Couldn't load pickup availability
- Free standard shipping on orders over 10,000 THB
You may return most new, unopened items within 30 days of delivery for a full refund. We'll also pay the return shipping costs if the return is a result of our error (you received an incorrect or defective item, etc.).
You should expect to receive your refund within four weeks of giving your package to the return shipper, however, in many cases you will receive a refund more quickly. This time period includes the transit time for us to receive your return from the shipper (5 to 10 business days), the time it takes us to process your return once we receive it (3 to 5 business days), and the time it takes your bank to process our refund request (5 to 10 business days).
If you need to return an item, simply login to your account, view the order using the "Complete Orders" link under the My Account menu and click the Return Item(s) button. We'll notify you via e-mail of your refund once we've received and processed the returned item.
ถ้าหากเอ่ยถึงสปาร์คกลิ้งไวน์ที่สะท้อนความงดงามของวิถีชีวิตแบบอิตาลีได้อย่างชัดเจน หนึ่งในชื่อที่ถูกพูดถึงบ่อยครั้ง คือ 7 Cascine Prosecco Extra Dry ที่เต็มไปด้วยความสดใส และเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยรสชาติที่ดื่มง่าย ฟองละเอียด และความหอมที่ชวนให้หลงใหล ไม่ว่าจะดื่มในมื้ออาหาร งานเฉลิมฉลอง หรือแม้แต่จิบเบา ๆ ในวันพักผ่อนก็ตอบโจทย์ได้ครบทุกอารมณ์
และในบรรดา Prosecco ที่มีหลากหลายแบรนด์ 7 Cascine Prosecco Extra Dry ถือเป็นสปาร์คกลิ้งไวน์ที่โดดเด่น และแตกต่าง ด้วยสไตล์ Extra Dry ที่มีความหวานละมุนผสมกับความสดชื่น จึงเหมาะสำหรับทั้งนักดื่มมือใหม่ และนักดื่มที่มีประสบการณ์อยู่แล้ว อีกทั้งสปาร์คกลิ้งไวน์รุ่นนี้ยังเลือกใช้องุ่นพันธุ์ Glera ซึ่งเป็นหัวใจหลักของ Prosecco ผสานกับกระบวนการผลิตแบบดั้งเดิมที่ปรับให้เข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้ได้สปาร์คกลิ้งไวน์ที่ทั้งสดใหม่ มีคุณภาพ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร
ดังนั้น ในบทความนี้ทาง Wine Cellar BKK ก็จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ 7 Cascine Prosecco Extra Dry ว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน ทำไมถึงเป็นที่นิยมของเหล่านักดื่มมาอย่างยาวนาน พร้อมแชร์เทคนิคในการดื่มแบบง่ายๆ ที่ช่วยให้สัมผัสถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสปาร์คกลิ้งไวน์ได้อย่างเต็มที่ โดยจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง สามารถติดตามกันได้เลย
7 Cascine Prosecco Extra Dry เกิดจากความตั้งใจของกลุ่มผู้ผลิตไวน์ในแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี ที่ต้องการสร้าง Prosecco ที่สะท้อนเอกลักษณ์ท้องถิ่นแต่ขณะเดียวกันก็ตอบโจทย์ผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความสดชื่น และความดื่มง่าย โดยคำว่า Cascine มาจากภาษาอิตาลีซึ่งหมายถึง “ไร่” หรือ “ฟาร์ม” ที่สะท้อนถึงรากฐานของการทำไวน์ที่ผูกพันกับธรรมชาติ และไร่องุ่น
โดย 7 Cascine Prosecco Extra Dry ถูกผลิตขึ้นครั้งแรกในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 21 หรือราวปี 2000 เพื่อตอบสนองกระแสความนิยมของ Prosecco ที่กำลังเติบโตทั้งในยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งก่อนหน้านั้น Prosecco ส่วนใหญ่เน้นไปที่สไตล์ Brut ซึ่งมีความแห้งมาก แต่ทีมผู้ผลิตของ 7 Cascine Prosecco Extra Dry เล็งเห็นว่าผู้ดื่มจำนวนไม่น้อยชอบรสชาติที่มีความหวานละมุน และเข้าถึงง่ายมากกว่า จึงได้เลือกผลิตในสไตล์ Extra Dry ที่มีระดับน้ำตาลพอเหมาะ หรือประมาณ 12-17 กรัมต่อลิตร ทำให้สร้างสมดุลระหว่างความสดชื่น และความหวานกลมกล่อมได้อย่างลงตัว
สิ่งที่ทำให้ไวน์รุ่นนี้โดดเด่น คือ การเลือกใช้องุ่นพันธุ์ Glera คุณภาพสูงจากไร่องุ่นที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่มีสภาพดิน และสภาพภูมิอากาศเหมาะสมที่สุดในเวเนโต โดยองุ่นทุกผลจะถูกเก็บเกี่ยวด้วยมือในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อรักษาความสด และความเป็นกรดตามธรรมชาติ จากนั้นนำเข้าสู่กระบวนการหมักด้วยวิธี Charmat Method หรือ Tank Method ซึ่งเป็นเทคนิคที่ช่วยรักษากลิ่นหอมของผลไม้สด พร้อมสร้างฟองที่ละเอียด และนุ่มนวล
และอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่สำคัญของ 7 Cascine Prosecco Extra Dry คือ การได้รับการรับรองสถานะ DOC และ DOCG จากรัฐบาลอิตาลี ซึ่งเป็นการยกระดับคุณภาพ และสร้างมาตรฐานที่ชัดเจน ทำให้ 7 Cascine Prosecco Extra Dry มีความน่าเชื่อถือ และสามารถเข้าสู่ตลาดต่างประเทศได้อย่างแข็งแกร่ง
นอกจากคุณภาพของ 7 Cascine Prosecco Extra Dry แล้ว แบรนด์ยังให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ โดยออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ดูทันสมัยแต่ยังคงความคลาสสิก เพื่อให้เหมาะกับการเป็นทั้งเครื่องดื่มในมื้อพิเศษ และของขวัญที่มีคุณค่า และปัจจัยเหล่านี้ทำให้ 7 Cascine Prosecco Extra Dry สามารถเจาะตลาดได้ทั้งในยุโรป อเมริกา และเอเชีย
ดังนั้น 7 Cascine Prosecco Extra Dry จึงเป็นสปาร์คกลิ้งไวน์ที่ผสมผสานระหว่างความดั้งเดิมกับความทันสมัย ที่มีทั้งรากฐานจากประวัติศาสตร์ไวน์ของอิตาลี แต่ถูกพัฒนาให้เข้ากับรสนิยมสากล ทำให้ 7 Cascine Prosecco Extra Dry ไม่ใช่เพียงสปาร์คกลิ้งไวน์สำหรับการเฉลิมฉลองเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความพิถีพิถัน ความสมดุล และเสน่ห์ที่ทำให้ Prosecco ยังคงครองใจผู้ดื่มทั่วโลก
สำหรับกระบวนการผลิต 7 Cascine Prosecco Extra Dry ที่มีคุณภาพสูงนั้นจะต้องอาศัยความพิถีพิถันทุกขั้นตอน โดยเฉพาะเมื่อใช้องุ่น Glera 100% ที่ต้องการรักษาความหอม สด และความละเอียดอ่อนไว้ ทำให้ในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการผลิต 7 Cascine Prosecco Extra Dry นั้นมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
การเก็บเกี่ยวองุ่น สำหรับองุ่นสายพันธุ์ Glera ที่ใช้ในการผลิต 7 Cascine Prosecco Extra Dry นั้นจะถูกเก็บเกี่ยวในช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงกลางกันยายน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่องุ่นมีความสุกพอดี และในการเก็บเกี่ยวนั้นจะทำในช่วงเช้า เพื่อรักษาอุณหภูมิของผลองุ่นให้เย็น ซึ่งจะช่วยคงกลิ่นหอมตามธรรมชาติ และจะทำการเก็บเกี่ยวด้วยมือเท่านั้น เพื่อให้ได้เฉพาะผลองุ่นที่มีคุณภาพสูงที่เหมาะกับการผลิตสปาร์คกลิ้งไวน์มากที่สุด
การแยกก้าน และบีบคั้น หลังจากเก็บเกี่ยวแล้ว องุ่นจะถูกส่งเข้าสู่เครื่องแยกก้าน และเข้าสู่กระบวนการ “Soft Pressing” หรือการบีบคั้นแบบนุ่มนวล เพื่อให้ได้เฉพาะน้ำองุ่นบริสุทธิ์ ซึ่งในขั้นตอนนี้จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เมล็ด หรือเปลือกถูกบดมากเกินไป เพราะอาจทำให้มีรสฝาด หรือขม รวมถึงจะต้องควบคุมอุณหภูมิในขั้นตอนนี้ไม่ให้เกิน 10 องศาเซลเซียส เพื่อป้องกันการเกิดการหมักก่อนเวลา และช่วยรักษากลิ่นหอมผลไม้ขององุ่น Glera ไว้อย่างสมบูรณ์
การตกตะกอน และทำให้ใส เป็นขั้นตอนที่น้ำองุ่นที่ได้จะถูกพักไว้ในถังสแตนเลส เพื่อให้เกิดการตกตะกอนตามธรรมชาติ หรือที่เรียกว่ากระบวนการ Cold Settling และในขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 12-24 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็จะทำการกรองเอาส่วนใสออกไปหมักต่อ และในขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่จะช่วยกำหนดความใส ความสะอาด และเนื้อสัมผัสของไวน์
การหมักแอลกอฮอล์ครั้งแรก เป็นขั้นตอนที่จะนำเฉพาะน้ำองุ่นใสที่ผ่านการกรองมาหมักในถังสแตนเลสที่ควบคุมอุณหภูมิระหว่าง 14-18 องศาเซลเซียส พร้อมกับเติมยีสต์สายพันธุ์เฉพาะเข้าไปเพื่อเริ่มการหมัก ทำให้น้ำตาลจากองุ่นจะถูกยีสต์เปลี่ยนเป็นแอลกอฮอล์ และจะใช้เวลาหมักประมาณ 10–12 วัน เพื่อให้ได้เบสไวน์ที่มีความสด เปรี้ยวเล็กน้อย และกลิ่นหอมของผลไม้สีขาว เช่น ลูกแพร์ แอปเปิ้ล และพีช เป็นต้น
การหมักครั้งที่สองในถังแรงดัน เป็นขั้นตอนที่ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการผลิต 7 Cascine Prosecco Extra Dry โดยในขั้นตอนนี้เบสไวน์ที่ได้จะถูกนำไปหมักอีกครั้งในถังแรงดัน พร้อมเติมน้ำตาล และยีสต์ลงไป และในกระบวนการนี้จะสร้างคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นภายในไวน์ ทำให้เกิดฟองละเอียด และนุ่มนวล และจะใช้ระยะเวลาประมาณ 20-30 วัน จนได้ฟองละเอียดตามมาตรฐาน DOC และจะใช้วิธี Charmat Method ที่ช่วยให้ไวน์ยังคงกลิ่นผลไม้สดชื่น
การหยุดหมัก กรอง และบรรจุขวด เมื่อได้สปาร์คกลิ้งไวน์ตามมาตรฐานแล้ว การหมักจะถูกหยุดด้วยการลดอุณหภูมิลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นไวน์จะถูกกรองด้วยระบบ Sterile Filtration เพื่อกำจัดตะกอน และยีสต์ที่เหลืออยู่ แล้วจึงเข้าสู่กระบวนการบรรจุขวด และทุกขั้นตอนนั้นจะทำในระบบปิด เพื่อป้องกันการปนเปื้อน และรักษาคาร์บอนไดออกไซด์ในไวน์ไม่ให้สูญหาย
การพักไวน์ และจัดส่ง หลังจากบรรจุขวดแล้ว สปาร์คกลิ้งไวน์จะถูกพักไว้ในห้องเก็บที่มีอุณหภูมิคงที่ประมาณ 10–15 องศาเซลเซียส อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้ฟอง และรสชาติกลมกล่อม จากนั้นจึงค่อยทำการวางจำหน่ายให้กับนักดื่มทั่วโลก
สำหรับ 7 Cascine Prosecco Extra Dry เป็นสปาร์คกลิ้งไวน์แบบ “Extra Dry” ที่มีระดับความหวานที่สมดุล ระหว่างความสดชื่นกับกลิ่นผลไม้ รสสัมผัสที่นุ่มนวล มาพร้อมเนื้อฟองละเอียด ทำให้เวลาที่นักดื่มดื่มนั้นจะสามารถสัมผัสได้ถึงรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นที่มีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
รสชาติ (Flavor) สำหรับรสชาติของ 7 Cascine Prosecco Extra Dry นั้นเป็นแบบ Extra Dry ทำให้มีความกลมกล่อม และบาลานซ์ระหว่างความหวาน และกรดอย่างชัดเจน โดยมีน้ำตาลอยู่ประมาณ 12-17 กรัมต่อลิตร ทำให้เหมาะสำหรับนักดื่มที่ชอบรสสัมผัสที่นุ่มนวล แต่ไม่หวานจนเกินไป และมีรสชาติของผลไม้สุก เช่น ลูกพีช มะละกอ หรือเลมอนหวาน ที่เข้ามาเสริมกับความสดของแอปเปิ้ลได้อย่างลงตัว
รสสัมผัส (Mouthfeel) สำหรับรสสัมผัสของ 7 Cascine Prosecco Extra Dry นั้นจะมีความเนียนละเอียด นุ่มลิ้น โดยฟองจะค่อยๆ ละลายขณะดื่ม ทำให้รู้สึกถึงความสดใหม่ทุกสัมผัส อีกทั้งยังมีความเป็นกรดอยู่ในระดับปานกลาง ที่ให้ความรู้สึกสดชื่น อีกทั้งยังมีโครงสร้างที่บางเบา ทำให้ดื่มง่าย และดื่มได้เรื่อยๆ อย่างเพลิดเพลิน
กลิ่น (Aroma) สำหรับกลิ่นของ 7 Cascine Prosecco Extra Dry นั้นจะเปิดมาด้วยความหอมของผลไม้สดชื่น โดยเฉพาะกลิ่นแอปเปิ้ลเขียว ลูกแพร์ และพีชขาว ซึ่งกลิ่นหอมนี้เกิดจากองุ่นพันธุ์ Glera ที่เป็นสายพันธุ์หลักในการผลิต และโดยธรรมชาติขององุ่นพันธุ์นี้ให้กลิ่นผลไม้ขาวที่เด่นชัด และยังมีโทนดอกไม้บางๆ เช่น ดอกอะคาเซีย และดอกไวท์โรส ที่ช่วยเพิ่มมิติของกลิ่นอีกด้วย
ด้วยองค์ประกอบของรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นของ 7 Cascine Prosecco Extra Dry ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร และสะท้อนถึงเอกลักษณ์ของสปาร์คกลิ้งไวน์ได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ 7 Cascine Prosecco Extra Dry เป็นอีกหนึ่งสปาร์คกลิ้งไวน์ที่เป็นที่นิยมของนักดื่มทั่วโลก ดังนั้น ถ้าหากนักดื่มคนไหนอยากจะสัมผัสถึงความพรีเมียม และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ 7 Cascine Prosecco Extra Dry ในราคาสบายกระเป๋า ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Celler BKK ที่มี 7 Cascine Prosecco Extra Dry พร้อมส่งทันที ไม่ต้องรอพรีออเดอร์ ของแท้ 100% ราคาดีที่สุด จัดส่งไวให้ถึงหน้าบ้าน สั่งซื้อได้ที่ Line Official : @winecellar24 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ถ้าหากนักดื่มอยากจะสัมผัสถึงความหอมหวาน และความสดชื่นของ 7 Cascine Prosecco Extra Dry ได้อย่างชัดเจนนั้นจะต้องให้ความสำคัญในเรื่องของการเสิร์ฟ การดื่ม การจับคู่กับอาหาร และการเก็บรักษาอย่างเหมาะสม โดยในแต่ละเทคนิคนั้นก็จะมีรายละเอียดต่างๆ ดังนี้
วิธีการเสิร์ฟ ควรทำการเสิร์ฟ 7 Cascine Prosecco Extra Dry ที่อุณหภูมิประมาณ 6-8 องศาเซลเซียส โดยแช่ถังน้ำแข็งก่อนเสิร์ฟประมาณ 15-20 นาที หรือแช่ในตู้เย็น 2-3 ชั่วโมงก่อนเสิร์ฟ ถ้าหากเสิร์ฟเย็นเกินไป อาจทำให้กลิ่นหอมอ่อนลง และถ้าหากเสิร์ฟอุ่นเกินไปจะทำให้รสชาติหวานจัดจนเกินไป พร้อมกับเลือกใช้แก้วทรงฟลูต หรือแก้วทรงทิวลิป เพื่อช่วยรักษาฟองให้ยาวนาน และช่วยให้กลิ่นหอมฟุ้งกระจายได้ดี และในขณะที่รินไวน์นั้นควรเอียงแก้วประมาณ 45 องศา และรินไวน์ช้าๆ เพื่อรักษาฟองให้ละเอียดที่สุด
วิธีการดื่ม ควรทำการดื่ม 7 Cascine Prosecco Extra Dry เริ่มจากการหมุนไวน์ในแก้วเบาๆ เพื่อเปิดกลิ่นหอมให้ฟุ้งกระจาย หลังจากนั้นให้ทำการดม เพื่อสัมผัสถึงชั้นของกลิ่นต่างๆ ที่ค่อยๆ เผยออกมา แล้วจึงค่อยทำการจิบทีละเล็กน้อยอย่างช้าๆ กลั้วในปากเบาๆ และค่อยๆ กลืน เพื่อสัมผัสได้ถึงความหอมหวาน และรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน
วิธีการจับคู่อาหาร ควรทำการจับคู่ 7 Cascine Prosecco Extra Dry กับอาหารเรียกน้ำย่อย เช่น แฮม พาร์มา หรือชีสต่างๆ เช่น บรี หรือคาเมมเบิร์ต หรืออาหารทะเล เช่น หอยนางรม กุ้งสด ปลาหมึกย่าง รวมถึงเมนูอาหารเอเชีย เช่น ซูชิ หรืออาหารไทยรสเปรี้ยวหวาน และของหวานเบาๆ อย่างมูส ผลไม้สด หรือเค้กผลไม้ เป็นต้น
วิธีการเก็บรักษา ควรทำการเก็บรักษา 7 Cascine Prosecco Extra Dry ไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิคงที่ประมาณ 6-10 องศาเซลเซียส มืดสนิท ไม่โดนแสงแดด หรือโดนแสงไฟโดยตรง พร้อมกับวางไว้ในแนวนอนเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้จุกคอร์กแห้ง และเกิดการรั่วซึมของอากาศ ที่อาจทำให้เกิดการเสื่อมสภาพได้ และถ้าหากดื่มไม่หมดทันที ควรใช้จุกซีลสำหรับไวน์สปาร์คกลิ้งโดยเฉพาะ และเก็บไว้ในตู้เย็น และควรดื่มให้หมดภายใน 1-2 วัน เพื่อคงความสดชื่น และฟองละเอียดไว้
สำหรับนักดื่มที่กำลังอยากจะซื้อ 7 Cascine Prosecco Extra Dry ก็สามารถแวะมาหาซื้อได้ที่ Wine Cellar BKK แหล่งนำเข้า และแหล่งจำหน่ายเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีบริการแอดมินให้คำแนะนำสินค้าอย่างมืออาชีพ อยากได้ไวน์ที่มีรสชาติ รสสัมผัส และกลิ่นแบบไหน หรืออยากได้เครื่องดื่มประเภทอื่นๆ อยากได้ยี่ห้อไหนเป็นพิเศษ มีงบประมาณเท่าไหร่ ซื้อดื่มเอง หรือซื้อเป็นของขวัญ ก็สามารถแจ้งแอดมินได้ เพื่อให้แอดมินแนะนำเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์กับความต้องการของนักดื่มมากที่สุด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้เลยที่
Website : www.winecellarbkk.com หรือ คลิก ที่นี่
โดยที่ Wine Cellar BKK มีเครื่องดื่มให้นักดื่มได้เลือกสรรกันหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นไวน์แดง ไวน์ขาว แชมเปญ สปาร์คกลิ้งไวน์ คอนญัก วิสกี้ หรือเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ที่มีให้เลือกซื้อกันอย่างครบครัน การันตีสินค้าทุกขวดเป็นของแท้ 100% ผ่านการคัดสรรเครื่องดื่มทุกขวดด้วยความใส่ใจ เพื่อให้ได้เครื่องดื่มที่มีคุณภาพ และมาตรฐาน และการันตีว่าจำหน่ายในราคาดีที่สุดในตลาด เพื่อจำหน่ายเครื่องดื่มพรีเมียมในราคาสบายกระเป๋า และให้นักดื่มเข้าถึงเครื่องดื่มขวดโปรดได้ในราคาย่อมเยา มาพร้อมกับบริการจัดส่งสินค้าให้ถึงหน้าบ้าน ที่มีให้นักดื่มได้เลือกใช้ทั้งบริการจัดส่งสินค้าด่วนภายในกทม. ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง และบริการจัดส่งสินค้าทั่วประเทศ ที่ใช้เวลาในการจัดส่งประมาณ 1-2 วัน สามารถสั่งซื้อเครื่องดื่มกับ Wine Cellar BKK ได้ง่ายๆ ทุกที่ ทุกเวลา แพ็คสินค้าทุกออเดอร์เป็นอย่างดี มีการรับประกันสินค้าระหว่างการจัดส่ง หากสินค้าได้รับความเสียหาย แตก หัก หรืออยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ที่เกิดจากการจัดส่ง ทางร้านยินดีเปลี่ยนเครื่องดื่มเป็นขวดใหม่ให้ทันที แบบไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อสร้างความประทับใจในการเลือกซื้อไวน์กับเราตลอดการบริการ
Thanks for subscribing!
This email has been registered!