรับในเรื่องของคุณภาพ ความละเอียดในการผลิต และการแสดงถึงเอกลักษณ์ของแหล่งปลูกองุ่น “Knight’s Valley” ได้อย่างชัดเจน อีกทั้งกระบวนการผลิตของไวน์นี้ได้ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอน ซึ่งในแต่ละขั้นตอนนั้นก็จะมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
การคัดเลือกแหล่งปลูกองุ่น สำหรับกระบวนการผลิต Beringer Knight Valley นั้นเริ่มต้นจากการคัดเลือกแหล่งปลูกองุ่นคุณภาพสูงใน Knight’s Valley ซึ่งตั้งอยู่ระหว่าง Napa และ Sonoma Valley พื้นที่นี้มีภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน อุณหภูมิกลางวันร้อนแต่เย็นในตอนกลางคืน ทำให้เหมาะสมกับการปลูกองุ่น Cabernet Sauvignon และองุ่นพันธุ์อื่นๆ ที่ต้องการการสุกช้า และสมดุล
การเก็บเกี่ยวองุ่น สำหรับองุ่นจะถูกเก็บเกี่ยวในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งมักเป็นช่วงกลางคืน หรือเช้ามืด เพื่อรักษาความสด และป้องกันไม่ให้ความร้อนทำลายโครงสร้างรสชาติขององุ่น โดยมีการทดสอบระดับความหวาน และความเป็นกรดก่อนการเก็บเกี่ยวด้วย
การคัดแยก และบดองุ่น สำหรับองุ่นที่ได้จะถูกคัดแยกอย่างละเอียด ทั้งด้วยมือ และเครื่องจักร เพื่อกำจัดลูกที่เสียหาย หรือไม่สมบูรณ์ออก จากนั้นจึงนำไปผ่านเครื่องบดเบาๆ เพื่อแยกน้ำ และเปลือกองุ่น ที่เตรียมเข้าสู่กระบวนการหมักในขั้นตอนถัดไป
การหมัก และการควบคุมอุณหภูมิ สำหรับขั้นตอนการหมักนั้นจะหมักในถังสแตนเลสที่ควบคุมอุณหภูมิอย่างเข้มงวด เพื่อควบคุมอัตราการปล่อยกลิ่น และรสชาติ และอุณหภูมิที่ใช้หมักจะอยู่ในช่วงประมาณ 25-30 องศาเซลเซียส เพื่อให้ยีสต์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และคงไว้ซึ่งกลิ่นผลไม้ และโครงสร้างแทนนินที่สมดุล
การกดแยกน้ำไวน์ หลังจากหมักจนเสร็จแล้ว องุ่นที่เหลือจะถูกกดเบาๆ เพื่อสกัดน้ำไวน์เพิ่มเติม โดยแยกส่วนเปลือก และกากองุ่นออกก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนถัดไป
การบ่มในถังไม้โอ๊ค สำหรับน้ำไวน์ที่ได้จะถูกนำไปบ่มในถังไม้โอ๊คฝรั่งเศส และบางส่วนใช้ไม้โอ๊คอเมริกัน เป็นระยะเวลาประมาณ 12-18 เดือน เพื่อเพิ่มกลิ่นเครื่องเทศ วานิลลา และช่วยให้แทนนินนุ่มนวลขึ้น โดยทีมไวน์เมกเกอร์จะคอยชิม และปรับระดับการบ่มอย่างใกล้ชิด
การผสมผสาน และบรรจุขวด เมื่อบ่มเรียบร้อยแล้ว ไวน์จากถังต่างๆ จะถูกนำมาชิม และคัดเลือก เพื่อผสมกันในสัดส่วนที่เหมาะสม ทำให้ได้รสชาติที่สมดุล กลมกล่อม และแสดงเอกลักษณ์ของ Knight Valley จากนั้นจึงเข้าสู่การกรอง และบรรจุขวดภายใต้มาตรฐานการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อวางจำหน่ายให้นักดื่มทั่วโลกได้ลิ้มลองกัน
สำหรับ Beringer Knight Valley เป็นไวน์แดงที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นทั้งในแง่ของรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่น ที่ได้รับการออกแบบโดยมุ่งเน้นความสมดุลระหว่างความเข้มข้นของผลไม้ แทนนินจากเปลือกองุ่น และกลิ่นที่ได้จากการบ่มในถังไม้โอ๊ค จึงทำให้เวลาดื่มนั้นนักดื่มสามารถสัมผัสได้ถึงรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
รสชาติ (Flavor) สำหรับรสชาติของ Beringer Knight Valley นั้นจะมีความเข้มข้นของผลไม้สีเข้มนานาชนิด เช่น แบล็กเชอร์รี ลูกพรุน บลูเบอร์รี และแบล็กเบอร์รี ซึ่งเป็นผลจากการปลูกองุ่นใน Knight’s Valley ที่มีแสงแดดจัด และอุณหภูมิที่เหมาะกับการสุกขององุ่น Cabernet Sauvignon ตามมาด้วยความโอ๊คกี้ที่มีความหอมของดาร์คช็อกโกแลต เครื่องเทศ และวานิลลาที่ได้จากการบ่มในถังไม้โอ๊ค ทำให้รสชาติกลมกล่อม หวานปานกลาง และมีความนุ่มลึกในทุกจิบ
รสสัมผัส (Mouthfeel) สำหรับรสสัมผัสของ Beringer Knight Valley นั้นจะเป็นแบบ Full Body มีความเข้มข้นของแทนนิน และ Acidity หรือความเป็นกรดสูง ทำให้เนื้อสัมผัสนั้นมีความหนักแน่น แต่ยังคงความนุ่มลื่น อีกทั้งยังมีความสดชื่นที่ทำให้ไวน์ไม่หนักจนเกินไป และยังมีความกลมกล่อมที่ทำให้ไวน์ดื่มง่ายแม้จะยังอายุไม่มาก และยิ่งเก็บไว้นานก็จะยิ่งพัฒนาเป็นไวน์ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
กลิ่น (Aroma) สำหรับกลิ่นของ Beringer Knight Valley นั้นจะมีความหอมหวานของผลไม้สีเข้มอย่างชัดเจน เช่น เชอร์รี แบล็กเคอแรนท์ บลูเบอร์รี และแบล็คเบอร์รี ตามมาด้วยความหอมของเครื่องเทศจากการบ่มในถังไม้โอ๊ค เช่น กลิ่นวานิลลา อบเชย กานพลู และกาแฟดำ ปิดท้ายด้วยกลิ่นของหนังสัตว์ และสมุนไพรแห้งจางๆ ที่ช่วยเพิ่มมิติให้กับไวน์มากขึ้น
สำหรับ Beringer Knight Valley เป็นไวน์แดงจาก Napa Valley ที่มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะกลิ่นอายของ Terrior อย่าง Knight Valley และถ้าหากนักดื่มอยากจะสัมผัสกลิ่นอาย และเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้ชัดเจนในทุกหยด ก็ควรให้ความสำคัญกับวิธีการเสิร์ฟ การดื่ม การจับคู่อาหาร และการเก็บรักษา ดังนี้
วิธีการเสิร์ฟ ควรทำการเสิร์ฟ Beringer Knight Valley ในอุณหภูมิที่เหมาะสมประมาณ 16-18 องศาเซลเซียส ที่เป็นอุณหภูมิที่ช่วยปลดปล่อยกลิ่นของไวน์ออกมาได้ดี และถ้าหากนำออกจากห้องเก็บไวน์ หรืออุณหภูมิห้องทั่วไปในเมืองร้อน ควรแช่ในถังน้ำแข็งประมาณ 10 นาที หรือในตู้เย็นประมาณ 30 นาทีแล้วนำออกมาวางพักก่อนเสิร์ฟ พร้อมกับใช้แก้วไวน์ทรงบอร์กโดซ์ ที่มีปากแก้วกว้างเล็กน้อย และก้นลึก เพื่อให้ไวน์สามารถหมุนในแก้วได้สะดวก กลิ่นหอมจะฟุ้งขึ้นมาได้ดี และโครงสร้างไวน์แดงเต็มตัวจะไม่ถูกปิดกั้น และสำหรับไวน์วินเทจใหม่ หรือไวน์ที่ยังอายุไม่มาก ควรทำการดีแคนต์ประมาณ 30-60 นาที เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปเปิดกลิ่น และรสชาติได้ดีขึ้น และถ้าหากเป็นไวน์ที่มีอายุหลายปีควรดีแคนต์อย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ตะกอนฟุ้งกระจาย
วิธีการดื่ม ควรทำการดื่ม Beringer Knight Valley ที่เริ่มจากการหมุนแก้วไวน์เบาๆ เพื่อให้กลิ่นหอมฟุ้งกระจาย หลังจากนั้นให้นักดื่มทำการสูดดมกลิ่น และทำการจิบทีละเล็กน้อย พร้อมกับกลั้วให้ทั่วปากแบบเบาๆ เพื่อสัมผัสถึงรายละเอียดต่างๆ ที่ค่อยๆ เผยออกมาทีละชั้น แล้วจึงค่อยๆ กลืนช้าๆ เพื่อสัมผัสรสชาติที่จะทิ้งท้ายไว้ภายในปาก และบนลิ้นไว้อย่างยาวนาน
วิธีการจับคู่อาหาร ควรทำการจับคู่ Beringer Knight Valley กับอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อแดง เช่น สเต็กริบอาย เนื้อวัวอบ เนื้อวากิวย่าง หรือเนื้อซอสไวน์แดง หรือจะเป็นเมนูอาหารอบ และสตูว์ เช่น ลาซานญาเนื้อ สตูว์เนื้อ ซี่โครงวัวตุ๋น หรือพาสต้าเนื้อ รวมถึงเมนูที่มีส่วนประกอบของชีสต่างๆ เช่น เชดดาร์ชีส พาร์เมซานชีส หรือชีสประเภทต่างๆ ตามความชอบ หรือจะเลือกรับประทานของหวานอย่างดาร์คช็อคโกแลต ก็จะยิ่งช่วยปิดมื้ออาหารได้อย่างสมบูรณ์แบบ
วิธีการเก็บรักษา ควรทำการเก็บรักษา Beringer Knight Valley ไว้ในที่มืด ไม่โดนแสงแดด ไม่โดนความร้อนโดยตรง และมีอุณหภูมิคงที่ประมาณ 12-15 องศาเซลเซียส พร้อมกับวางขวดไว้ในแนวนอน เพื่อให้ไวน์สัมผัสกับจุกไม้คอร์ก ช่วยป้องกันไม่ให้จุกคอร์กแห้ง ที่เป็นสาเหตุของการรั่วซึมของอากาศ และถ้าหากเปิดขวดแล้ว ควรเก็บรักษาด้วยจุกสุญญากาศ เก็บไว้ในตู้เย็น และควรดื่มให้หมดให้เร็วที่สุด เพื่อรักษารสชาติ และกลิ่นที่คงเดิมมากที่สุด
สำหรับนักดื่มที่กำลังอยากจะซื้อ Beringer Knight Valley ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Cellar BKK แหล่งนำเข้า และแหล่งจำหน่ายเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีบริการแอดมินให้คำแนะนำสินค้าอย่างมืออาชีพ อยากได้ไวน์ที่มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน หรืออยากได้เครื่องดื่มประเภทอื่นๆ อยากได้ยี่ห้อไหนเป็นพิเศษ มีงบประมาณเท่าไหร่ ซื้อดื่มเอง หรือซื้อเป็นของขวัญ ก็สามารถแจ้งแอดมินได้ เพื่อให้แอดมินแนะนำเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์กับความต้องการของนักดื่มมากที่สุด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้เลยที่
Line Official : @wincellar24
Website : www.winecellarbkk.com หรือ คลิก ที่นี่
โดยที่ Wine Cellar BKK มีเครื่องดื่มให้นักดื่มได้เลือกสรรกันหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นไวน์แดง ไวน์ขาว แชมเปญ สปาร์คกลิ้งไวน์ คอนญัก วิสกี้ หรือเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีให้เลือกซื้อกันอย่างครบครัน การันตีสินค้าทุกขวดเป็นของแท้ 100% ผ่านการคัดสรรเครื่องดื่มทุกขวดด้วยความใส่ใจ เพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่มีคุณภาพ และมาตรฐาน และการันตีว่าจำหน่ายในราคาดีที่สุดในตลาด เพื่อจำหน่ายเครื่องดื่มพรีเมียมในราคาสบายกระเป๋า และให้นักดื่มเข้าถึงเครื่องดื่มขวดโปรดได้ในราคาย่อมเยา มาพร้อมกับบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงหน้าบ้าน ที่มีให้นักดื่มได้เลือกใช้ทั้งบริการจัดส่งสินค้าด่วนภายในกทม. ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง และบริการจัดส่งสินค้าทั่วประเทศ ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 1-2 วัน สามารถสั่งซื้อเครื่องดื่มกับ Wine Cellar BKK ได้ง่ายๆ ทุกที่ ทุกเวลา แพ็คสินค้าทุกออเดอร์เป็นอย่างดี มีการรับประกันสินค้าระหว่างการจัดส่ง หากสินค้าได้รับความเสียหาย แตก หัก หรืออยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ที่เกิดจากการจัดส่ง ทางร้านยินดีเปลี่ยนเครื่องดื่มเป็นขวดใหม่ให้ทันที แบบไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อสร้างความประทับใจในการเลือกซื้อไวน์กับเราตลอดการบริการ
Thanks for subscribing!
This email has been registered!